คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
http://www.rlpd.moj.go.th/rlpdnew/index.php/2012-06-20-07-52-34/1600-2013-11-07-08-18-59
กรมคุ้มครองสิทธิฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีชาวบ้านถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก และลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ จังหวัดกาฬสินธุ์ (ฉบับที่ ๒๓/๒๕๕๗)
Print Email Details Created on 07 November 2013 Last Updated on 07 November 2013 Published on 07 November 2013 Hits: 423
เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๓๐ น. ณ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ นางนงภรณ์ รุ่งเพ็ชรวงศ์ ผู้อำนวยการกองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ และคณะ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและเข้าร่วมประชุมหารือ แนวทางการช่วยเหลือนางแดง ศิริสอน อายุ ๔๘ ปี และนายอุดม ศิริสอน อายุ ๕๑ ปี ซึ่งถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกและลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๗ (ขอนแก่น ) และหัวหน้าหน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรมประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
สืบเนื่องจาก รายการข่าวสามมิติ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ๓ ได้นำเสนอ กรณีนางแดง ศิริสอน อายุ ๔๘ ปี และนายอุดม ศิริสอน อายุ ๕๑ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๗๓ หมู่ที่ ๔ ตำบลโนนสะอาด อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกและลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ เนื่องจากเมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา นางแดงฯ และนายอุดมฯ ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในพื้นที่อุทยานป่าสงวนดงระแนง จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเก็บเห็ดป่า ในขณะเดียวกันมีกลุ่มบุคคลลักลอบตัดไม้ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้เข้าตรวจสอบพื้นที่และพบการกระทำความผิดจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ทำให้กลุ่มบุคคลผู้ลักลอบตัดไม้หลบหนี โดยนายอุดมฯ และ นางแดงฯ เกรงว่าจะถูกจับกุมจึงวิ่งหลบหนีไปด้วย ซึ่งในที่เกิดเหตุพบเพียงรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นของบุคคลทั้งสอง ต่อมาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จึงถูกดำเนินคดี และพนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ยื่นฟ้องศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ในข้อหาดังกล่าว นายอุดมฯ และนางแดงฯ จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์
สำหรับผลการประชุมหารือเพื่อพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือ นายอุดม ศิริสอน และนางแดง ศิริสอน มีข้อสรุป ดังนี้
๑.เห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานที่มีความชำนาญด้านการสืบสวน เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) หรือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท) ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอ ศาลยุติธรรม เพื่อโปรดทราบ ทั้งนี้ ไม่อาจกล่าวล่วงอำนาจการพิจารณาของศาลยุติธรรม
๒.รวบรวมเอกสารหลักฐานตามข้อ ๑ มอบให้กองทุนยุติธรรมช่วยเหลือเรื่องประกันตัวต่อไป
***************************
กลุ่มงานช่วยอำนวยการและสื่อสารองค์กร สำนักงานเลขานุการกรม
๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖/กพส.-ภาพ/อุษา-ข่าว
กรมคุ้มครองสิทธิฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีชาวบ้านถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก และลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ จังหวัดกาฬสินธุ์ (ฉบับที่ ๒๓/๒๕๕๗)
Print Email Details Created on 07 November 2013 Last Updated on 07 November 2013 Published on 07 November 2013 Hits: 423
เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๓๐ น. ณ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ นางนงภรณ์ รุ่งเพ็ชรวงศ์ ผู้อำนวยการกองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ และคณะ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและเข้าร่วมประชุมหารือ แนวทางการช่วยเหลือนางแดง ศิริสอน อายุ ๔๘ ปี และนายอุดม ศิริสอน อายุ ๕๑ ปี ซึ่งถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกและลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๗ (ขอนแก่น ) และหัวหน้าหน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรมประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
สืบเนื่องจาก รายการข่าวสามมิติ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ๓ ได้นำเสนอ กรณีนางแดง ศิริสอน อายุ ๔๘ ปี และนายอุดม ศิริสอน อายุ ๕๑ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๗๓ หมู่ที่ ๔ ตำบลโนนสะอาด อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกและลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ เนื่องจากเมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา นางแดงฯ และนายอุดมฯ ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในพื้นที่อุทยานป่าสงวนดงระแนง จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเก็บเห็ดป่า ในขณะเดียวกันมีกลุ่มบุคคลลักลอบตัดไม้ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้เข้าตรวจสอบพื้นที่และพบการกระทำความผิดจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ทำให้กลุ่มบุคคลผู้ลักลอบตัดไม้หลบหนี โดยนายอุดมฯ และ นางแดงฯ เกรงว่าจะถูกจับกุมจึงวิ่งหลบหนีไปด้วย ซึ่งในที่เกิดเหตุพบเพียงรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นของบุคคลทั้งสอง ต่อมาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จึงถูกดำเนินคดี และพนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ยื่นฟ้องศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ในข้อหาดังกล่าว นายอุดมฯ และนางแดงฯ จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์
สำหรับผลการประชุมหารือเพื่อพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือ นายอุดม ศิริสอน และนางแดง ศิริสอน มีข้อสรุป ดังนี้
๑.เห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานที่มีความชำนาญด้านการสืบสวน เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) หรือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท) ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอ ศาลยุติธรรม เพื่อโปรดทราบ ทั้งนี้ ไม่อาจกล่าวล่วงอำนาจการพิจารณาของศาลยุติธรรม
๒.รวบรวมเอกสารหลักฐานตามข้อ ๑ มอบให้กองทุนยุติธรรมช่วยเหลือเรื่องประกันตัวต่อไป
***************************
กลุ่มงานช่วยอำนวยการและสื่อสารองค์กร สำนักงานเลขานุการกรม
๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖/กพส.-ภาพ/อุษา-ข่าว
แสดงความคิดเห็น
ขอข้อมูลข่าว ตากับยาย เก็บเห็ด และโดนโทษจำคุกทีครับ