ละคร “อีสา-รวีช่วงโชติ” ทุกวันพุธ-พฤหัส 20.10น. ช่อง 5 เริ่มตอนแรกวันวันพฤหัสที่ 12 ธันวาคมนี้
อีสา(วรุนุช ภิรมย์ภักดี) เกิดมาในแผ่นดินรัชกาลที่ 6 หลังจากที่มีการเลิกทาสแล้ว เกิดมาได้สองสามวันแม่ก็ตาย เพราะตกเลือด ป้าเจิม(รัญญา ศิญานนท์) จึงคอยเลี้ยงดูสา ป้าเจิมมีหน้าที่ช่วยงานอยู่ในโรงครัวของวังหม่อมเจ้าโชติช่วงระวี รวีวาร(ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) ท่านชายเข้าพิธีเศกสมรสกับ หม่อมพริ้ม(สินจัย เปล่งพานิช) ซึ่งถือว่าเป็นหม่อมใหญ่ นอกจากนั้นท่านชายยังมีหม่อมอื่นๆ อันได้แก่ หม่อมลำดวน(ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) หม่อมคนที่สอง หม่อมนิ่ม(ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) และ หม่อมน้อยท่านชายทรงมีลูกกับหม่อมต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นธิดาทั้งสิ้น หม่อมทุกคนจึงแข่งขันกันอยู่ในทีว่าใครจะให้กำเนิดลูกชาย ผู้จะเป็นผู้รับสืบทอดตราประจำตระกูลรวีวารต่อจากท่านชาย สาโตขึ้นเป็นเด็กสาวหน้าตาสะสวย ป้าเจิมจึงพาสาไปฝากกับหม่อมนิ่มและหม่อมน้อยให้ฝึกรำ สาได้เห็นท่านชายอยู่บ่อยครั้ง และแอบหลงใหลในความสง่างามของท่าน สาโตเป็นสาวอายุได้16 ปี ในวังมีงานฉลองพระชนม์มายุครบ 4 รอบ (46 ปี) ของท่านชายหม่อมนิ่มให้สาขึ้นรำเป็นนางรจนา ตอนนางรจนาเสี่ยงพวงมาลัย สาตั้งใจรำโปรยเสน่ห์เต็มที่ และก็ได้ผล ความสวยของสาจับใจท่านชาย จนสาได้เป็นหม่อมของท่านชายในคืนนั้นเอง
ท่านชายโปรดปรานสามาก จนหม่อมทุกคนอิจฉา ต่อมาไม่นานสาก็ตั้งครรภ์ สาวาดหวังไว้ว่าตนจะได้ลูกชาย และมีอนาคตที่ดีงาม แต่เมื่อถึงกำหนดคลอด สาให้กำเนิดลูกชายตามที่คาดไว้ หม่อมพริ้มขอลูกของสาไปเลี้ยงเป็นลูกของตน ตอนแรกสาเองไม่แน่ใจ แต่เนื่องจากสาน้ำนมเป็นพิษ และท่านชายก็หลงใหลตัวสามาก ไม่ต้องการให้สาเสียเวลาไปกับการเลี้ยงลูก จึงยกลูกชายให้หม่อมพริ้มไป ท่านชายไปบรรทมที่ห้องสาทุกคืนไม่หยุดหย่อน จนในที่สุดท่านชายก็สิ้นพระชนม์ในคืนที่ไปนอนกับสา เมื่อสิ้นท่านชายก็สิ้นเสาหลักของบ้าน หม่อมพริ้มไม่ต้องการรับภาระเลี้ยงดูหม่อมต่างๆ และบ่าวไพร่จำนวนมากมาย หลายคนจึงต้องออกไปจากวัง เหลือเพียงป้าเจิมกับอีสาที่ยังอยู่เลี้ยงดูคุณชายรวีช่วงโชติ(นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ลูกชายแท้ๆ ของสาเอง กับคุณหญิงอีก 3 คนอันเป็นลูกสาวของหม่อมพริ้ม
