จากเหตุการณ์การเมืองครั้งนี้
พอกระแสต่อต้านเริ่มจางลง
วันนี้ มีเพื่อนที่ทำงานผม มาคุยด้วย
บอกว่า ลืม ๆ มันไปเถอะนะ
ทั้ง ๆ ที่เดือนกว่า ๆ เพื่อนผมคนนี้มันแสดงความเกรี้ยวกราด
ด่ารัฐบาล ด่าคนที่เลือกรัฐบาลนี้เข้ามาต่าง ๆ นา ๆ
และเค้าก็รู้ว่า ผมสนับสนุนรัฐบาล ผมไม่ไปลงชื่อคัดค้านพรบ. กับที่ทำงาน
เพราะผมรู้ดี ว่ามันไม่ชอบมาพากล ทั้งที่ใจผมก็ไม่เคยอยากให้มีพรบ.นิรโทษกรรม
เค้าตำหนิผม ว่าทำไมไม่ไปร่วมม๊อบ ไม่รักชาติ ขี้ข้าทักษิณ แชร์ข้อความบิดเบือนต่าง ๆ
มากมาย ข่าวเท็จ ภาพตัดต่อ ต่าง ๆ ที่ฝ่ายต่อต้านทำขึ้น เพื่อดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามให้หมดความชอบธรรม
ผมเคยโดนเพื่อนคนนี้ และกลุ่มของเค้าเหน็บแนม ว่าโง่ ว่าขายเสียง เห็นแก่เงิน ตอนที่รัฐบาลชนะการเลือกตั้ง
เมื่อปี 2554 ผมไม่ตอบโต้ เพราะว่าผมไม่อยากเอาการเมืองมาพูดกับเพื่อน และทำให้ต้องขัดแย้งกัน
ผมเงียบมาตลอด บางทีต้องทนฟังเรื่องที่เค้าใส่ความ ป้ายสีให้กับรัฐบาล คนเสื้อแดง (เรื่องบางเรื่อง
หากมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า เสื้อแดงทำ รัฐบาลทำ เราก็ต้องยอมรับว่าผิดจริง)
ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเครียด บางทีก็รู้สึกน้ำตาตกใน เคยคิดอยากจะหนีไปให้ไกลจากสังคมนี้
จากเมืองกรุง กลับไปอยู่บ้านเราเหมือนกัน
วันนี้ไม่รู้ว่าเค้าไปกินยาผิดสำแดงอะไรมา อยู่ ๆ ก็มาบอกว่า เรื่องที่เคยตำหนิ ต่อว่าที่ผ่าน ๆ มา ขอให้ลืม ๆ ไปเสีย
ย้ำนะครับ "ว่าให้ลืม ไม่ได้ขอโทษ" ผมอดทนมานานหลายปี โดยตำแหน่งแล้ว ผมสูงกว่าเค้า เป็นหัวหน้าเค้า
แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่าเค้าเป็นลูกน้อง คิดเสมอว่าเค้าคือเพื่อนร่วมงาน ไม่เคยมองใครว่าเป็นลูกน้องสักคน
จากเหตุการณ์หลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยเห็นด้วยกับกฏหมายนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะยุคใด
เพราะคิดว่า กฏหมายบ้านเราไม่ศักดิ์สิทธิ์ คนทำผิดก็ควรต้องได้รับโทษ ไม่ว่าจะฝ่ายใด ไม่เลือกปฏิบัติ
ไม่ลำเอียง ตัดสินอย่างยุติธรรม อย่างเช่นสิงคโปร์ ตอนนี้ที่เกิดความวุ่นวาย การก่อจราจล เพียงเพราะมี
คนเชื้อสายอินเดียในสิงคโปร์ถูกรถบรรทุกชนเสียชีวิต แล้วชาวสิงคโปร์เชื้อสายอินเดีย ออกมาก่อความวุ่นวาย
รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศแล้ว ว่าจะลงโทษผู้กระทำความผิดขั้นสูงสุด ตามบทบัญญัติของกฏหมายสิงคโปร์
คำถามก็คือ ถ้าเป็นท่านเอง ท่านจะทำอย่างไรครับ? บางทีผมอาจจะคิดลบ อคติกับเค้ามากไป อยากได้ความเห็น
และข้อแนะนำหน่อยครับ
