ปฏิรูปประเทศอีกแล้วหรือ
เอาอีกแล้ว ประเทศไทยมีการปฏิรูปมาแล้วกี่ครั้งครับ ตั้งแต่ ปี ๑๖ เป็นต้นมาแล้ว มี ๔๐ ก็พิมพ์เขียว มาจากคนส่วนใหญ่ของประเทศ มีการตั้ง สสร. ขึ้นมา นัยว่า มีคนคนกล่าวว่า เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเท่าที่มีมา แต่ก็ถูกฉีกรัฐประหารโดย สนธิ บุญ ซึ่งตอนนี้เหมือนหมาหัวเน่า ทั้งนี้ เป็นคนกลุ่มหนึ่งคงไม่ได้เกิดแน่ และคนอีกกลุ่มหนึ่งไม่ชอบ ที่รัฐบาลในขณะนั้สร้างความนิยม ตลอดกาลแน่ๆ จึงรวมหัวกันต้านอย่างสุดฤทธิ์ทั้งใส่ร้าย ทั้งกล่าวหา ทั้งตัดสิน ทั้งวางหมาก ซ่อนปม ให้วุ่นวาย ไปหมด แต่ อีกฝ่ายก็ทะลุปล้องออกมาเพราะประชาชนเห็นด้วย คล้ายกับสิ่งศักดิ์สิทธิเข้าข้าง ได้รับเลือกตั้งเข้ามาแบบถล่มทลาย แต่ก็ต้องมาเจอกับดักที่เครือข่าย คมช. วางเอาไว้
ความพ่ายแพ้ ความไม่พอใจ ความอิจฉาริษยา ได้แผ่ซ่านไปทั่ว ชนชั้นกลาง อธิการ อาจารย์บางคน ข้าราชการบางคน ซึ่งคนพวกนี้ อาจไม่มีความสามารถจริงเพียงแต่อ้างอิง วิธีการนอกระบบดข้ามาช่วย จะสังเกตง่ายๆ เวลาบ้านเมืองปกติ คนพวกนี้ไม่ถูกเรียงใช้งานเพราะ ไม่มีความรู้ความสามารถจริง จึงหอนรับกับแนวทางของ สุเทพ เผื่อโหนไปกับเขาด้วย เช่น สมคิด วุฒศักดิ์ สุรพล ปณิธาน มีชัย บวรศักดิ์ สมบัติ เสรี ดาราบางคน ผมเชื่อนะครับ ดารา คงไม่ต่างไปจาก ศรัญญู ความนิยมลดลง หรือไม่มีงานเข้ามา กินเงินเก่าไป
เอาอีกแล้ว จะมาปฏิรูปประเทศอีกแล้ว เพื่ออะไร เพื่อตัวเองแท้ๆ แต่บอก เพื่อประเทศชาติ จะปฏิรูปเพื่อตัวเอง แต่เอาคนทั้งประเทศมาเป็นตัวประกับกับม็อบ แสนกว่า ที่เต็มไปด้วยความป่าเถื่อน
ทรรศนะของผมนะครับ ไม่ต้องปฏิรูปหรอกครับ ฝ่ายพ่ายแพ้ ต้องรู้จักยอมรับกติกา ทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหาแน่นอน สังเกตหรือไม่ครับ ม็อบที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี ๔๘ เป็นต้นมา ไม่ได้รับความนิยม และก้ถูกสังคมตราหน้า ไม่ว่า สนธิ จำลอง ตั้งพรรคก็จบเห่ ไม่มีใครเลือก และก้็แตกคอกันเองแต่ก็ยังเช่น สุริยะใส สมศักดิ์ สาระวนพยายามแสดงความคิดเพื่อโหนกระแส เผื่อไดรับผลจากนายสุเทพ มีเพียง ม็อบ นปช. ที่แกนนำ ได้รับเลือกตั้งเข้ามาจากประชาชน มันแสดงให้เห็นถึง ตรรกะของอะไร แสดงว่า คนทั้งประเทศเขามองอย่างไรต้องการอย่างไร ไม่ต้องฏิปรูป เพียงแต่คนเหล่านี้ ยอมรับกติกา คิดหานโยบายมาแข่ง ประชาชนจะเลือกเอง