บริเวณรอบตำหนักใหญ่ถูกขายให้กับพระคลังข้างที่ จนหม่อมพริ้มต้องล้อมรั้ว และปล่อยบ้านเล็กบ้านน้อยรอบตำหนักใหญ่ให้เช่าเพื่อหารายได้ ทำให้สาได้รู้จักกับ สมศักดิ์(ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) หนุ่มรูปงามที่มาอาศัยเช่าบ้านอยู่ สมศักดิ์หว่านเสน่ห์ใส่สาจนสาเคลิบเคลิ้ม แต่กลายเป็นว่า หญิงที่สมศักดิ์หมายปองกลายเป็นคุณหญิงโสภาพรรณวดี(เต็มฟ้า กฤษณายุทธ) ลูกสาวคนโตของหม่อมพริ้ม
สาเสียใจมาก เพราะจริงๆ แล้วก็หลงใหลในตัวสมศักดิ์ แต่พอสารู้ตัวว่าตนตั้งท้องลูกของท่านชาย สาจึงตัดใจยอมรับเป็นแม่สื่อ ส่งจดหมายรักให้สมศักดิ์กับคุณหญิงโสภา จนถึงขั้นนัดพบกัน แต่หม่อมพริ้มจะให้คุณหญิงโสภาแต่งกับงานลูกของญาติท่านชาย แต่เธอไม่ต้องการแต่งงานกับคนอื่น จึงหนีไปตามคำชวนของสมศักดิ์ โดยมีสาเป็นผู้จัดการและติดตามไปด้วยความภักดี สร้างความโกรธแค้นให้กับหม่อมพริ้มเป็นอย่างมาก หม่อมพริ้มประกาศตัดแม่ตัดลูกกับคุณหญิงโสภา และถ้าหากพบตัวสากับสมศักดิ์จะจับเข้าคุกเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทำให้สมศักดิ์ตกใจและผิดหวังมาก สาเพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้วสมศักดิ์เป็นคนดีแต่ปาก ที่หลอกพาคุณหญิงโสภาหนีมา เพราะหวังจะเข้าไปเป็นเขยของรวีวารเกาะกินสมบัติของหม่อมพริ้ม แต่พอสถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาด สมศักดิ์จึงตกกระไดพลอยโจนต้องเลี้ยงดูคุณหญิงโสภาต่อไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นช่วงสงครามเศรษฐกิจตกต่ำ สมศักดิ์หางานทำไม่ได้ คุณหญิงโสภาและสาต้องอดอยาก สาสงสารคุณหญิงจึงพยายามเคี่ยวเข็นสมศักดิ์ให้ออกไปหางานหาเลี้ยงคุณหญิงด้วย
สาคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง คุณหญิงไม่อยากให้ลูกของท่านชายต้องเป็นเด็กกำพร้า จึงรับเป็นแม่ของเด็ก ตั้งชื่อให้ว่า โสภิตพิไล(มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) แล้วเลี้ยงดูเป็นอย่างดี สาทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงคุณหญิงและลูก พอเห็นคณะละครชาตรีมาแสดงแถวบ้าน สาจึงไปสมัครเป็นนางละคร และได้เป็นนางเอกของคณะละครนั้น สำรวย(รัดเกล้า อามระดิษ) นักแสดงจากคณะละครร้องมาเห็นสา รู้สึกทึ่งในความสวยและความสามารถ จึงชวนสาไปแสดงด้วย สาก็ไปด้วยความเต็มใจ เพราะต้องการหาเงิน และอีกเหตุผลหนึ่งก็เพื่อหลบหนีจากสมศักดิ์ ที่มักจะมาเกาะแกะหาทางใกล้ชิดสาเสมอ
