เราคนนึงละ
อยากให้การเมืองเป็นแบบ สู้กันด้วยนโยบาย ด้วยเหตุผล ด้วยข้อมูลที่เป็นจริง
ไม่ใช่การดิสเครดิตกันไปมา ทะเลาะกันเรื่องไร้สาระEปูIมาร์ค ข่าวจริงข่าวมั่ว ขอแชร์ ขอด่ากันไว้ก่อน
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเราก็ผิดหวังกับการบริหารทั้งสองฝ่าย อยากหาทางเลือกใหม่ๆ
แต่การที่เราออกมาบอกว่า เราไม่เลือกทั้งสองพรรคนี้นะ
กลับกลายเป็นว่าเราถูกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง บอกว่า เราเป็นกลางระหว่างถูกกับผิด (เอ่า TT)
ตรงนี้เราแอบเสียใจ เฮ้ยย ทำไมอ่ะ มันจำเป็นด้วยหรอ ที่เราต้องเลือก ถ้าเราไม่เลือกที่จะเกลียดอีกฝ่ายแล้วมาอยู่ด้วยกันกับฝ่ายตรงข้าม
จะกลับกลายเป็นว่าเราเป็นคน ไม่มีจุดยืน......... TT
ก็ในเมื่อจุดยืนของเราคือ ขอไม่เลือกทั้งสองพรรค
............
ตั้งแต่เราเล่น FB มา เราไม่เคยตั้งสเตตัสทางการเมือง หรือกระทู้ที่เกี่ยวกับการเมืองเลย
แต่พอเห็นเพื่อนๆ แชร์ข้อมูลมั่วๆ เยอะๆ เราเลยโพสเตตัส ครั้งแรกที่เกี่ยวกับการเมือง ไปเมื่อวาน ว่า
"เวลาจะแชร์ข้อมูล แชร์ภาพต่างๆ ผ่านทางเฟซบุค โดยเฉพาะเรื่องการเมือง เราจะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนจริง อันไหนไม่จริง ใครเป็นคนเขียนขึ้นมา ปีอะไร เอามาจากไหน หรือว่าเราไม่ต้องสนใจ สนใจแค่เพราะว่ามันสะใจและถูกใจเป็นพอ ก็เลยแชร์ ไม่กูเกิ้ล ไม่สืบ เสียเวลาทำมาหากิน แชร์เลยละกัน..... ซึ่งส่วนใหญ่เท่าที่อ่านเจอก็จะมีแต่ประเภทสื่อสร้างความเกลียดชังทั้งนั้น .... ที่ร้ายแรงก็คือ มีแต่ข้อมูลบิดเบือน แล้วที่แชร์ๆ ทำๆ ตามๆ กันไป โดยไม่ไตร่ตรอง ถามหน่อยว่าได้อะไร .....เราอยู่ในยุคที่การรับรู้ข้อมูลข่าวสารพัฒนาไปได้เร็วมาก แต่ทำไมทักษะในการพิจารณา คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เราถึงไม่พัฒนาตามไปด้วย?... #ลองกลับเอาไอ้ที่โพสๆแชร์ๆไปกูเกิ้ลดูดิ่ #นี่ก็กำลังฝึกนะเคยเงิบเชื่ออะไรง่ายๆก็มี #เราไม่เทือกไม่ปูไม่โหน #ไม่ได้ไปม๊อบแต่ก็รักชาติรักในหลวงเหมือนกันนะ #ความในใจที่เก็บไว้มานาน"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อมา ก็มีโพสนี้มาแปะวอลเรา อานันท์ ปันยารชุน..ปลุกสังคมไทยอย่าเป็นกลางด้วยการนิ่งเฉย
"“การเสวนาในวันนี้เป็นเรื่องของความเป็นกลางไม่ได้สนับสนุนฝ่ายใด แต่ผมประกาศเลยว่าผมไม่เป็นกลาง ในชีวิตผมไม่เคยเป็นกลาง ไม่เคยเป็นกลางระหว่างความถูกกับความผิด ไม่เคยเป็นกลางระหว่างความดีกับชั่ว ไม่เคยเป็นกลางระหว่างประชาธิปไตยกับความไม่เป็นประชาธิปไตย ระหว่างธรรมกับอธรรม ไม่เคยเป็นกลางระหว่างกติกาตามรัฐธรรมนูญกับกติกาจัดตั้งระหว่างอิสรภาพของสื่อกับการกีดกั้นอิสรภาพ ผมอยู่ฝ่ายหนึ่งเสมอไป และตลอดชีวิตของผมก็หวังว่าฝ่ายที่ผมอยู่จะเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง สังคมไทยใช้คำว่าเป็นกลางพร่ำเพรื่อ จะต้องมีจุดยืน และจากข้อเท็จจริงเหตุผลจะต้องนำไปสู่จุดยืนที่เราแน่ใจว่าเป็นจุดยืนระหว่างฝ่ายไม่ใช่บุคคลและต้องเป็นจุดยืนที่ถูกต้องและเหมาะสม”
ดีและเลว ไม่มีกลาง
ถูกและผิดไม่มีกลาง
เลือกข้างความถูกต้องแล้วออกมาปลดแอกประเทศไทยให้พ้นจากตระกูลชั่ว
อย่าปล่อยให้ลูกหลานต้องเป็นขี้ข้าตระกูลเลว"
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อั๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย๊ะ!!!!
เสียใจ .........
เราไม่ได้นิ่งเฉย การไม่ได้ไปม๊อบ เราไม่ได้เลือกข้างของเรา มันไม่ได้แปลว่าเรานิ่งเฉย .............
