เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวที่อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ค่ะ ช่วงกลางวันขับรถชมโรงแรมที่ต่างๆแล้วมีความสุขมาก เพราะรู้สึกผู้คนที่ให้บริการก็น่ารักตามคำขวัญจังหวัดจริงๆ สุดท้ายพวกเราสี่คนพ่อแม่ลูกตัดสินใจพักกันที่โรงแรมแถวๆริมหาดอ่าวนาง พวกเราเห็นว่าไหนๆมาถึงแล้วน่าจะออกไปทานอาหารเย็นริมหาดจะได้ดูแสงสีด้วย ขับรถออกไปร้านเยอะมากจนเลือกไม่ถูก ลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีแต่ฝรั่ง สุดท้ายพวกเราเลือกร้านที่หน้าตาโอเค ร้านใหญ่ และคนเยอะหน่อยเพราะดูน่าจะอร่อยดี ร้านไม่ใช่ลักษณะหรูหราหรืออะไรนะคะ เป็นร้านของพวก backpack ฝรั่งทานกัน ก็จะราคากลางๆ คุณภาพธรรมดา ซึ่งพวกนี้เราเข้าใจและคาดหวังไว้อยู่แล้ว ไม่ได้กะมากินหรูหรือเรื่องมากอะไร
ได้เมนูมาเราดูรูปในเมนูแล้วสั่งอาหาร อาหารคือซุปหัวหอมฝรั่งเศส หอยแมลงภู่อบซอสไวน์ขาว พิซซ่ามาการิต้า เสต็กเนื้อ และแม่อยากกินผักเลยสั่งผักคะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย ในเมนูรูปอาหารดูสวยงามน่าทานทุกอย่าง แต่ก็แอบเอะใจที่เวลาชี้ไปที่อาหารบางจานพนักงานรับออเดอร์จะบอกว่ามันไม่เหมือนในรูปซะทีเดียวนะ เราก็ถามว่าแต่มันโอเคใช่มั๊ย เค้าก็บอกว่าโอเค แค่คล้ายๆ (พนักงานต่างด้าวเกือบทั้งนั้น)
จานแรก มาเป็นพิซซ่า ก็จัดว่าใช้ได้ค่ะไม่มีอะไรผิดปกติ นั่งรอไปซักพัก ซุปหัวหอมก็มา เริ่มงงว่าทำไมมันเป็นหอมหั่นเต๋าใส่มาในน้ำใสๆจืดๆเหมือนเข้าไมโครเวฟ หอมยังไม่สุกดี ไม่ได้ผัด ก็ไม่เป็นไรค่ะ จิบๆไปไม่ให้น่าเกลียด จานต่อไปเป็นผักคะน้า มาถึงอึ้งกว่าเดิม จานเล็กมากๆเหมือนจานกับข้าวร้านข้าวต้มและผักเป็นก้านแข็งๆ ใบแก่ๆ ไม่เหมือนในรูปเลย อันนี้จานละ 90 บาท ก็โอเคค่ะ ไม่เป็นไร จนสุดท้ายที่รับไม่ได้คือหอมแมลงภู่อบซอสไวน์ขาว ถ้าดูจากรูปในเมนูแล้วก็จะคาดหวังไปอีกแบบว่าคงมาเป็นหม้อหรือชามเปล อบมา แต่กับราคา 350 บาท ได้หอยแห้งๆ แบมา 12 ตัว สภาพตามในรูป (ปกติแถวบ้านเราหอยน่าจะกิโลละ 80 บาทได้ราวๆ 30 ตัว) เราว่ามันไม่ใช่แล้วอ่ะค่ะ และบอกตรงๆว่ามันไม่สมราคาก็เรื่องนึง แต่สภาพอาหารมันก็ไม่ได้น่ากินหรืออร่อยเลย ก็เลยไม่ได้กิน แต่พวกเราก็ไม่ได้พูดอะไรค่ะ สั่งเช็คบิลและจ่ายเงินไปจนเสร็จ (ราคาที่ขีดฆ่าในบิลมานั่นก็เค้าทำมาเอง เราไม่ได้พูดหรือทักอะไร ได้มาแบบนั้นเลย น่าจะคิดมาไม่ตรงกับเมนู)