เมื่อกลับไปเป็นนางละคร สาก็กลับมาเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์เหมือนที่เคย ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสมศักดิ์กับคุณหญิงค่อยๆ ห่างกันออกไป สมศักดิ์กลับมาติดพันสามากขึ้น วันหนึ่งระหว่างที่เล่นละคร สาเห็นหม่อมพริ้มมาชมละครก็ตกใจมาก ด้วยความที่กลัวหม่อมพริ้มสาจึงลาออกจากคณะ ไม่กลับไปแสดงละครอีก สมศักดิ์เริ่มหาโอกาสใกล้ชิดสามากขึ้น แล้วในวันหนึ่งด้วยบรรยากาศเป็นใจ สากับสมศักดิ์ก็ลักลอบมีความสัมพันธ์ต่อกันจนได้ หลังจากนั้นสาก็ยิ่งพยายามตีตัวออกห่างสมศักดิ์ พอดีกับที่สาได้ไปพบวิทย์(กันต์ดนย์ อะคาซาน) เด็กหนุ่มนักดนตรีในหลุมหลบภัย วิทย์ทำงานอยู่ที่คณะละครที่สาไปดูมา วิทย์ติดใจสาจึงชวนสาไปเล่นละครแบบชายจริงหญิงแท้กับคณะละครที่กำลังจะเปิดใหม่ซึ่งสาก็ยินดี
สาบอกคุณหญิงว่าจะตนกลับไปเล่นละคร และเสนอให้คุณหญิงพาสมศักดิ์และโสภิตพิไล ย้ายไปอยู่บ้าน ป้าแป้น(ไปรมา รัชตะ) หญิงชาวสวนใจดีที่สาเคยรู้จักที่คลองบางกอกน้อย โดยอ้างว่าจะได้ไม่ต้องหนีลูกระเบิด แต่จริงๆ แล้วสาต้องการจะหนีห่างจากสมศักดิ์ สมศักดิ์ยังคงแอบมาหาสาที่บ้าน สาไม่เต็มใจ แต่ก็ขัดขืนธรรมชาติของตัวเองไม่ได้ คืนหนึ่งที่ระเบิดลงหนักสมศักด์ขอค้างกับสาที่บ้าน คุณหญิงเห็นสมศักดิ์ไม่กลับบ้าน ประกอบกับเป็นห่วงสาจึงไปหาที่บ้านแต่เช้าตรู่ และได้เห็นสาอยู่กับสมศักดิ์ คุณหญิงเสียใจมากหนีกลับบ้านป้าแป้นทันที สาสั่งให้สมศักดิ์ตามไปง้อขอคืนดี แต่คุณหญิงเสียใจและผิดหวังที่ถูกคนที่รักทั้งสองคนทรยศ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย
เสร็จงานศพคุณหญิง สาตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับวิทย์เพื่อหนีสมศักดิ์ ทำให้สมศักดิ์เสียใจหันไปดื่มเหล้าอย่างหนัก และในที่สุดก็เมาตกน้ำตาย ในที่เดียวกับที่คุณหญิงฆ่าตัวตายนั่นเอง หลังแต่งงาน สาย้ายไปอยู่ที่บ้านวิทย์ วิภา(สกาวใจ พูนสวัสดิ์) พี่สาวของวิทย์รังเกียจสา เพราะทั้งสาและวิทย์ต่างไม่มีงานทำ วิทย์เป็นศิลปินไม่ยอมทำงานแบบอื่น เอาแต่สีไวโอลินไปวันๆ จนสาเองก็เริ่มเบื่อหน่าย วันหนึ่งสาไปพบกับพลเรือนญี่ปุ่นคนหนึ่งในหลุมหลบภัยชื่อ เซกิ(ณัฐ เทพหัสดิน ณ อยุทธยา) เป็นพนักงานบริษัทญี่ปุ่น เซกิหลงรักสา สาเองก็เผลอไผลไปกับความสุขสนุกสนานที่เซกิปรนเปรอให้ ทำให้สากับวิทย์เริ่มมีปากเสียงกัน ต่อมาเซกิรู้ว่าญี่ปุ่นกำลังจะยอมแพ้สงครามกับอเมริกา ด้วยความรักเซกิจึงมอบเงินก้อนใหญ่ให้สาก่อนจะกลับประเทศไป สาจึงตัดสินใจเลิกกับวิทย์แล้วกลับไปอยู่กับป้าแป้น
