ไปเจอมาครับ เผื่อหลายคนอยากรู้ว่ากว่าจะได้ดนตรีที่เราฟังๆกันในโรง นั้น ขั้นตอนมันมีที่มาอย่างไร

ดนตรีประกอบภาพยนตร์ “Frozen” ดังแผ่วพลิ้ว
คอมโพสเซอร์ คริสตอฟ เบ็ค รังสรรค์ดนตรีประกอบภาพยนตร์
เพื่อเสริมเนื้อเพลงของโลเปซ
คอมโพสเซอร์ คริสตอฟ เบ็ค ผู้ซึ่งพรสวรรค์หลากหลายของเขาปรากฏชัดด้วยผลงานที่รวมถึง “Paperman” ที่ได้รับรางวัลออสการ์และไตรภาค “Hangover” ได้เป็นผู้แต่งดนตรีประกอบสุดอลังการให้กับ “Frozen” “คนที่ดิสนีย์ให้ความสำคัญกับดนตรีจริงๆ ครับ” เบ็คกล่าว “และในอนิเมชัน มันจะแตกต่างจากไลฟ์แอ็กชัน ตรงที่ดนตรีจะมีบทบาทสำคัญต่อการเล่าเรื่องจริงๆ มันต้องทำงานอย่างหนักในแง่ของการสื่อสารอารมณ์ครับ”
ดนตรีประกอบของเบ็คได้มาเติมเต็มเพลงออริจินอลแปดเพลง ที่แต่งโดยคริสเตน แอนเดอร์สัน-โลเปซและโรเบิร์ต โลเปซ ซึ่งรวมถึงเพลง “Frozen Heart,” “Do You Want to Build a Snowman?” “For the First Time in Forever,” “Love Is an Open Door,” “Let It Go,” “Reindeer(s) Are Better Than People,” “In Summer” และ “Fixer Upper”
เบ็คได้แสดงความเคารพต่อฉากที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนอร์เวย์ และได้ข้อมูลอ้างอิงจากเครื่องดนตรีในภูมิภาคนั้น เช่นเสียงหลอนๆ จากบัคเคฮอร์น และเทคนิคการส่งเสียง อย่างการเรียกฝูงสัตว์ของคนเลี้ยงแกะ “สำหรับ ‘Frozen’” เขากล่าว “เรามีฉากให้ได้เลือกใช้ ทั้งภาพทิวทัศน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งมันกระตุ้นอารมณ์มากๆ ท้องถิ่นนี้ทำให้เรามีซาวน์เจ๋งๆ และน่าสนใจให้ได้สำรวจ ที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน ผมไม่คิดว่าหลายคนที่อยู่นอกท้องถิ่นนี้จะเคยเห็นเหมือนกันล่ะครับ”
ทีมผู้สร้างได้ใช้นักภาษาศาสตร์ชาวนอร์เวย์ในการช่วยแต่งเนื้อเพลงให้กับเพลงโอลด์นอร์ส ที่เขียนขึ้นสำหรับพิธีสวมมงกุฏของเอลซ่า และทีมงานก็ถึงกับเดินทางไปนอร์เวย์เพื่อบันทึกเสียงคณะนักร้องประสานเสียงหญิงล้วน แคนตัส สำหรับเพลงที่ได้แรงบันดาลใจจากดนตรีนอร์เวย์ดั้งเดิม “คริสตอฟได้เพิ่มเลเยอร์ความสมจริงให้กับโลกใบนี้ ด้วยเสียงที่พิเศษมกๆ และภาษาดนตรีที่พิเศษสุด ที่เคารพบทเพลงและส่งเสริมการเล่าเรื่องค่ะ” ผู้กำกับเจนนิเฟอร์ ลี กล่าว
ดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งบันทึกด้วยออร์เคสตราเต็มวง 80 ชิ้น และนักร้อง 32 คน ซึ่งรวมถึงคริสติน ฮัลส์ ชาวนอร์เวย์ ผู้ซึ่งการเติบโตในชนบทของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับการส่งเสียงเรียกสัตว์ของเธอ