มีหลายคนมั้ยที่ไม่อยากเลือกทั้งเพื่อไทย ทั้งประชาธิปัตย์
อยากให้การเมืองเป็นแบบ สู้กันด้วยนโยบาย ด้วยเหตุผล ด้วยข้อมูลที่เป็นจริง
ไม่ใช่การดิสเครดิตกันไปมา ทะเลาะกันเรื่องไร้สาระEปูIมาร์ค ข่าวจริงข่าวมั่ว ขอแชร์ ขอด่ากันไว้ก่อน
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเราก็ผิดหวังกับการบริหารทั้งสองฝ่าย อยากหาทางเลือกใหม่ๆ
แต่การที่เราออกมาบอกว่า เราไม่เลือกทั้งสองพรรคนี้นะ
กลับกลายเป็นว่าเราถูกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง บอกว่า เราเป็นกลางระหว่างถูกกับผิด (เอ่า TT)
ตรงนี้เราแอบเสียใจ เฮ้ยย ทำไมอ่ะ มันจำเป็นด้วยหรอ ที่เราต้องเลือก ถ้าเราไม่เลือกที่จะเกลียดอีกฝ่ายแล้วมาอยู่ด้วยกันกับฝ่ายตรงข้าม
จะกลับกลายเป็นว่าเราเป็นคน ไม่มีจุดยืน......... TT
ก็ในเมื่อจุดยืนของเราคือ ขอไม่เลือกทั้งสองพรรค
............
ตั้งแต่เราเล่น FB มา เราไม่เคยตั้งสเตตัสทางการเมือง หรือกระทู้ที่เกี่ยวกับการเมืองเลย
แต่พอเห็นเพื่อนๆ แชร์ข้อมูลมั่วๆ เยอะๆ เราเลยโพสเตตัส ครั้งแรกที่เกี่ยวกับการเมือง ไปเมื่อวาน ว่า
"เวลาจะแชร์ข้อมูล แชร์ภาพต่างๆ ผ่านทางเฟซบุค โดยเฉพาะเรื่องการเมือง เราจะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนจริง อันไหนไม่จริง ใครเป็นคนเขียนขึ้นมา ปีอะไร เอามาจากไหน หรือว่าเราไม่ต้องสนใจ สนใจแค่เพราะว่ามันสะใจและถูกใจเป็นพอ ก็เลยแชร์ ไม่กูเกิ้ล ไม่สืบ เสียเวลาทำมาหากิน แชร์เลยละกัน..... ซึ่งส่วนใหญ่เท่าที่อ่านเจอก็จะมีแต่ประเภทสื่อสร้างความเกลียดชังทั้งนั้น .... ที่ร้ายแรงก็คือ มีแต่ข้อมูลบิดเบือน แล้วที่แชร์ๆ ทำๆ ตามๆ กันไป โดยไม่ไตร่ตรอง ถามหน่อยว่าได้อะไร .....เราอยู่ในยุคที่การรับรู้ข้อมูลข่าวสารพัฒนาไปได้เร็วมาก แต่ทำไมทักษะในการพิจารณา คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เราถึงไม่พัฒนาตามไปด้วย?... #ลองกลับเอาไอ้ที่โพสๆแชร์ๆไปกูเกิ้ลดูดิ่ #นี่ก็กำลังฝึกนะเคยเงิบเชื่ออะไรง่ายๆก็มี #เราไม่เทือกไม่ปูไม่โหน #ไม่ได้ไปม๊อบแต่ก็รักชาติรักในหลวงเหมือนกันนะ #ความในใจที่เก็บไว้มานาน"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อมา ก็มีโพสนี้มาแปะวอลเรา อานันท์ ปันยารชุน..ปลุกสังคมไทยอย่าเป็นกลางด้วยการนิ่งเฉย
"“การเสวนาในวันนี้เป็นเรื่องของความเป็นกลางไม่ได้สนับสนุนฝ่ายใด แต่ผมประกาศเลยว่าผมไม่เป็นกลาง ในชีวิตผมไม่เคยเป็นกลาง ไม่เคยเป็นกลางระหว่างความถูกกับความผิด ไม่เคยเป็นกลางระหว่างความดีกับชั่ว ไม่เคยเป็นกลางระหว่างประชาธิปไตยกับความไม่เป็นประชาธิปไตย ระหว่างธรรมกับอธรรม ไม่เคยเป็นกลางระหว่างกติกาตามรัฐธรรมนูญกับกติกาจัดตั้งระหว่างอิสรภาพของสื่อกับการกีดกั้นอิสรภาพ ผมอยู่ฝ่ายหนึ่งเสมอไป และตลอดชีวิตของผมก็หวังว่าฝ่ายที่ผมอยู่จะเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง สังคมไทยใช้คำว่าเป็นกลางพร่ำเพรื่อ จะต้องมีจุดยืน และจากข้อเท็จจริงเหตุผลจะต้องนำไปสู่จุดยืนที่เราแน่ใจว่าเป็นจุดยืนระหว่างฝ่ายไม่ใช่บุคคลและต้องเป็นจุดยืนที่ถูกต้องและเหมาะสม”
ดีและเลว ไม่มีกลาง
ถูกและผิดไม่มีกลาง
เลือกข้างความถูกต้องแล้วออกมาปลดแอกประเทศไทยให้พ้นจากตระกูลชั่ว
อย่าปล่อยให้ลูกหลานต้องเป็นขี้ข้าตระกูลเลว"
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อั๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย๊ะ!!!!
เสียใจ .........
เราไม่ได้นิ่งเฉย การไม่ได้ไปม๊อบ เราไม่ได้เลือกข้างของเรา มันไม่ได้แปลว่าเรานิ่งเฉย .............