เรื่องย่อ&รูป ละคร “อีสา-รวีช่วงโชติ” เริ่มตอนแรกวันพฤหัสที่ 12 ธันวาคมนี้
อีสา(วรุนุช ภิรมย์ภักดี) เกิดมาในแผ่นดินรัชกาลที่ 6 หลังจากที่มีการเลิกทาสแล้ว เกิดมาได้สองสามวันแม่ก็ตาย เพราะตกเลือด ป้าเจิม(รัญญา ศิญานนท์) จึงคอยเลี้ยงดูสา ป้าเจิมมีหน้าที่ช่วยงานอยู่ในโรงครัวของวังหม่อมเจ้าโชติช่วงระวี รวีวาร(ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) ท่านชายเข้าพิธีเศกสมรสกับ หม่อมพริ้ม(สินจัย เปล่งพานิช) ซึ่งถือว่าเป็นหม่อมใหญ่ นอกจากนั้นท่านชายยังมีหม่อมอื่นๆ อันได้แก่ หม่อมลำดวน(ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) หม่อมคนที่สอง หม่อมนิ่ม(ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) และ หม่อมน้อยท่านชายทรงมีลูกกับหม่อมต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นธิดาทั้งสิ้น หม่อมทุกคนจึงแข่งขันกันอยู่ในทีว่าใครจะให้กำเนิดลูกชาย ผู้จะเป็นผู้รับสืบทอดตราประจำตระกูลรวีวารต่อจากท่านชาย สาโตขึ้นเป็นเด็กสาวหน้าตาสะสวย ป้าเจิมจึงพาสาไปฝากกับหม่อมนิ่มและหม่อมน้อยให้ฝึกรำ สาได้เห็นท่านชายอยู่บ่อยครั้ง และแอบหลงใหลในความสง่างามของท่าน สาโตเป็นสาวอายุได้16 ปี ในวังมีงานฉลองพระชนม์มายุครบ 4 รอบ (46 ปี) ของท่านชายหม่อมนิ่มให้สาขึ้นรำเป็นนางรจนา ตอนนางรจนาเสี่ยงพวงมาลัย สาตั้งใจรำโปรยเสน่ห์เต็มที่ และก็ได้ผล ความสวยของสาจับใจท่านชาย จนสาได้เป็นหม่อมของท่านชายในคืนนั้นเอง
ท่านชายโปรดปรานสามาก จนหม่อมทุกคนอิจฉา ต่อมาไม่นานสาก็ตั้งครรภ์ สาวาดหวังไว้ว่าตนจะได้ลูกชาย และมีอนาคตที่ดีงาม แต่เมื่อถึงกำหนดคลอด สาให้กำเนิดลูกชายตามที่คาดไว้ หม่อมพริ้มขอลูกของสาไปเลี้ยงเป็นลูกของตน ตอนแรกสาเองไม่แน่ใจ แต่เนื่องจากสาน้ำนมเป็นพิษ และท่านชายก็หลงใหลตัวสามาก ไม่ต้องการให้สาเสียเวลาไปกับการเลี้ยงลูก จึงยกลูกชายให้หม่อมพริ้มไป ท่านชายไปบรรทมที่ห้องสาทุกคืนไม่หยุดหย่อน จนในที่สุดท่านชายก็สิ้นพระชนม์ในคืนที่ไปนอนกับสา เมื่อสิ้นท่านชายก็สิ้นเสาหลักของบ้าน หม่อมพริ้มไม่ต้องการรับภาระเลี้ยงดูหม่อมต่างๆ และบ่าวไพร่จำนวนมากมาย หลายคนจึงต้องออกไปจากวัง เหลือเพียงป้าเจิมกับอีสาที่ยังอยู่เลี้ยงดูคุณชายรวีช่วงโชติ(นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ลูกชายแท้ๆ ของสาเอง กับคุณหญิงอีก 3 คนอันเป็นลูกสาวของหม่อมพริ้ม
