ภาษี ที่ว่าทักษิณโกง ที่ไปที่มา ? หรือเป็นแต่เพียงข้อกล่าวหาใส่ร้ายกัน เพื่อหวังผลทางการเมือง

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
คิดว่าบางท่านอาจยังไม่ทราบจึงขอ นำข้อเท็จจริงเกี่ยว​กับ​ ​ทักษิณ​ ​ชินวัตร​ ​และ​ ​ชินคอร์ป​


1. ​การเสียภาษี​จาก​การขายหุ้นชินคอร์ปฯ​ | 9.03.06
กรณีที่หนึ่ง​ ​ดร​.​ทักษิณ​และ​ภรรยามีหุ้นชินคอร์ปฯ​ 49% ​ตั้งบริษัทเอง​ 22 ​ปีก่อน​ ​เข้า​ตลาดหุ้น​ 15 ​ปีก่อน​ ​หุ้น​ทั้ง​หมดนี้หากขาย​ให้​ลูก​ ​คือ​ ​พาน​/​พิณ​ ​ทั้ง​หมด​ 49% ​ใน​ตลาดหุ้น​ ​จะ​ไม่​มีภาษี​ (เหมือนคนครึ่งล้านที่ลงทุน​ใน​ตลาดหุ้น​อยู่​ทุกวัน) ​เมื่อพาน​/​พิณขายต่อ​ให้​ใคร​ ​ก็​ไม่​มีภาษีอีกเช่น​กัน​ ​เพราะ​ฉะ​นั้น​ ​เป็น​สิทธิ์พื้นฐานที่มี​อยู่​แล้ว​ของดร​.​ทักษิณ​และ​ลูก​ ​คือนักลงทุนบุคคล​ไม่​มีภาษี​จาก​การขายหุ้น​ใน​ตลาดหุ้น​

ดัง​นั้น​ ​ดร​.​ทักษิณ​ไม่​จำ​เป็น​ต้อง​ทำ​อะ​ไรซับซ้อนเพื่อเลี่ยงภาษี​ (เช่นแอมเพิลริช) ​เพราะ​ไม่​มีภาษี​ให้​ลด​
ที่ดร​.​ทักษิณทำ​แอมเพิลริช​ใน​ปี​ 42 ​เพราะ​จะ​เอาชินคอร์ปฯ​เข้า​ตลาดหุ้นสหรัฐ​ (ดู​ หนังสือ​ถึง​ตลาดหลักทรัพย์​แห่งประ​เทศไทย​ ​ใน​ ​เอกสารประกอบ) ​ตอนหลังตลาดหุ้นสหรัฐตกมาก​ ​เลยหยุดแผน​ (ดู​ ข่าวชินคอร์ประงับ​เข้า​ตลาดแนสแดค​ ​ใน​เอกสารประกอบ) ​แต่หุ้นชินคอร์ปฯ​ 11% ​ก็​อยู่​ที่​แอมเพิลริชไปเรื่อยๆ​ ​ปลายปี​ 43 ​ก่อน​เป็น​นายกฯ​ ​ดร​. ​ทักษิณก็ขายโอนแอมเพิลริช​ให้​ลูก​
แผนภาพกรณีภาษีการขายหุ้นชินคอร์ป1

กรณีที่สอง​ ​ต้นปี​ 49 ​ที่จริงพาน​/​พิณ​สามารถ​ขายแอมเพิลริช​ (ที่ถือหุ้นชินคอร์ปฯ​อยู่)​ ​ให้​ผู้​ซื้อ​ใน​ต่างประ​เทศ​ได้​เลย​ ​ไม่​มีภาษี​ ​เป็น​สิทธิพื้นฐานเช่น​กัน​ ​แต่​เงิน​จะ​อยู่​นอกประ​เทศ​ (อาจโดนว่า​เก็บเงินนอกประ​เทศ)