เบ็คได้ร่วมงานกับแอนเดอร์สัน-โลเปซและโลเปซในการเรียบเรียงเสียงบางบทเพลง และการผสมผสานเมโลดี้ของพวกเขาเข้าไปในดนตรีประกอบ ซึ่งบ่อยครั้งที่พวกเขาทำงานภายใต้บริบทที่โดดเด่น แต่ก็เป็นที่รู้จัก ผู้กำกับคริส บัคกล่าวว่า สำหรับ “Do You Want to Build a Snowman?” การร่วมงานของพวกเขาไปไกลกว่าเดิมเสียอีก “เพลงนี้สะท้อนถึงเรื่องราวจากแง่มุมของแอนนา ซึ่งขับร้องโดยคริสเตน เบล, อกาธา ลี มอนน์และเคที โลเปซ ในบทแอนนา และแต่งโดยบ็อบบี้ และคริสเตน และแง่มุมของเอลซ่า ซึ่งถูกแทนด้วยดนตรีประกอบของคริสตอฟฟ์ ทั้งหมดนั้นร้อยเรียงกันได้อย่างงดงาม” ผู้กำกับกล่าว “และเมโลดี้นั้นก็ได้กลับมาอีกครั้งในตอนท้ายเรื่องอย่างยิ่งใหญ่และน่าประทับใจครับ”
“เป้าหมายของเรา” เบ็คกล่าวเสริม “คือการสร้างการเดินทางทางดนตรีที่เป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่ต้นจนจบครับ”
ซาวน์แทร็คเจ๋งๆ
ซาวน์แทร็ค “Frozen” ที่จะวางแผงโดยวอลท์ ดิสนีย์ เรคคอร์ดส์ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ปี 2013 เปิดให้สั่งล่วงหน้าได้ที่
http://smarturl.it/fa1 และ
http://smarturl.it/fsAmazona1 เวอร์ชัน deluxe edition และ digital deluxe edition ของซาวน์แทร็ค “Frozen” ซึ่งวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 25 พฤศจิกายน ปี 2013 ได้นำเสนอแทร็คเพิ่มเติมอีก 23 และ 27 แทร็คตามลำดับ ซึ่งรวมถึงเดโม ส่วนที่ถูกตัดออกและแทร็คคาราโอเกะสำหรับ “Let It Go”
FROZEN กับอีกมุมหนึ่งที่คุณยังไม่รู้ เกี่ยวกับดนตรีในภาพยนตร์
คอมโพสเซอร์ คริสตอฟ เบ็ค รังสรรค์ดนตรีประกอบภาพยนตร์
เพื่อเสริมเนื้อเพลงของโลเปซ
คอมโพสเซอร์ คริสตอฟ เบ็ค ผู้ซึ่งพรสวรรค์หลากหลายของเขาปรากฏชัดด้วยผลงานที่รวมถึง “Paperman” ที่ได้รับรางวัลออสการ์และไตรภาค “Hangover” ได้เป็นผู้แต่งดนตรีประกอบสุดอลังการให้กับ “Frozen” “คนที่ดิสนีย์ให้ความสำคัญกับดนตรีจริงๆ ครับ” เบ็คกล่าว “และในอนิเมชัน มันจะแตกต่างจากไลฟ์แอ็กชัน ตรงที่ดนตรีจะมีบทบาทสำคัญต่อการเล่าเรื่องจริงๆ มันต้องทำงานอย่างหนักในแง่ของการสื่อสารอารมณ์ครับ”
ดนตรีประกอบของเบ็คได้มาเติมเต็มเพลงออริจินอลแปดเพลง ที่แต่งโดยคริสเตน แอนเดอร์สัน-โลเปซและโรเบิร์ต โลเปซ ซึ่งรวมถึงเพลง “Frozen Heart,” “Do You Want to Build a Snowman?” “For the First Time in Forever,” “Love Is an Open Door,” “Let It Go,” “Reindeer(s) Are Better Than People,” “In Summer” และ “Fixer Upper”