บริเวณรอบตำหนักใหญ่ถูกขายให้กับพระคลังข้างที่ จนหม่อมพริ้มต้องล้อมรั้ว และปล่อยบ้านเล็กบ้านน้อยรอบตำหนักใหญ่ให้เช่าเพื่อหารายได้ ทำให้สาได้รู้จักกับ สมศักดิ์(ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) หนุ่มรูปงามที่มาอาศัยเช่าบ้านอยู่ สมศักดิ์หว่านเสน่ห์ใส่สาจนสาเคลิบเคลิ้ม แต่กลายเป็นว่า หญิงที่สมศักดิ์หมายปองกลายเป็นคุณหญิงโสภาพรรณวดี(เต็มฟ้า กฤษณายุทธ) ลูกสาวคนโตของหม่อมพริ้ม
สาเสียใจมาก เพราะจริงๆ แล้วก็หลงใหลในตัวสมศักดิ์ แต่พอสารู้ตัวว่าตนตั้งท้องลูกของท่านชาย สาจึงตัดใจยอมรับเป็นแม่สื่อ ส่งจดหมายรักให้สมศักดิ์กับคุณหญิงโสภา จนถึงขั้นนัดพบกัน แต่หม่อมพริ้มจะให้คุณหญิงโสภาแต่งกับงานลูกของญาติท่านชาย แต่เธอไม่ต้องการแต่งงานกับคนอื่น จึงหนีไปตามคำชวนของสมศักดิ์ โดยมีสาเป็นผู้จัดการและติดตามไปด้วยความภักดี สร้างความโกรธแค้นให้กับหม่อมพริ้มเป็นอย่างมาก หม่อมพริ้มประกาศตัดแม่ตัดลูกกับคุณหญิงโสภา และถ้าหากพบตัวสากับสมศักดิ์จะจับเข้าคุกเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทำให้สมศักดิ์ตกใจและผิดหวังมาก สาเพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้วสมศักดิ์เป็นคนดีแต่ปาก ที่หลอกพาคุณหญิงโสภาหนีมา เพราะหวังจะเข้าไปเป็นเขยของรวีวารเกาะกินสมบัติของหม่อมพริ้ม แต่พอสถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาด สมศักดิ์จึงตกกระไดพลอยโจนต้องเลี้ยงดูคุณหญิงโสภาต่อไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นช่วงสงครามเศรษฐกิจตกต่ำ สมศักดิ์หางานทำไม่ได้ คุณหญิงโสภาและสาต้องอดอยาก สาสงสารคุณหญิงจึงพยายามเคี่ยวเข็นสมศักดิ์ให้ออกไปหางานหาเลี้ยงคุณหญิงด้วย
สาคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง คุณหญิงไม่อยากให้ลูกของท่านชายต้องเป็นเด็กกำพร้า จึงรับเป็นแม่ของเด็ก ตั้งชื่อให้ว่า โสภิตพิไล(มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) แล้วเลี้ยงดูเป็นอย่างดี สาทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงคุณหญิงและลูก พอเห็นคณะละครชาตรีมาแสดงแถวบ้าน สาจึงไปสมัครเป็นนางละคร และได้เป็นนางเอกของคณะละครนั้น สำรวย(รัดเกล้า อามระดิษ) นักแสดงจากคณะละครร้องมาเห็นสา รู้สึกทึ่งในความสวยและความสามารถ จึงชวนสาไปแสดงด้วย สาก็ไปด้วยความเต็มใจ เพราะต้องการหาเงิน และอีกเหตุผลหนึ่งก็เพื่อหลบหนีจากสมศักดิ์ ที่มักจะมาเกาะแกะหาทางใกล้ชิดสาเสมอ