กรณีที่สาม​ ​ดัง​นั้น​ ​เพื่อ​จะ​ขาย​ให้​เงิน​อยู่​ใน​ประ​เทศ​ ​พาน​/​พิณ​ ​ใน​ฐานะ​เจ้าของแอมเพิลริช​ ​ทำ​การโอนหุ้นชินคอร์ปฯที่​แอมเพิลริชถือ​อยู่​ ​มาถือเอง​โดย​ตรง​ ​และ​เมื่อขาย​ให้​ผู้​อื่น​ใน​ตลาดหุ้น​ ​ทั้ง​ส่วน​ 38% ​แรกที่ถือตรง​อยู่​แล้ว​ ​บวก​กับ​อีก​ 11% ​ที่มาถือตอนหลังโอนมา​จาก​แอมเพิลริช​ (คืนสู่​เหย้า)​รวม​ 49% ​ก็​ไม่​มีภาษี​

ปรากฏว่า​ ​ส่วน​แอมเพิลริช​ 11% ​ถูกกล่าวหาว่าหนีภาษี​ ​ทั้ง​ที่​เป็น​สิทธิ์​แต่​เดิมที่​ไม่​มีภาษี​ ​หากขายแอมเพิลริช​ใน​ต่างประ​เทศเหมือน​ใน​กรณีที่สอง​ ​หรือ​หากถือตรงมาตลอด​โดย​ไม่​มี​แอมเพิลริชเหมือน​ใน​กรณีที่หนึ่ง​
แผนภาพกรณีภาษีการขายหุ้นชินคอร์ป 2

กรณีที่​ 1    กรณีที่​ 2    กรณี​ 3
หากพาน​/​พิณถือหุ้นชิน​ ​โดย​ตรง​ 49% ​มาตลอด​ ​(​ไม่​มี​แอมเพิลริช) ​แล้ว​ขาย​ใน​ตลาดหุ้น​ ​ภาษี​ = 0 ​เป็น​สิทธิ์พื้นฐาน​    หากพาน​/​พิณขายแอมเพิลริช​ใน​ต่างประ​เทศเลย​ (หุ้นชิน​ส่วน​ 11% ​ติดไป) ​ภาษี​ = 0 (แต่​เงิน​จะ​อยู่​นอกไทย)    พาน​/​พิณซื้อหุ้นชิน​ส่วน​ 11% ​คืนกลับ​จาก​แอมเพิลริช​ (เจ้าของเดียว​กัน)​ ​แล้ว​ขาย​ใน​ตลาดหุ้น​ ​ภาษี​ = 0 (เพื่อเงิน​อยู่​ใน​ไทย)
ไม่​ต้อง​เลือกกรณี​ใด​กรณีหนึ่งเพื่อลดภาษี​เพราะ​ทั้ง​ 3 ​กรณี​ไม่​มีภาษี​อยู่​แล้ว​
ข้อกล่าวหาคือ​ ​การที่​แอมเพิลริชโอนหุ้นชินคอร์ปฯ​ให้​พาน​/​พิณที่ราคาพาร์​ 1 ​บาท​ ​ทั้ง​คู่​ต้อง​เสียภาษี​เพราะ​มี​เงิน​ได้​เพิ่ม​ ​(​ได้​มา​ 1 ​บาท​ ​ขาย​ 49 ​บาท​ ​เป็น​กำ​ไร​ 48 ​บาทที่​ต้อง​เสียภาษี) ​หรือ​จะ​เป็น​เหมือนกรณีบริษัทออกหุ้นจูงใจพนักงาน​ใน​ราคาถูกพิ​เศษ​ (สต็อกออปชั่น​ ​หรือ​ ESOP) ​ว่า​ ​ต้อง​เสียภาษี​ส่วน​ต่างระหว่างราคาหุ้นชินคอร์ปฯที่​ ​ซื้อขาย​ใน​ตลาด​กับ​ราคาที่​ได้​มา​ ​(​ได้​มา​ 1 ​บาท​ ​ใน​วันที่หุ้นชินคอร์ปฯราคา​ 42 ​บาท​ ​เป็น​กำ​ไร​ 41 ​บาท​ ​ซึ่ง​หาก​จะ​เสียภาษี​ต้อง​จ่ายวันที่ซื้อ​ ​ไม่​ใช่​วันที่ขายที่​ 49 ​บาท​ไม่​มีภาษี​เพราะ​ได้​เป็น​เจ้าของหุ้น​นั้น​แล้ว)​

