อ่านจาก สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย คิดว่าตอบได้ชัดเจนดีค่ะ
ถาม: ทำไมเราต้องมี 1 เสียงเท่ากัน?
(จำเป็นต้องตอบยาวหน่อยในประเด็นนี้นะครับ)
ตอบ: การต้องมาตอบคำถามนี้ ในเวลานี้ พ.ศ.นี้ นับเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดไม่น้อย เพราะคำถามอย่างนี้มันควรจะหมดไปสักครึ่งศตวรรษแล้ว แต่เมื่อประเด็นนี้ถูกยกขึ้นมาใหม่ โดยผู้ซึ่งได้ชื่อว่ามีการศึกษาในไทยหลายท่าน ก็คงต้องพูดกันอีกครั้ง
ในเบื้องต้นผมอยากจะทำความเข้าใจร่วมกันประการหนึ่งก่อนนะครับว่า "ความเป็นมนุษย์" มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ "สัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์" ในสังคมบรรพกาลนั้น ก็ดำรงชีวิตอยู่ตามเงื่อนไขว่าผู้ที่แข็งแกร่งกว่า หรือมีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมกว่าเป็นผู้เอาเปรียบทำร้ายผู้อ่อนแอกว่าไป
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นคุณสมบัติของสัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์นั้นก็คือ "ความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัว" เมื่อเวลาดำเนินไป เราปรับตัวกันมา เราเรียนรู้กันมา เราได้ร่วมสร้างกติกาทางสังคมร่วมกันขึ้น และเราก็ได้พัฒนามันไปถึงการมีเงื่อนไขของความเป็นมนุษย์ หรือมาตรฐานขั้นต่ำที่ "มนุษย์" ควรจะได้รับ ควรจะมี พร้อมๆ ไปกับการเกิดขึ้นระบอบประชาธิปไตย
ด้วยเหตุนี้เองการก้าวเข้ามาเป็นมนุษย์จึงหมายถึงการเป็น "สัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์" มารวมกับ "คุณค่าขั้นต่ำที่มนุษย์ควรจะมี" จึงเกิดเป็น "มนุษย์" ขึ้น และนั่นคือ สิทธิ และเสรีภาพในทางการเมือง หากขาดไร้ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มนุษย์ ก็จะไม่ได้เป็นมนุษย์อีกต่อไป มีสถานะเป็นเพียง "สัตว์ชนิดหนึ่งที่อาศัยชื่อเรียกว่ามนุษย์” เท่านั้น
เพราะฉะนั้นแล้ว แม้ว่าคนเราอาจจะเกิดมาไม่ได้มีความเท่ากันในทางเศรษฐกิจ ในทางความคิด ในความสามารถ กำลังวังชา แต่สิ่งหนึ่งที่รัฐในระบอบประชาธิปไตยประกันให้นั้นก็คือ "สิทธิในทางการเมืองที่เท่ากัน" หากสิทธิทางการเมืองไม่เท่ากัน นั่นย่อมไม่ใช่ประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยนั้นคือระบอบที่ "เชื่อมั่นในความเป็นมนุษย์ ของมนุษย์ทุกผู้ทุกนามอย่างเสมอเหมือนกันหมด” ครับ
เช่นนี้เอง การที่เสนอออกมาทุกครั้ง เรื่อง "ความไม่เท่ากันของสิทธิในทางการเมือง" นอกจากจะเป็นการยืนยันความไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างที่สุดตามความหมายในเบื้องแรกแล้ว คำพูดในลักษณะนี้มันยังมีความหมายที่ "ซ้อนอยู่อีกชั้น" ที่เราเรียกกันว่า "การพูดสองชั้น (Double Speak)"
เพราะทุกครั้งที่ท่านพูดว่า "เฉพาะพวกของท่านที่ควรมีสิทธิมากกว่าผู้อื่น" นั่นแปลว่า ท่านกำลังบอกกับคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่พวกของท่านว่า
"คุณมันไม่ใช่คน คุณมันไม่ใช่คน คุณมันไม่ใช่คน!!!"
และความหมายที่ซ่อนอยู่ในชั้นที่สองนี้เองที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง
เพราะเมื่อไหร่ที่มันถูกจุดจนติดนั่นจะมอบใบอนุญาติฆ่าให้กับผู้ที่ใช้มันในทันที เพราะสิ่งที่ท่านจะฆ่า "ไม่ใช่มนุษย์" อีกต่อไป เขาเหล่านั้นโดน "ถอดถอนความเป็นมนุษย์" ออกไปหมดสิ้น และสิ่งที่ถูกสังหารลงก็กลายเป็นเพียง "ซากของสิ่งที่เคยถูกเรียกว่ามนุษย์”
การฆ่า และเสียงโห่ร้องยินดีในสมัย 6 ตุลาคม 2519 และพฤษภาคม 2553 น่าจะสอนบทเรียนนี้เรามามากเกินพอแล้ว...เกินกว่าที่เราจะต้องมาพูดเรื่องเช่นนี้อีก ในวันนี้จริงๆ
กฤดิกร วงศ์สว่างพานิช
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย
ถาม-ตอบ ทำไมเราต้องมี 1 เสียงเท่ากัน?