เบ็คได้แสดงความเคารพต่อฉากที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนอร์เวย์ และได้ข้อมูลอ้างอิงจากเครื่องดนตรีในภูมิภาคนั้น เช่นเสียงหลอนๆ จากบัคเคฮอร์น และเทคนิคการส่งเสียง อย่างการเรียกฝูงสัตว์ของคนเลี้ยงแกะ “สำหรับ ‘Frozen’” เขากล่าว “เรามีฉากให้ได้เลือกใช้ ทั้งภาพทิวทัศน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งมันกระตุ้นอารมณ์มากๆ ท้องถิ่นนี้ทำให้เรามีซาวน์เจ๋งๆ และน่าสนใจให้ได้สำรวจ ที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน ผมไม่คิดว่าหลายคนที่อยู่นอกท้องถิ่นนี้จะเคยเห็นเหมือนกันล่ะครับ”
ทีมผู้สร้างได้ใช้นักภาษาศาสตร์ชาวนอร์เวย์ในการช่วยแต่งเนื้อเพลงให้กับเพลงโอลด์นอร์ส ที่เขียนขึ้นสำหรับพิธีสวมมงกุฏของเอลซ่า และทีมงานก็ถึงกับเดินทางไปนอร์เวย์เพื่อบันทึกเสียงคณะนักร้องประสานเสียงหญิงล้วน แคนตัส สำหรับเพลงที่ได้แรงบันดาลใจจากดนตรีนอร์เวย์ดั้งเดิม “คริสตอฟได้เพิ่มเลเยอร์ความสมจริงให้กับโลกใบนี้ ด้วยเสียงที่พิเศษมกๆ และภาษาดนตรีที่พิเศษสุด ที่เคารพบทเพลงและส่งเสริมการเล่าเรื่องค่ะ” ผู้กำกับเจนนิเฟอร์ ลี กล่าว
ดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งบันทึกด้วยออร์เคสตราเต็มวง 80 ชิ้น และนักร้อง 32 คน ซึ่งรวมถึงคริสติน ฮัลส์ ชาวนอร์เวย์ ผู้ซึ่งการเติบโตในชนบทของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับการส่งเสียงเรียกสัตว์ของเธอ
เบ็คได้ร่วมงานกับแอนเดอร์สัน-โลเปซและโลเปซในการเรียบเรียงเสียงบางบทเพลง และการผสมผสานเมโลดี้ของพวกเขาเข้าไปในดนตรีประกอบ ซึ่งบ่อยครั้งที่พวกเขาทำงานภายใต้บริบทที่โดดเด่น แต่ก็เป็นที่รู้จัก ผู้กำกับคริส บัคกล่าวว่า สำหรับ “Do You Want to Build a Snowman?” การร่วมงานของพวกเขาไปไกลกว่าเดิมเสียอีก “เพลงนี้สะท้อนถึงเรื่องราวจากแง่มุมของแอนนา ซึ่งขับร้องโดยคริสเตน เบล, อกาธา ลี มอนน์และเคที โลเปซ ในบทแอนนา และแต่งโดยบ็อบบี้ และคริสเตน และแง่มุมของเอลซ่า ซึ่งถูกแทนด้วยดนตรีประกอบของคริสตอฟฟ์ ทั้งหมดนั้นร้อยเรียงกันได้อย่างงดงาม” ผู้กำกับกล่าว “และเมโลดี้นั้นก็ได้กลับมาอีกครั้งในตอนท้ายเรื่องอย่างยิ่งใหญ่และน่าประทับใจครับ”
“เป้าหมายของเรา” เบ็คกล่าวเสริม “คือการสร้างการเดินทางทางดนตรีที่เป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่ต้นจนจบครับ”
ซาวน์แทร็คเจ๋งๆ
ซาวน์แทร็ค “Frozen” ที่จะวางแผงโดยวอลท์ ดิสนีย์ เรคคอร์ดส์ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ปี 2013 เปิดให้สั่งล่วงหน้าได้ที่ http://smarturl.it/fa1 และ http://smarturl.it/fsAmazona1 เวอร์ชัน deluxe edition และ digital deluxe edition ของซาวน์แทร็ค “Frozen” ซึ่งวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 25 พฤศจิกายน ปี 2013 ได้นำเสนอแทร็คเพิ่มเติมอีก 23 และ 27 แทร็คตามลำดับ ซึ่งรวมถึงเดโม ส่วนที่ถูกตัดออกและแทร็คคาราโอเกะสำหรับ “Let It Go”