หากคุณเป็นผม คุณจะให้อภัยเพื่อนแบบนี้ไหมครับ อยากขอความเห็นหน่อยครับ
พอกระแสต่อต้านเริ่มจางลง
วันนี้ มีเพื่อนที่ทำงานผม มาคุยด้วย
บอกว่า ลืม ๆ มันไปเถอะนะ
ทั้ง ๆ ที่เดือนกว่า ๆ เพื่อนผมคนนี้มันแสดงความเกรี้ยวกราด
ด่ารัฐบาล ด่าคนที่เลือกรัฐบาลนี้เข้ามาต่าง ๆ นา ๆ
และเค้าก็รู้ว่า ผมสนับสนุนรัฐบาล ผมไม่ไปลงชื่อคัดค้านพรบ. กับที่ทำงาน
เพราะผมรู้ดี ว่ามันไม่ชอบมาพากล ทั้งที่ใจผมก็ไม่เคยอยากให้มีพรบ.นิรโทษกรรม
เค้าตำหนิผม ว่าทำไมไม่ไปร่วมม๊อบ ไม่รักชาติ ขี้ข้าทักษิณ แชร์ข้อความบิดเบือนต่าง ๆ
มากมาย ข่าวเท็จ ภาพตัดต่อ ต่าง ๆ ที่ฝ่ายต่อต้านทำขึ้น เพื่อดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามให้หมดความชอบธรรม
ผมเคยโดนเพื่อนคนนี้ และกลุ่มของเค้าเหน็บแนม ว่าโง่ ว่าขายเสียง เห็นแก่เงิน ตอนที่รัฐบาลชนะการเลือกตั้ง
เมื่อปี 2554 ผมไม่ตอบโต้ เพราะว่าผมไม่อยากเอาการเมืองมาพูดกับเพื่อน และทำให้ต้องขัดแย้งกัน
ผมเงียบมาตลอด บางทีต้องทนฟังเรื่องที่เค้าใส่ความ ป้ายสีให้กับรัฐบาล คนเสื้อแดง (เรื่องบางเรื่อง
หากมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า เสื้อแดงทำ รัฐบาลทำ เราก็ต้องยอมรับว่าผิดจริง)
ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเครียด บางทีก็รู้สึกน้ำตาตกใน เคยคิดอยากจะหนีไปให้ไกลจากสังคมนี้
จากเมืองกรุง กลับไปอยู่บ้านเราเหมือนกัน
วันนี้ไม่รู้ว่าเค้าไปกินยาผิดสำแดงอะไรมา อยู่ ๆ ก็มาบอกว่า เรื่องที่เคยตำหนิ ต่อว่าที่ผ่าน ๆ มา ขอให้ลืม ๆ ไปเสีย
ย้ำนะครับ "ว่าให้ลืม ไม่ได้ขอโทษ" ผมอดทนมานานหลายปี โดยตำแหน่งแล้ว ผมสูงกว่าเค้า เป็นหัวหน้าเค้า
แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่าเค้าเป็นลูกน้อง คิดเสมอว่าเค้าคือเพื่อนร่วมงาน ไม่เคยมองใครว่าเป็นลูกน้องสักคน
จากเหตุการณ์หลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยเห็นด้วยกับกฏหมายนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะยุคใด
เพราะคิดว่า กฏหมายบ้านเราไม่ศักดิ์สิทธิ์ คนทำผิดก็ควรต้องได้รับโทษ ไม่ว่าจะฝ่ายใด ไม่เลือกปฏิบัติ
ไม่ลำเอียง ตัดสินอย่างยุติธรรม อย่างเช่นสิงคโปร์ ตอนนี้ที่เกิดความวุ่นวาย การก่อจราจล เพียงเพราะมี
คนเชื้อสายอินเดียในสิงคโปร์ถูกรถบรรทุกชนเสียชีวิต แล้วชาวสิงคโปร์เชื้อสายอินเดีย ออกมาก่อความวุ่นวาย
รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศแล้ว ว่าจะลงโทษผู้กระทำความผิดขั้นสูงสุด ตามบทบัญญัติของกฏหมายสิงคโปร์
คำถามก็คือ ถ้าเป็นท่านเอง ท่านจะทำอย่างไรครับ? บางทีผมอาจจะคิดลบ อคติกับเค้ามากไป อยากได้ความเห็น
และข้อแนะนำหน่อยครับ