ปฏิรูปประเทศไทยหรือ
เอาอีกแล้ว ประเทศไทยมีการปฏิรูปมาแล้วกี่ครั้งครับ ตั้งแต่ ปี ๑๖ เป็นต้นมาแล้ว มี ๔๐ ก็พิมพ์เขียว มาจากคนส่วนใหญ่ของประเทศ มีการตั้ง สสร. ขึ้นมา นัยว่า มีคนคนกล่าวว่า เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเท่าที่มีมา แต่ก็ถูกฉีกรัฐประหารโดย สนธิ บุญ ซึ่งตอนนี้เหมือนหมาหัวเน่า ทั้งนี้ เป็นคนกลุ่มหนึ่งคงไม่ได้เกิดแน่ และคนอีกกลุ่มหนึ่งไม่ชอบ ที่รัฐบาลในขณะนั้สร้างความนิยม ตลอดกาลแน่ๆ จึงรวมหัวกันต้านอย่างสุดฤทธิ์ทั้งใส่ร้าย ทั้งกล่าวหา ทั้งตัดสิน ทั้งวางหมาก ซ่อนปม ให้วุ่นวาย ไปหมด แต่ อีกฝ่ายก็ทะลุปล้องออกมาเพราะประชาชนเห็นด้วย คล้ายกับสิ่งศักดิ์สิทธิเข้าข้าง ได้รับเลือกตั้งเข้ามาแบบถล่มทลาย แต่ก็ต้องมาเจอกับดักที่เครือข่าย คมช. วางเอาไว้
ความพ่ายแพ้ ความไม่พอใจ ความอิจฉาริษยา ได้แผ่ซ่านไปทั่ว ชนชั้นกลาง อธิการ อาจารย์บางคน ข้าราชการบางคน ซึ่งคนพวกนี้ อาจไม่มีความสามารถจริงเพียงแต่อ้างอิง วิธีการนอกระบบดข้ามาช่วย จะสังเกตง่ายๆ เวลาบ้านเมืองปกติ คนพวกนี้ไม่ถูกเรียงใช้งานเพราะ ไม่มีความรู้ความสามารถจริง จึงหอนรับกับแนวทางของ สุเทพ เผื่อโหนไปกับเขาด้วย เช่น สมคิด วุฒศักดิ์ สุรพล ปณิธาน มีชัย บวรศักดิ์ สมบัติ เสรี ดาราบางคน ผมเชื่อนะครับ ดารา คงไม่ต่างไปจาก ศรัญญู ความนิยมลดลง หรือไม่มีงานเข้ามา กินเงินเก่าไป
เอาอีกแล้ว จะมาปฏิรูปประเทศอีกแล้ว เพื่ออะไร เพื่อตัวเองแท้ๆ แต่บอก เพื่อประเทศชาติ จะปฏิรูปเพื่อตัวเอง แต่เอาคนทั้งประเทศมาเป็นตัวประกับกับม็อบ แสนกว่า ที่เต็มไปด้วยความป่าเถื่อน
ทรรศนะของผมนะครับ ไม่ต้องปฏิรูปหรอกครับ ฝ่ายพ่ายแพ้ ต้องรู้จักยอมรับกติกา ทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหาแน่นอน สังเกตหรือไม่ครับ ม็อบที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี ๔๘ เป็นต้นมา ไม่ได้รับความนิยม และก้ถูกสังคมตราหน้า ไม่ว่า สนธิ จำลอง ตั้งพรรคก็จบเห่ ไม่มีใครเลือก และก้็แตกคอกันเองแต่ก็ยังเช่น สุริยะใส สมศักดิ์ สาระวนพยายามแสดงความคิดเพื่อโหนกระแส เผื่อไดรับผลจากนายสุเทพ มีเพียง ม็อบ นปช. ที่แกนนำ ได้รับเลือกตั้งเข้ามาจากประชาชน มันแสดงให้เห็นถึง ตรรกะของอะไร แสดงว่า คนทั้งประเทศเขามองอย่างไรต้องการอย่างไร ไม่ต้องฏิปรูป เพียงแต่คนเหล่านี้ ยอมรับกติกา คิดหานโยบายมาแข่ง ประชาชนจะเลือกเอง