ช่วยกันหาเงินสร้างครอบครัว หรือควรแต่งงานก่อนจะเข้าไปช่วยงานแฟนดีคะ

กระทู้คำถาม
ขอเกริ่นนิดนึงนะคะ
เราอยู่กรุงเทพ ทำงานอิสระค่ะ รับงานเป็นจ๊อบๆไป คือถ้าอยู่คนเดียวไม่ฟุ่มเฟือยมาก ก็พออยู่ได้
พ่อแม่เราอยู่ต่างจังหวัด เราเลยได้ใช้ชีวิตคนเดียวอยู่คอนโดมาตั้งแต่เรียนจนถึงปัจจุบัน


เรากับแฟนคบกันมาเกือบ 4 ปี  ตลอดเวลาที่คบกันแฟนเราเทคแคร์เราดีมาก
แฟนรายได้ค่อนข้างดีกว่าเรา คิดใหญ่ กล้าเสี่ยง เลยได้ผลตอบแทนกลับมามาก


เราก็อยากจะหาเงินได้เยอะๆแบบนั้นบ้าง อยากสร้างเนื้อสร้างตัวแล้ว
เราสองคนปรึกษากันตลอดว่าจะลงทุนหรือเริ่มทำอะไรดี
เพราะอายุใกล้เลข 3 ขึ้นทุกทีแล้ว ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย


คิดคำนวณอยู่หลายธุรกิจ ผลกำไรไม่คุ้มกับเงินที่ลงทุนไปเลยค่ะ
ไม่นานมานี้ แฟนเราคิดออกได้อยู่ธุรกิจนึง ที่เราก็เห็นด้วยว่าเวิร์คแน่นอน
โดยแฟนเราจะลงทุนให้ตอนแรก แต่...
เราต้องไปเปิดออฟฟิศ คุมงานที่ต่างหวัดบ้านเกิดเค้าค่ะ
เพราะทุกอย่างเอื้อให้ธุรกิจนี้มากๆ ทั้งแหล่ง เส้นสาย ฯลฯ


ตามที่คุยคือเป็นตึกแถวที่เค้าซื้อไว้ จะเปิดออฟฟิศด้านล่าง ข้างบนจะทำเป็นห้องให้เราอยู่
มีห้องครัวห้องน้ำ เครื่องซักผ้า ห้องนอน คือทำดีให้เป็นบ้านที่อยู่จริงจังเลย
ส่วนแฟนอยู่บ้านพ่อเค้าค่ะ ตอนเช้าก็มาช่วยงานเราที่ออฟฟิศ


เคยคุยกันเรื่องแต่งงาน เค้าบอกยังไม่พร้อม ขอเก็บตังก่อน
ที่เรามาช่วยเค้าทำงาน มันอาจจะได้ใจเค้าบ้างนะคะ


เราเคยเกริ่นๆกับแม่เราว่าถ้าย้ายไปช่วยกันทำงาน แม่โอเคมั๊ย
แม่บอกมันดูไม่ดี ไปอยู่อย่างนั้นโดยไม่แต่งงานได้ยังไง
เราบอกแม่ว่า ตอนนี้กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวกัน แล้วเราคิดว่าถ้าถึงเวลาสมควรแล้ว
เค้าคงบอกเราเองค่ะเรื่องแต่งงาน เค้าเพิ่งขอตังพ่อเค้ามาลงทุน
เค้าคงไม่กล้าพูดกับพ่อเรื่องแต่งตอนนี้แน่ค่ะ


เราควรจะทำยังไงดีคะ
อธิบายให้แม่เข้าใจแบบเป็นเรื่องเป็นราวว่า มันถึงเวลาต้องทำธุรกิจอะไรเพื่ออนาคตแล้ว
แต่เรากลัวว่าคนอื่นจะมองไม่ดีที่ไปบ้านเค้าโดยไม่ได้แต่งกัน
แล้วอีกใจนึงก็กลัวว่าจะไม่ได้แต่งค่ะ เมื่อมันเลยตามเลยไปแล้ว
ขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ คนอื่นมองว่ายังไงบ้างคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
คุณน้องจ๋า.. พี่เห็นด้วยกับเพื่อนสมาชิก คห.1 แบบเต็มๆ ค่ะ

จริงอยู่ค่ะ เรื่อง "อยู่ก่อนแต่ง" ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดพิสดารอะไร มานานมากแล้ว
ยิ่งมาถึงสมัยนี้ กลายเป็นเรื่องธรรมดา แทบไม่ต่างอะไรกับ "การทดลองงาน"
..ประมาณว่าถ้าผ่านโปร ก็แต่ง ..555
ซึ่งจะว่าไปก็ดีนะ .. ลดปัญหาอัตราการหย่าร้างไปได้เยอะ ... เพราะไม่มีการแต่งงาน ก็ไม่มีการหย่า !

การคิดสร้างเนื้อสร้างตัว ช่วยกันทำมาหากิน ..ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ
แต่ที่แปลก คือคิดเรื่องช่วยกันทำมาหากินเพื่อซื้อใจผู้ชาย ให้เค้าอยากแต่งงานด้วยนี่สิ ..?!?