ก่อนจะออกจากร้านเราถามหาผู้จัดการคนไทยเป็นผู้หญิงอย่างสุภาพ เค้าเดินมาไม่พูดอะไรกับเราซักคำ ทำท่าเหมือนเราเรื่องมากแล้วก็เรียกพนักงานรับออเดอร์มาบอกว่าให้ดูเราเอง เราก็เลยบอกพนักงานว่า รูปในเมนู ถ้ามันไม่ใช่แบบนี้ก็ไม่น่าใส่ลงไปให้ลูกค้าเข้าใจผิดกันเปล่าๆ พนักงานคนนั้นตอบว่า "ใครๆเค้าก็ทำกันแบบนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่ใส่รูปไว้แบบนี้แล้วใครจะสั่ง" ได้ฟังความคิดแล้วเราก็รู้สึกอึ้งไป น่าเสียดายที่เมืองท่องเที่ยวดีๆมีคนคิดแบบนี้และไม่รับผิดชอบต่อลูกค้าในระยะยาวเลย คงคิดว่าขายครั้งเดียวแล้วก็ลาขาด สำหรับเรา ก็นั่นแหละค่ะครั้งเดียวพอค่ะ
เสียความรู้สึกกับร้านอาหารเอาเปรียบนักท่องเที่ยวที่อ่าวนาง
ได้เมนูมาเราดูรูปในเมนูแล้วสั่งอาหาร อาหารคือซุปหัวหอมฝรั่งเศส หอยแมลงภู่อบซอสไวน์ขาว พิซซ่ามาการิต้า เสต็กเนื้อ และแม่อยากกินผักเลยสั่งผักคะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย ในเมนูรูปอาหารดูสวยงามน่าทานทุกอย่าง แต่ก็แอบเอะใจที่เวลาชี้ไปที่อาหารบางจานพนักงานรับออเดอร์จะบอกว่ามันไม่เหมือนในรูปซะทีเดียวนะ เราก็ถามว่าแต่มันโอเคใช่มั๊ย เค้าก็บอกว่าโอเค แค่คล้ายๆ (พนักงานต่างด้าวเกือบทั้งนั้น)
จานแรก มาเป็นพิซซ่า ก็จัดว่าใช้ได้ค่ะไม่มีอะไรผิดปกติ นั่งรอไปซักพัก ซุปหัวหอมก็มา เริ่มงงว่าทำไมมันเป็นหอมหั่นเต๋าใส่มาในน้ำใสๆจืดๆเหมือนเข้าไมโครเวฟ หอมยังไม่สุกดี ไม่ได้ผัด ก็ไม่เป็นไรค่ะ จิบๆไปไม่ให้น่าเกลียด จานต่อไปเป็นผักคะน้า มาถึงอึ้งกว่าเดิม จานเล็กมากๆเหมือนจานกับข้าวร้านข้าวต้มและผักเป็นก้านแข็งๆ ใบแก่ๆ ไม่เหมือนในรูปเลย อันนี้จานละ 90 บาท ก็โอเคค่ะ ไม่เป็นไร จนสุดท้ายที่รับไม่ได้คือหอมแมลงภู่อบซอสไวน์ขาว ถ้าดูจากรูปในเมนูแล้วก็จะคาดหวังไปอีกแบบว่าคงมาเป็นหม้อหรือชามเปล อบมา แต่กับราคา 350 บาท ได้หอยแห้งๆ แบมา 12 ตัว สภาพตามในรูป (ปกติแถวบ้านเราหอยน่าจะกิโลละ 80 บาทได้ราวๆ 30 ตัว) เราว่ามันไม่ใช่แล้วอ่ะค่ะ และบอกตรงๆว่ามันไม่สมราคาก็เรื่องนึง แต่สภาพอาหารมันก็ไม่ได้น่ากินหรืออร่อยเลย ก็เลยไม่ได้กิน แต่พวกเราก็ไม่ได้พูดอะไรค่ะ สั่งเช็คบิลและจ่ายเงินไปจนเสร็จ (ราคาที่ขีดฆ่าในบิลมานั่นก็เค้าทำมาเอง เราไม่ได้พูดหรือทักอะไร ได้มาแบบนั้นเลย น่าจะคิดมาไม่ตรงกับเมนู)
ก่อนจะออกจากร้านเราถามหาผู้จัดการคนไทยเป็นผู้หญิงอย่างสุภาพ เค้าเดินมาไม่พูดอะไรกับเราซักคำ ทำท่าเหมือนเราเรื่องมากแล้วก็เรียกพนักงานรับออเดอร์มาบอกว่าให้ดูเราเอง เราก็เลยบอกพนักงานว่า รูปในเมนู ถ้ามันไม่ใช่แบบนี้ก็ไม่น่าใส่ลงไปให้ลูกค้าเข้าใจผิดกันเปล่าๆ พนักงานคนนั้นตอบว่า "ใครๆเค้าก็ทำกันแบบนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่ใส่รูปไว้แบบนี้แล้วใครจะสั่ง" ได้ฟังความคิดแล้วเราก็รู้สึกอึ้งไป น่าเสียดายที่เมืองท่องเที่ยวดีๆมีคนคิดแบบนี้และไม่รับผิดชอบต่อลูกค้าในระยะยาวเลย คงคิดว่าขายครั้งเดียวแล้วก็ลาขาด สำหรับเรา ก็นั่นแหละค่ะครั้งเดียวพอค่ะ