ข้อกล่าวหานี้​ ​เป็น​การตี​ความ​คนละหลักการ​
เพราะ​ทั้ง​พาน​/​พิณ​เป็น​เจ้าของแอมเพิลริชก็ถือว่า​เป็น​เจ้าของหุ้นชินคอร์ปฯ​ 11% ​นี้​อยู่​แล้ว​ ​เป็น​บุคคลเดียว​กัน​ดังที่รายงานตลาดหุ้นมาตลอด​ ​ดัง​นั้น​ ​การที่​แอมเพิลริชโอนหุ้นชินคอร์ปฯ​ 11% ​ที่ถือ​อยู่​ ​ให้​พาน​/​พิณถือเอง​โดย​ตรง​ใน​ราคาพาร์​ ​ไม่​ทำ​ให้​พาน​/​พิณมีราย​ได้​เพิ่ม​ ​เพราะ​เป็น​หุ้น​และ​ต้นทุนของตนแต่​เดิม​
เป็น​คนละกรณี​กับ​ ​นายจ้างจ่ายผลตอบแทนลูกจ้าง​ด้วย​การออกหุ้น​ใหม่​ขาย​ให้​ใน​ราคาพิ​เศษ​ ​หรือ​ ​การ​ให้​รางวัลจับสลาก​ ​หรือ​ ​การขายตั๋วสัญญา​ใช้​เงินที่มี​ส่วน​ลดหน้าตั๋ว​ ​ล้วนทำ​ให้​ผู้​ซื้อมีราย​ได้​เพิ่ม​ ​ต้อง​เสียภาษี​
ประ​เด็นนี้หารือ​กับ​สรรพากรตั้งแต่กลางปีที่​แล้ว​ ​สรรพากรก็ยืนยันว่า​เรื่องนี้ถูก​ต้อง​ ​แต่ก็​ไม่​ฟัง​กัน​ ​กล่าวหาว่าลูกนายกฯหนีภาษี​ ​นายกฯ​ไม่​มีจริยธรรม​ ​สรรพากรผิดจรรยาบรรณ​เพราะ​ตี​ความ​เข้า​ข้างรับ​ใช้​นายกฯ​
หากแคลงใจ​ใน​แง่กฎหมาย​ ​ก็ควร​ให้​ศาล​เป็น​ผู้​ตัดสิน​ ​ไม่​ควรเอา​เป็น​ประ​เด็นโจมตีทางการเมืองไปที่นายกฯ​และ​สรรพากร​ ​และ​เป็น​สิทธิ์ของประชาชนตามกฎหมาย​ ​ที่มีหน้าที่​เสียภาษี​เท่า​ที่จำ​เป็น​
​หากเสียภาษี​เกิน​ ​ยัง​ไปเรียกคืน​จาก​สรรพากร​ได้​ ​ตามที่พวกเราทำ​ยื่นแบบ​กัน​ทุกปี​ (เปรียบเหมือนถนนข้างล่างว่างขับรถ​ได้​เร็ว​อยู่​แล้ว​ ​แต่กลับถูกกล่าวหาว่าการ​ไม่​ขึ้นทางด่วน​และ​เสียเงินค่าทางด่วน​ ​เป็น​การหลีกเลี่ยง)