เมื่อกลับไปเป็นนางละคร สาก็กลับมาเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์เหมือนที่เคย ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสมศักดิ์กับคุณหญิงค่อยๆ ห่างกันออกไป สมศักดิ์กลับมาติดพันสามากขึ้น วันหนึ่งระหว่างที่เล่นละคร สาเห็นหม่อมพริ้มมาชมละครก็ตกใจมาก ด้วยความที่กลัวหม่อมพริ้มสาจึงลาออกจากคณะ ไม่กลับไปแสดงละครอีก สมศักดิ์เริ่มหาโอกาสใกล้ชิดสามากขึ้น แล้วในวันหนึ่งด้วยบรรยากาศเป็นใจ สากับสมศักดิ์ก็ลักลอบมีความสัมพันธ์ต่อกันจนได้ หลังจากนั้นสาก็ยิ่งพยายามตีตัวออกห่างสมศักดิ์ พอดีกับที่สาได้ไปพบวิทย์(กันต์ดนย์ อะคาซาน) เด็กหนุ่มนักดนตรีในหลุมหลบภัย วิทย์ทำงานอยู่ที่คณะละครที่สาไปดูมา วิทย์ติดใจสาจึงชวนสาไปเล่นละครแบบชายจริงหญิงแท้กับคณะละครที่กำลังจะเปิดใหม่ซึ่งสาก็ยินดี
สาบอกคุณหญิงว่าจะตนกลับไปเล่นละคร และเสนอให้คุณหญิงพาสมศักดิ์และโสภิตพิไล ย้ายไปอยู่บ้าน ป้าแป้น(ไปรมา รัชตะ) หญิงชาวสวนใจดีที่สาเคยรู้จักที่คลองบางกอกน้อย โดยอ้างว่าจะได้ไม่ต้องหนีลูกระเบิด แต่จริงๆ แล้วสาต้องการจะหนีห่างจากสมศักดิ์ สมศักดิ์ยังคงแอบมาหาสาที่บ้าน สาไม่เต็มใจ แต่ก็ขัดขืนธรรมชาติของตัวเองไม่ได้ คืนหนึ่งที่ระเบิดลงหนักสมศักด์ขอค้างกับสาที่บ้าน คุณหญิงเห็นสมศักดิ์ไม่กลับบ้าน ประกอบกับเป็นห่วงสาจึงไปหาที่บ้านแต่เช้าตรู่ และได้เห็นสาอยู่กับสมศักดิ์ คุณหญิงเสียใจมากหนีกลับบ้านป้าแป้นทันที สาสั่งให้สมศักดิ์ตามไปง้อขอคืนดี แต่คุณหญิงเสียใจและผิดหวังที่ถูกคนที่รักทั้งสองคนทรยศ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย
เสร็จงานศพคุณหญิง สาตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับวิทย์เพื่อหนีสมศักดิ์ ทำให้สมศักดิ์เสียใจหันไปดื่มเหล้าอย่างหนัก และในที่สุดก็เมาตกน้ำตาย ในที่เดียวกับที่คุณหญิงฆ่าตัวตายนั่นเอง หลังแต่งงาน สาย้ายไปอยู่ที่บ้านวิทย์ วิภา(สกาวใจ พูนสวัสดิ์) พี่สาวของวิทย์รังเกียจสา เพราะทั้งสาและวิทย์ต่างไม่มีงานทำ วิทย์เป็นศิลปินไม่ยอมทำงานแบบอื่น เอาแต่สีไวโอลินไปวันๆ จนสาเองก็เริ่มเบื่อหน่าย วันหนึ่งสาไปพบกับพลเรือนญี่ปุ่นคนหนึ่งในหลุมหลบภัยชื่อ เซกิ(ณัฐ เทพหัสดิน ณ อยุทธยา) เป็นพนักงานบริษัทญี่ปุ่น เซกิหลงรักสา สาเองก็เผลอไผลไปกับความสุขสนุกสนานที่เซกิปรนเปรอให้ ทำให้สากับวิทย์เริ่มมีปากเสียงกัน ต่อมาเซกิรู้ว่าญี่ปุ่นกำลังจะยอมแพ้สงครามกับอเมริกา ด้วยความรักเซกิจึงมอบเงินก้อนใหญ่ให้สาก่อนจะกลับประเทศไป สาจึงตัดสินใจเลิกกับวิทย์แล้วกลับไปอยู่กับป้าแป้น