เรากับแฟนเก่าคบกันมาได้ 3 ปีอยู่ด้วยกันมันตลอดในหอมหาลัย
ที่บ้านเหมือนจะรับรู้ทั้งสองฝ่ายว่า คบกันเป็นเพื่อนกันเพราะ.. เราเป็นทอมดี้..
แต่ครอบครัวต่างก็ไม่ถาม แต่ก็คิดว่าเค้าก็น่าจะรู้
เราเรียนจบก่อนเค้าปีนึง และ เค้าตอนนี้เรียนอยู่ปีสี่ค่ะ
ตอนเลิกกันคือเค้านอกใจไปมีผู้ชายใหม่ แต่ในตอนนี้เค้าก็บอกว่า
เค้าไม่ได้ไปปันใจให้กับคนอื่นเลย แต่เค้า.. หมดรักเราต่างหาก
รายละเอียด.. วันเลิกกัน
http://pantip.com/topic/30632947 เมื่อกลางปีที่แล้วได้เลิกกับแฟน
เวลาล่วงเลยผ่านไปนานแสนนาน เกิดเรื่องราวต่างๆมากมายในชีวิต
บั่นทอนความรู้สึกของเราไปมาก เพราะ แฟนเก่าเราเป็นรุ่นน้องคณะ ส่วนเราก็เป็นรุ่นพี่ที่ต้องเข้าไปรับน้องเข้าเอก
ยังคงต้องเวียนพบทั้งๆที่ไม่อยากเจอ และการกระทำต่างๆ ที่ไม่เห็นหัวของคนที่หมดรักกัน ก็เหมือนตรอกย้ำ
จนวันนึงเรากลายเป็นโรคซึมเศร้า
พ่อแม่ของเราซึ่งคงไม่อยากยุ่งกับเรามาก บวกกับเราไม่อยากให้ทางบ้านเป็นห่วง
เลยพยายามที่จะดูแลตัวเองรักษาจิตใจ และ พบจิตแพทย์ หากิจกรรมไม่ให้ฟุ่งซ่านหรือคิดถึง
ระยะเวลาตั้งแต่เลิกกันมา ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่เราติดต่อไปเองสักครั้ง
เรากลายเป็นคนทำงานไม่ได้ คิดว่าตัวเองไม่มีค่าตลอดเวลา(อาการโรคซึมเศร้า)
พ่อเห็นว่าไม่ได้การ เลยจับส่งออกไปให้ไกลจากสิ่งเหล่านี้หวังเพื่อจะดีขึ้น
เลยส่งให้เรามาเรียนต่อโทที่ต่างประเทศ
แฟนเก่าไม่เคยรู้เรื่องเลยว่าเราจะไปเรียนต่อ เพราะเราก็ไม่ได้จะไปบอกเค้า
และสังคมเราก็แคบมาก(เอกเดียวกัน) เพื่อนเค้าก็ไปบอกว่า... เราจะไปเรียนต่อละนะ
เค้าโทรมาถามเราว่า ทำไมถึงไม่บอกกันเลยว่าจะไปเรียนต่อ จะให้เค้ารู้เป็นคนสุดท้ายหรือเปล่า
และสุดท้ายก็ตามเดิม เค้าไม่ได้โทรมาด้วยความห่วงใยใดๆต่างๆแต่บอกว่าเจ็บจากผู้ชายคนนั้นที่ไม่เคยมีเวลา
เค้าจึงด่าไล่ผู้ชายคนนี้ออกไปจากชีวิตซึ่งหลังจากนั้นผู้ชายก็ไม่ได้ง้อ และรู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
และเราก็ต้องยอมเป็นศิลาณีไปด้วยปริยาย... เค้าถามเราว่า เราคบกับเค้ามาถึงสามปี เราต้องรู้ว่า เค้าจะทำยังไงให้ผู้ชายคนดีเหมือนเดิม
เราก็บอกให้เค้าอยู่เฉยๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผู้ชายคนนี้กลับมาเธอก็จะเบื่อและรับนิสัยเค้าไม่ได้เหมือนเดิมแหละ
และท้ายที่สุด ผู้ชายที่เค้ารักมาก ก็กลับมาคุยกับเค้าเหมือนเดิม
แต่เค้าก้ยังโทรมาอยู่เรื่อยๆ แม่ของเค้าก็ยังชวนให้ไปทะเลกับครอบครัวเค้า เราไม่เคยรับโทรศัพท์อีก และปฎิเสธทุกข้อเสนอ
เรื่องราวทั้งหมดนี้ เราคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่เราควรที่จะสลัดความทุกข์นี้ออกไปเรื่มต้นชีวิตใหม่สักที
ถ้าแฟนขอมาอยู่ด้วยที่ต่างประเทศทั้งๆที่เค้าหมดรักคุณแล้ว
ที่บ้านเหมือนจะรับรู้ทั้งสองฝ่ายว่า คบกันเป็นเพื่อนกันเพราะ.. เราเป็นทอมดี้..
