คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ความหลงไหล หมกมุ่น มัวเมา ติดใคร่ ในสิ่งใด สิ่งนั้นไม่ดีทั้งนั้นครับ
แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ยึดถือว่าถูกต้อง หรือเพื่อความดีงามบางอย่าง
อุดมการณ์ก็ดี ความรักชาติก็ดี ประชาธิปไตยก็ดี
เป็นสิ่งดีในทางโลกทั้งสิ้น
แต่ในทางธรรม
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสมมติ
เป็นไปด้วยกิเลส ด้วยตัวตน
เป็นไปเพื่อกิเลส เพื่อตัวตน
นำมาซึ่งทุกข์ทั้งสิ้น
จึงไม่เป็นไปเพื่อพ้นทุกข์
จึงขัดแย้งกับหลักปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นทางพุทธศาสนาครับ
แต่พุทธศาสนาก็ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะผู้ต้องการหลุดพ้นเท่านั้น
มีหลักธรรมหลายระดับ ตามระดับการเข้าถึงของคนด้วย
จึงมีหลักธรรมสำหรับผู้ที่ยังคลุกคลีอยู่ในโลกียะตามความเหมาะสม
ทั้งสำหรับผู้ปกครองบ้านเมือง
ทั้งสำหรับการปฏิบัติต่อผู้อื่นในกลุ่มต่างๆ
ทั้งสำหรับการปฏิบัติเพื่อความเป็นอยู่ร่วมกันอย่างสงบในสังคม
ทั้งสำหรับการปฏิบัติเพื่อให้หาทรัพย์ ใช้ทรัพย์อย่างเหมาะสม
ทั้งหมดสอดคล้องต่อการพัฒนากายใจไปสู่ระดับที่เกื้อกูลต่อการพัฒนายิ่งๆขึ้นไป
แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นแกนนำ
แต่การร่วมแสดงออก ไม่ว่าจะฝ่ายใด ด้วยเหตุผลใด
เป็นที่แน่นอนว่าการแสดงออกนั้น ไม่เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์
และสภาวะที่เกิดย่อมประกอบด้วย ราคะ โทสะ โมหะ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างร่วมกัน
ความอยากให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ความไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้
ความเกลียดชัง ความไม่พอใจ ความแค้นใจ ความคับแค้น ความรู้สึกไม่ได้ดังใจ
ความหลงมัวเมากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ความยึดถือว่าสิ่งที่เราทำนี้(เท่านั้น)ถูก
ล้วนดึงจิตเราให้หมองและลงสู่ที่ต่ำ
แม้ว่าจะไม่ใช่กรรมหนักแบบผิดศีล
แต่....บาปมั้ยครับ
แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ยึดถือว่าถูกต้อง หรือเพื่อความดีงามบางอย่าง
อุดมการณ์ก็ดี ความรักชาติก็ดี ประชาธิปไตยก็ดี
เป็นสิ่งดีในทางโลกทั้งสิ้น
แต่ในทางธรรม
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสมมติ
เป็นไปด้วยกิเลส ด้วยตัวตน
เป็นไปเพื่อกิเลส เพื่อตัวตน
นำมาซึ่งทุกข์ทั้งสิ้น
จึงไม่เป็นไปเพื่อพ้นทุกข์
จึงขัดแย้งกับหลักปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นทางพุทธศาสนาครับ
แต่พุทธศาสนาก็ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะผู้ต้องการหลุดพ้นเท่านั้น
มีหลักธรรมหลายระดับ ตามระดับการเข้าถึงของคนด้วย
จึงมีหลักธรรมสำหรับผู้ที่ยังคลุกคลีอยู่ในโลกียะตามความเหมาะสม
ทั้งสำหรับผู้ปกครองบ้านเมือง
ทั้งสำหรับการปฏิบัติต่อผู้อื่นในกลุ่มต่างๆ
ทั้งสำหรับการปฏิบัติเพื่อความเป็นอยู่ร่วมกันอย่างสงบในสังคม
ทั้งสำหรับการปฏิบัติเพื่อให้หาทรัพย์ ใช้ทรัพย์อย่างเหมาะสม
ทั้งหมดสอดคล้องต่อการพัฒนากายใจไปสู่ระดับที่เกื้อกูลต่อการพัฒนายิ่งๆขึ้นไป
แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นแกนนำ
แต่การร่วมแสดงออก ไม่ว่าจะฝ่ายใด ด้วยเหตุผลใด
เป็นที่แน่นอนว่าการแสดงออกนั้น ไม่เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์
และสภาวะที่เกิดย่อมประกอบด้วย ราคะ โทสะ โมหะ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างร่วมกัน
ความอยากให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ความไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้
ความเกลียดชัง ความไม่พอใจ ความแค้นใจ ความคับแค้น ความรู้สึกไม่ได้ดังใจ
ความหลงมัวเมากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ความยึดถือว่าสิ่งที่เราทำนี้(เท่านั้น)ถูก
ล้วนดึงจิตเราให้หมองและลงสู่ที่ต่ำ
แม้ว่าจะไม่ใช่กรรมหนักแบบผิดศีล
แต่....บาปมั้ยครับ
แสดงความคิดเห็น
ขอความรู้หน่อยครับ... การหลงใหลและหลงผิดในเรื่องการเมือง ถือว่าเป็นบาป มั้ย
โดยที่ผู้ที่มาแสดงออกทางการเมืองเหล่านี้ ต่างหลงเชื่อว่า เป็นการกระทำที่ถูกต้องเหมาะสม
โดยในความเป็นจริง ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง ก็ดูเหมือนเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคลอื่นด้วย
ซึ่งถ้าความเชื่อของผู้ที่แสดงออกทางการเมืองเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นให้หลงเชื่อกันไป เพื่อหวังผลทางการเมืองของแกนนำเอง
ผู้ที่มาร่วมแสดงออกทางการเมืองเหล่านี้ ถือว่า ทำบาป มั้ยครับ
เป็นบาปเกี่ยวกับอะไร ในสมัยพุทธกาล เคยมีคำสอนของพระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างมั้ย