ในอดีตเราได้เห็นภาพพระองค์ท่านตรากตรำพระวรกายไปทั่วทุกหนแห่งเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาประเทศจนชินตา
แม้ว่าวันนี้คนรุ่นหลังอาจจะไม่ได้สัมผัสนักแต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยทุกคนยังคงได้รับจากพระองค์คือแนวคิด ปรัชญาความพอเพียง
“ความพอเพียงคือพอดี” และนี่คือสิ่งที่เราคิดว่าเป็นแก่นของละครเรื่องนี้
ละครแสดงให้เห็นการใช้ความพอเพียงในโลกวัตถุนิยมให้มีความพอดี
แน่นอนทุกคนอยากมีเงินทองอยากมีความสุขสบาย ท่านก็ทำได้
“ความพอเพียง” ไม่ได้บอกว่าท่านต้องหยุดสร้างฐานะ แต่ว่าท่านต้องรู้จักความพอดี
ความพอดีของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีกเพราะภาระของแต่ละคนไม่เท่ากัน
เมื่อไหร่ที่ท่านพบความพอดี ถึงตอนนั้น ท่านควรหันกลับมาจุนเจือผู้อื่นบ้าง
หันกลับมาพัฒนาแผ่นดินเกิดบ้าง สิ่งเหล่านี้จะทำให้ท่านมีความสุขอย่างที่เงินอาจหาให้ไม่ได้เลยก็ได้
และการจุนเจือช่วยเหลือของท่านคงจะดีไม่น้อยถ้ามันจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นแบบยั่งยืน
เช่น ให้การศึกษา สร้างอาชีพ ให้พวกเขาได้เรียนรู้วิถีชีวิตที่พึ่งตัวเองได้อย่างพอเพียงพอดีสืบต่อไป
เหมือนกับที่ จิรเมธ เดชาธร ชายหนุ่ม (หล่อ) ที่มองทุกอย่างเป็นการลงทุนและผลกำไร
จับพลัดจับผลูได้เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านเขากะหมอกในการพัฒนาไบโอดีเซลล์ออกสู่ตลาด
ทำให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรท้องถิ่นซึ่งก็คือสวนปาล์มให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและยังเหลือเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นได้ใช้เป็นพลังงานทางเลือก
และตอนนี้เขาเป็น ตาจิม ที่ได้เรียนรู้ว่า “ความรักดีๆ ความสุขจากการให้” เป็นอย่างไร (แถมยังได้เจอผู้หญิงที่รักอีก ฮิ้ว) ตามเครดิตสร้อยเพลงประกอบละครเลยค่ะ
เธอมาทำให้ฉันรัก
เธอมาทำให้ฉันรัก
เธอมาทำให้ฉันรู้ว่าความรักดีดีนั้นเป็นยังไง
พึ่งเคยมั่นใจว่าได้พบเธอ
คนที่รอมาแสนนาน
เธอมาทำให้ฉันรัก
เธอมาทำให้ฉันรัก
เธอมาทำให้ฉันรู้ว่ารักแท้แท้จริงแล้วคือการให้
ให้ความ เข้าใจจนสุดหัวใจ
และสุดท้ายก็รักเธอได้คนเดียว
นอกจากความซาบซึ้งข้างต้น ละครก็ยังสนุกน่ารักและได้ใจไปเต็มๆ ขอบคุณผู้แต่งและผู้จัดมา ณ ที่นี้ด้วย

มาร่วมแชร์ความซาบซึ้งก่อนละครลาโรงกันค่ะ หรือมาคุยกันต่อหลังละครจบก็ได้ค่ะ
เย็นนี้ อย่าลืมเป็นกำลังใจให้ตาจิมทำตามที่ได้บนไว้กับเจ้าแม่ถ้ำมรกตนะคะ
ใต้ร่มใบภักดิ์ลาจอเย็นนี้ มาแชร์ความซาบซึ้งกันค่ะ
แม้ว่าวันนี้คนรุ่นหลังอาจจะไม่ได้สัมผัสนักแต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยทุกคนยังคงได้รับจากพระองค์คือแนวคิด ปรัชญาความพอเพียง
“ความพอเพียงคือพอดี” และนี่คือสิ่งที่เราคิดว่าเป็นแก่นของละครเรื่องนี้
ละครแสดงให้เห็นการใช้ความพอเพียงในโลกวัตถุนิยมให้มีความพอดี
แน่นอนทุกคนอยากมีเงินทองอยากมีความสุขสบาย ท่านก็ทำได้
“ความพอเพียง” ไม่ได้บอกว่าท่านต้องหยุดสร้างฐานะ แต่ว่าท่านต้องรู้จักความพอดี
ความพอดีของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีกเพราะภาระของแต่ละคนไม่เท่ากัน
เมื่อไหร่ที่ท่านพบความพอดี ถึงตอนนั้น ท่านควรหันกลับมาจุนเจือผู้อื่นบ้าง
หันกลับมาพัฒนาแผ่นดินเกิดบ้าง สิ่งเหล่านี้จะทำให้ท่านมีความสุขอย่างที่เงินอาจหาให้ไม่ได้เลยก็ได้
และการจุนเจือช่วยเหลือของท่านคงจะดีไม่น้อยถ้ามันจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นแบบยั่งยืน
เช่น ให้การศึกษา สร้างอาชีพ ให้พวกเขาได้เรียนรู้วิถีชีวิตที่พึ่งตัวเองได้อย่างพอเพียงพอดีสืบต่อไป
เหมือนกับที่ จิรเมธ เดชาธร ชายหนุ่ม (หล่อ) ที่มองทุกอย่างเป็นการลงทุนและผลกำไร
จับพลัดจับผลูได้เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านเขากะหมอกในการพัฒนาไบโอดีเซลล์ออกสู่ตลาด
ทำให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรท้องถิ่นซึ่งก็คือสวนปาล์มให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและยังเหลือเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นได้ใช้เป็นพลังงานทางเลือก
และตอนนี้เขาเป็น ตาจิม ที่ได้เรียนรู้ว่า “ความรักดีๆ ความสุขจากการให้” เป็นอย่างไร (แถมยังได้เจอผู้หญิงที่รักอีก ฮิ้ว) ตามเครดิตสร้อยเพลงประกอบละครเลยค่ะ
เธอมาทำให้ฉันรัก
เธอมาทำให้ฉันรัก
เธอมาทำให้ฉันรู้ว่าความรักดีดีนั้นเป็นยังไง
พึ่งเคยมั่นใจว่าได้พบเธอ
คนที่รอมาแสนนาน
เธอมาทำให้ฉันรัก
เธอมาทำให้ฉันรัก
เธอมาทำให้ฉันรู้ว่ารักแท้แท้จริงแล้วคือการให้
ให้ความ เข้าใจจนสุดหัวใจ
และสุดท้ายก็รักเธอได้คนเดียว
นอกจากความซาบซึ้งข้างต้น ละครก็ยังสนุกน่ารักและได้ใจไปเต็มๆ ขอบคุณผู้แต่งและผู้จัดมา ณ ที่นี้ด้วย
มาร่วมแชร์ความซาบซึ้งก่อนละครลาโรงกันค่ะ หรือมาคุยกันต่อหลังละครจบก็ได้ค่ะ
เย็นนี้ อย่าลืมเป็นกำลังใจให้ตาจิมทำตามที่ได้บนไว้กับเจ้าแม่ถ้ำมรกตนะคะ