..ประเด็น.. นอกจากแม่คุณ ซึ่งท่านก็ทักท้วงมาแล้ว คุณยังต้องนึกถึงพ่อแม่ - ญาติๆ ผู้ชายเค้าด้วย
ว่าเค้าจะรู้สึกยังไงกับผู้หญิงที่หอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่กับลูกชาย หลานชายเค้า
ถ้าพ่อแม่ทางโน้น เข้าใจว่าพวกคุณจริงจังกันนะ คบกันมาตั้ง 4 ปีแล้ว แต่อยากช่วยกันก่อร่างสร้างตัวก่อน
(ซึ่งที่จริงแต่งงานซะก่อน ค่อยช่วยกันทำมาหากินก็ได้นะ ) ..ก็โชคดีไป เค้าก็อาจมองคุณคือว่าที่ลูกสะใภ้
แต่ถ้าเค้าไม่ชอบใจ ..ผู้หญิงคนนี้จะมาเกาะลูกชายเค้าหรือเปล่า เคยทำแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า หรือมองอะไรในแง่ร้าย
..คุณก็ติดลบในสายตาญาติทางโน้นเค้า

ประเด็นต่อมา ..ในฐานะที่พี่เป็นเจ้าของกิจการ พี่ยังมองในแง่การแบ่งรายได้อีก
พวกคุณจะแบ่งเงินกำไรกันยังไงหว่า ??
ถ้าแฟนคุณจ่ายค่าจ้าง เป็นเงินเดือน .. ก็ดูเหมือนคุณเป็นลูกจ้างคนหนึ่ง
ถ้าแฟนคุณแบ่งเงินให้ตามใจเค้า คือให้บ้างไม่ให้บ้าง เพราะคุณก็ไปกินฟรี อยู่ฟรีที่บ้านเค้า
..คุณก็กลายเป็นคนไม่มีรายได้แน่นอน .. เหมือนเมีย แต่ไม่ใช่เมีย ..กระอักกระอ่วนน่าดูล่ะค่ะ คุณน้องเอ๋ย
( คุณลองนึกดูเล่นๆ นะ .. สมมุติเป็นเมีย แต่งงานจดทะเบียนถูกต้อง .. ทรัพย์สินที่ช่วยกันหา ถือเป็นสินสมรส
วันหนึ่งข้างหน้า เกิดไปด้วยกันไม่ได้ มีอันต้องเลิกร้างกัน ..ยังเอาข้อกฎหมายมาจัดการทรัพย์สินได้
แต่ถ้าไม่มีสถานะที่กฎหมายรับรอง ..วันหนึ่งเกิดต้องแยกทางกัน  ถ้าจบสวย ..คงพอคุยกันรู้เรื่อง ว่าจะแบ่งอะไรยังไง
ถ้าจบไม่สวย จะเอาอะไรไปต่อสู้ .. เหมือน case แฟนไปกู้ร่วมซื้อบ้าน ซื้อรถ .. หรือเอาชื่อคนหนึ่งซื้อ แต่ช่วยกันผ่อนน่ะแหล่ะค่ะ
เวลาเลิกกัน มีปัญหาทันที )

และในฐานะที่พี่มีครอบครัวที่ดี มีลูกสองแล้วนะคะคุณน้อง..
คอยเป็นที่ปรึกษาให้ครอบครัวของสังคญาติ และพนักงานในบริษัทของพี่อยู่เสมอ
ขออนุญาตแนะนำให้ คุณลองนึกทบทวนพฤติกรรมที่ผ่านมาของแฟนคุณดีๆ ค่ะ ว่าแฟนคุณเค้ามองเห็นอนาคตที่จะมีร่วมกันกับคุณหรือเปล่า
ไม่ใช่แค่มองว่าเค้า take care ดูแลคุณดี ..ต้องมองให้ครอบคลุมไปถึงเค้าคิดและปฏิบัติต่อพ่อแม่คุณ คนในครอบครัวคุณยังไงด้วย
เค้ามีความรู้สึกเป็นครอบครัวเดียวกันกับคุณหรือเปล่า หรือเค้ามองเห็นแต่ตัวเค้าเอง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเค้าคนเดียว ?

..บางคู่ ฝ่ายหญิง crazy ฝ่ายชายมาก ..เรียกว่าชั้นยอมทุกอย่าง ขอเพียงให้ชั้นได้อยู่ใกล้ๆ เธอ
ในขณะที่ฝ่ายชาย เฉยๆ ..สังเกตจากคำพูดก็รู้ ว่าเค้ายังไม่ได้คิดจะหยุดที่ผู้หญิงคนนี้ คือเหมือนยังดูไปก่อน
ถ้าวันหนึ่งเค้าเจอคนที่ใช่สำหรับเค้า ..ผู้หญิงคนที่คบอยู่ในวันนี้ ก็พร้อมจะถูกลดสถานภาพให้กลายเป็นอดีต ได้ง่ายๆ
เพราะเค้าไม่ได้มีเยื่อใยอะไร

..คำว่า "ยังไม่พร้อม" เป็นข้ออ้างสุดคลาสสิค ของคนยังไม่อยากมีพันธะ ไม่อยากถูกผูกมัด ไม่ว่าทางพฤตินัย หรือนิตินัย ..ค่ะ
โปรดจำไว้


ทั้งนี้ ..อนาคตเป็นของคุณน้อง จขกท. เองค่ะ
The choice is yours !!
ทางข้างหน้า ใครก็พยากรณ์ให้คุณไม่ได้ .. คงต้องคิดดีๆ ตัดสินใจดีๆ ละกันนะคะ

โชคดีค่ะ ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่