แต่ครอบครัวต่างก็ไม่ถาม แต่ก็คิดว่าเค้าก็น่าจะรู้
เราเรียนจบก่อนเค้าปีนึง และ เค้าตอนนี้เรียนอยู่ปีสี่ค่ะ
ตอนเลิกกันคือเค้านอกใจไปมีผู้ชายใหม่ แต่ในตอนนี้เค้าก็บอกว่า
เค้าไม่ได้ไปปันใจให้กับคนอื่นเลย แต่เค้า.. หมดรักเราต่างหาก
รายละเอียด.. วันเลิกกัน
http://pantip.com/topic/30632947 เมื่อกลางปีที่แล้วได้เลิกกับแฟน
เวลาล่วงเลยผ่านไปนานแสนนาน เกิดเรื่องราวต่างๆมากมายในชีวิต
บั่นทอนความรู้สึกของเราไปมาก เพราะ แฟนเก่าเราเป็นรุ่นน้องคณะ ส่วนเราก็เป็นรุ่นพี่ที่ต้องเข้าไปรับน้องเข้าเอก
ยังคงต้องเวียนพบทั้งๆที่ไม่อยากเจอ และการกระทำต่างๆ ที่ไม่เห็นหัวของคนที่หมดรักกัน ก็เหมือนตรอกย้ำ
จนวันนึงเรากลายเป็นโรคซึมเศร้า
พ่อแม่ของเราซึ่งคงไม่อยากยุ่งกับเรามาก บวกกับเราไม่อยากให้ทางบ้านเป็นห่วง
เลยพยายามที่จะดูแลตัวเองรักษาจิตใจ และ พบจิตแพทย์ หากิจกรรมไม่ให้ฟุ่งซ่านหรือคิดถึง
ระยะเวลาตั้งแต่เลิกกันมา ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่เราติดต่อไปเองสักครั้ง
เรากลายเป็นคนทำงานไม่ได้ คิดว่าตัวเองไม่มีค่าตลอดเวลา(อาการโรคซึมเศร้า)
พ่อเห็นว่าไม่ได้การ เลยจับส่งออกไปให้ไกลจากสิ่งเหล่านี้หวังเพื่อจะดีขึ้น
เลยส่งให้เรามาเรียนต่อโทที่ต่างประเทศ
แฟนเก่าไม่เคยรู้เรื่องเลยว่าเราจะไปเรียนต่อ เพราะเราก็ไม่ได้จะไปบอกเค้า
และสังคมเราก็แคบมาก(เอกเดียวกัน) เพื่อนเค้าก็ไปบอกว่า... เราจะไปเรียนต่อละนะ
เค้าโทรมาถามเราว่า ทำไมถึงไม่บอกกันเลยว่าจะไปเรียนต่อ จะให้เค้ารู้เป็นคนสุดท้ายหรือเปล่า
และสุดท้ายก็ตามเดิม เค้าไม่ได้โทรมาด้วยความห่วงใยใดๆต่างๆแต่บอกว่าเจ็บจากผู้ชายคนนั้นที่ไม่เคยมีเวลา
เค้าจึงด่าไล่ผู้ชายคนนี้ออกไปจากชีวิตซึ่งหลังจากนั้นผู้ชายก็ไม่ได้ง้อ และรู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
และเราก็ต้องยอมเป็นศิลาณีไปด้วยปริยาย... เค้าถามเราว่า เราคบกับเค้ามาถึงสามปี เราต้องรู้ว่า เค้าจะทำยังไงให้ผู้ชายคนดีเหมือนเดิม
เราก็บอกให้เค้าอยู่เฉยๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผู้ชายคนนี้กลับมาเธอก็จะเบื่อและรับนิสัยเค้าไม่ได้เหมือนเดิมแหละ
และท้ายที่สุด ผู้ชายที่เค้ารักมาก ก็กลับมาคุยกับเค้าเหมือนเดิม
แต่เค้าก้ยังโทรมาอยู่เรื่อยๆ แม่ของเค้าก็ยังชวนให้ไปทะเลกับครอบครัวเค้า เราไม่เคยรับโทรศัพท์อีก และปฎิเสธทุกข้อเสนอ
เรื่องราวทั้งหมดนี้ เราคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่เราควรที่จะสลัดความทุกข์นี้ออกไปเรื่มต้นชีวิตใหม่สักที