ตลาดหลักทรัพย์ตั้งใจส่งเสริม​ให้​บุคคลธรรมดาที่ซื้อขายหุ้น​ใน​ตลาด​ไม่​มีภาษี​จาก​กำ​ไร​ ​เพราะ​ไม่​งั้นเสียเปรียบบริษัทนิติบุคคลที่​สามารถ​ทำ​งบกำ​ไรขาดทุน​ ​ที่​สามารถ​นำ​การขาดทุน​ ​การเสียภาษี​เงินปันผล​ ​การเสียภาษีกำ​ไรขายหุ้น​ ​ไปหักลบ​ใน​งบกำ​ไรขาดทุน​ ​ทำ​ให้​เสียภาษี​เงิน​ได้​นิติบุคคลน้อยลง​
บุคคลธรรมดาทำ​งบ​ไม่​ได้​ ​หากขาดทุน​ ​เสียภาษี​ ​หักลบอย่าง​อื่น​ไม่​ได้​เลย​ ​หากตลาดหลักทรัพย์​ไม่​ส่งเสริมเช่นนี้​ ​นักลงทุน​ 500,000 ​คน​ต้อง​ไปตั้งบริษัท​กัน​หมด​ ​วุ่นวาย​กัน​ใหญ่​ ​ทั้ง​ทำ​บัญชี​ ​สอบบัญชี​
ทั้ง​ตัวดร​.​ทักษิณ​ ​ครอบครัว​ ​บริษัท​ ​และ​พนักงานกว่า​12,000 ​คน​ ​เสียภาษีทุกรูปแบบ​ ​ทั้ง​เงิน​ได้​จาก​เงินปันผล​ ​เงิน​ได้​บุคคลธรรมดา​และ​นิติบุคคล​ ​รวม​ถึง​ค่าสัมปทานต่างๆ​ ​ทั้ง​มือถือ​ ​ดาวเทียม​ ​ฯลฯ​ ​ปีละหลายหมื่นล้านบาท​ ​สิบกว่าปีนี้หลายแสนล้านบาท​ ​เป็น​ผู้​จ่ายภาษีราย​ใหญ่​ที่สุดรายหนึ่งของประ​เทศไทย​ ​ร่วม​ 5% ​ของยอดจัดเก็บของสรรพกร​ ​ทำ​ขนาดนี้​ ​ทั้ง​ผู้​ก่อตั้ง​และ​ตัวบริษัทเอง​ ​เป็น​ผู้​เสียภาษีที่รักชาติ​ไม่​น้อยกว่า​ใครที่มา​โจมตี​ (หลายปีก่อนตอน​ยัง​ทำ​ธุรกิจ​ ​ดร​.​ทักษิณเคย​เป็น​บุคคลที่​เสียภาษีสูงสุดของไทยปีละหลายร้อนล้านบาทหลายปี)

กลุ่มบริษัทชินคอร์ปฯ​ ​ได้​ชื่อว่า​ ​เป็น​บริษัทดี​เด่นของไทย​ ​มูลค่าทางตลาดรวม​ใน​ตลาดหลักทรัพย์​ (Market Capitalization) ​กว่า​ 350,000 ​ล้านบาท​ ​เท่า​กับ​ 7% ​ของ​ทั้ง​ตลาดหุ้นไทย​ ​เป็น​หนึ่ง​ใน​สามบริษัทไทยที่ติด​ 500 ​อันดับแรกของบริษัท​ใหญ่​ที่สุด​ใน​โลกจัด​โดย​ฟอร์จูน​ (อีกสองบริษัทคือปูนซี​เมนต์​ไทย​และ​ปตท) ​ได้​รับรางวัล​จาก​ตลาดหลักทรัพย์​ไทย​และ​สถาบันการเงินระหว่างประ​เทศจำ​นวนมาก​ ​ใน​ความ​ดี​เด่น​ใน​แง่​ผู้​บริหาร​ ​การจัดการ​ ​ธรรมธิบาล​ ​การรายงานการเงิน​ ​ความ​เชื่อถือทางการเงิน​ (เครดิตทางการเงินของเอไอเอส​ ​ใน​เครือชินคอร์ปฯคอร์ป​ ​สูงกว่าของรัฐบาลไทย) ​ทำ​ได้​ขนาดนี้​ ​ต้อง​มี​ความ​สามารถ​และ​จริยธรรมเพียงพอแน่​

  ที่มา       http://sanpaworn.vissaventure.com/shin-corp-deal/277/1


                http://pantip.com/topic/31385469
  

  ฟ้าบรรจบดิน..
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
โกงไม่โกงผมไม่รู้ รู้แต่ศาลฏีกาตัดสินให้จำคุกสองปี ถ้าไม่ผิดทำไมต้องหนี คดีก็ไม่ร้ายแรงอะไร
เทียบกับบุคคลที่สั่งยิงทำไมไม่เห็นเขาหนี เป็นรัฐบาลทำไมถึงไม่จัดการ หรือว่าหลักฐานไม่เพียงพอจะเอาผิด ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่