ถาม: ทำไมเราต้องมี 1 เสียงเท่ากัน?
(จำเป็นต้องตอบยาวหน่อยในประเด็นนี้นะครับ)
ตอบ: การต้องมาตอบคำถามนี้ ในเวลานี้ พ.ศ.นี้ นับเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดไม่น้อย เพราะคำถามอย่างนี้มันควรจะหมดไปสักครึ่งศตวรรษแล้ว แต่เมื่อประเด็นนี้ถูกยกขึ้นมาใหม่ โดยผู้ซึ่งได้ชื่อว่ามีการศึกษาในไทยหลายท่าน ก็คงต้องพูดกันอีกครั้ง
ในเบื้องต้นผมอยากจะทำความเข้าใจร่วมกันประการหนึ่งก่อนนะครับว่า "ความเป็นมนุษย์" มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ "สัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์" ในสังคมบรรพกาลนั้น ก็ดำรงชีวิตอยู่ตามเงื่อนไขว่าผู้ที่แข็งแกร่งกว่า หรือมีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมกว่าเป็นผู้เอาเปรียบทำร้ายผู้อ่อนแอกว่าไป
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นคุณสมบัติของสัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์นั้นก็คือ "ความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัว" เมื่อเวลาดำเนินไป เราปรับตัวกันมา เราเรียนรู้กันมา เราได้ร่วมสร้างกติกาทางสังคมร่วมกันขึ้น และเราก็ได้พัฒนามันไปถึงการมีเงื่อนไขของความเป็นมนุษย์ หรือมาตรฐานขั้นต่ำที่ "มนุษย์" ควรจะได้รับ ควรจะมี พร้อมๆ ไปกับการเกิดขึ้นระบอบประชาธิปไตย
ด้วยเหตุนี้เองการก้าวเข้ามาเป็นมนุษย์จึงหมายถึงการเป็น "สัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์" มารวมกับ "คุณค่าขั้นต่ำที่มนุษย์ควรจะมี" จึงเกิดเป็น "มนุษย์" ขึ้น และนั่นคือ สิทธิ และเสรีภาพในทางการเมือง หากขาดไร้ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มนุษย์ ก็จะไม่ได้เป็นมนุษย์อีกต่อไป มีสถานะเป็นเพียง "สัตว์ชนิดหนึ่งที่อาศัยชื่อเรียกว่ามนุษย์” เท่านั้น
เพราะฉะนั้นแล้ว แม้ว่าคนเราอาจจะเกิดมาไม่ได้มีความเท่ากันในทางเศรษฐกิจ ในทางความคิด ในความสามารถ กำลังวังชา แต่สิ่งหนึ่งที่รัฐในระบอบประชาธิปไตยประกันให้นั้นก็คือ "สิทธิในทางการเมืองที่เท่ากัน" หากสิทธิทางการเมืองไม่เท่ากัน นั่นย่อมไม่ใช่ประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยนั้นคือระบอบที่ "เชื่อมั่นในความเป็นมนุษย์ ของมนุษย์ทุกผู้ทุกนามอย่างเสมอเหมือนกันหมด” ครับ
เช่นนี้เอง การที่เสนอออกมาทุกครั้ง เรื่อง "ความไม่เท่ากันของสิทธิในทางการเมือง" นอกจากจะเป็นการยืนยันความไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างที่สุดตามความหมายในเบื้องแรกแล้ว คำพูดในลักษณะนี้มันยังมีความหมายที่ "ซ้อนอยู่อีกชั้น" ที่เราเรียกกันว่า "การพูดสองชั้น (Double Speak)" เพราะทุกครั้งที่ท่านพูดว่า "เฉพาะพวกของท่านที่ควรมีสิทธิมากกว่าผู้อื่น" นั่นแปลว่า ท่านกำลังบอกกับคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่พวกของท่านว่า
"คุณมันไม่ใช่คน คุณมันไม่ใช่คน คุณมันไม่ใช่คน!!!"
และความหมายที่ซ่อนอยู่ในชั้นที่สองนี้เองที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเมื่อไหร่ที่มันถูกจุดจนติดนั่นจะมอบใบอนุญาติฆ่าให้กับผู้ที่ใช้มันในทันที เพราะสิ่งที่ท่านจะฆ่า "ไม่ใช่มนุษย์" อีกต่อไป เขาเหล่านั้นโดน "ถอดถอนความเป็นมนุษย์" ออกไปหมดสิ้น และสิ่งที่ถูกสังหารลงก็กลายเป็นเพียง "ซากของสิ่งที่เคยถูกเรียกว่ามนุษย์”
การฆ่า และเสียงโห่ร้องยินดีในสมัย 6 ตุลาคม 2519 และพฤษภาคม 2553 น่าจะสอนบทเรียนนี้เรามามากเกินพอแล้ว...เกินกว่าที่เราจะต้องมาพูดเรื่องเช่นนี้อีก ในวันนี้จริงๆ
กฤดิกร วงศ์สว่างพานิช
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย