[บทความผีแดง 2013-12-10] Close Up: กลุ่มเพื่อนมอยส์

ในสภาวการณ์ที่เพื่อนรักอย่างปีศาจแดงกำลังแย่ Close Up เชื่อว่าในนาทีนี้ มวลมหาประชาผีแดงควรให้กำลังใจนายใหญ่หน้ายับรายนี้เป็นการด่วน

หลายคนมักพูดเสมอว่าสถิติ..มีไว้ทำลาย

ทว่าในนาทีนี้ แฟนฟุตบอลทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ น่าจะกำลังง่วนอยู่กับการจดบันทึกสถิติใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างสนุกสนาน

โดนกลุ่มนักศึกษาหัวรุนแรงจากฮอว์ธอร์นวิทยาอย่าง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนมากระซวกทวารคาบ้าน  2-1 แบบเจ็บแสบ ทั้งๆ ที่ไม่เคยแพ้มา 35 ปีเต็ม หลังจากนั้นก็โดนท็อฟฟี่พลังช้างอย่างเอฟเวอร์ตันบด 0-1 ลบสถิติไร้พ่ายให้กับทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ทีมนี้ตลอด 21 ปีลง ก่อนที่จะแถมด้วยการพ่ายให้กับนิวคาสเซิลอีก 0-1 ทั้งๆ ที่ไม่เคยแพ้มา 41 ปี

ฟุตบอลมันมีขาขึ้นและขาลงครับ (ตรงนี้แฟนอาร์เซนอลเข้าใจดี), แต่ที่น่าสนใจคือ มันเกิดอะไรขึ้นกับทีมที่แทบจะถอดแบบออกมาเป๊ะๆ กับชุดที่คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20?

แน่นอนว่าผลงานที่น่าเหนื่อยใจในระดับนี้ มีผลโดยตรงต่อความมั่นใจของทั้งทีมในภาพรวม เช่นเดียวกัน ความมั่นใจของนักเตะที่มีต่อบอสชาวสก็อตรังนกแท้รายนี้ ก็ดูเหมือนจะเริ่มขุ่นๆ


ไม่ใช่เรื่องของการจูนกันไม่ลงตัวแน่นอน, เพราะนี่แทบจะเป็นชุดเดียวที่ไล่ล่าแชมป์เมื่อปีที่แล้วมาหยกๆ

อย่างกรณีของริโอ เฟอร์ดินานด์ ออกมาแสดงทัศนะต่อวิธีการเลือก 11 ตัวจริงของเดวิด มอยส์ ที่ไม่ยอมปริปากบอกลูกทีมจนกระทั่งก่อนแข่งไม่กี่ชั่วโมง นั่นคือสาเหตุที่ทำให้นักเตะมีสภาพจิตใจตุ้มๆ ต่อมๆ

ก็แหงล่ะครับ ซ้อมบอลกันทุกวันแต่ไม่รู้ว่าจะได้ลงเล่นมั้ย เป็นใครก็ทำตัวไม่ถูก

หรือจะเป็นข่าวของชินจิ คากาวะ ที่เกิดปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจระหว่างเกมที่พ่ายให้กับเอฟเวอร์ตัน แต่มอยส์กลับให้ข่าวว่าเป็นเพราะดาวเตะผู้หน้าเหมือนผู้จัดการทีมราชบุรี มิตรผล เอฟซีรายนี้ทานอาหารมากเกินไป กลายเป็นกระเพาะทำงานหนัก และร่างกายรวนนะครัช

คืออันนี้ผมเข้าใจนะ ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับร่างกายคนเราได้เว้ยเฮ้ย แต่แบบ เอาลูกน้องมาเผาออกสื่อแบบนี้ มันสะท้อนกลับป่ะวะ? ว่าสโมสรมีการจัดการและดูแลเรื่องร่างกายของนักเตะยังไง?

นี่ฟุตบอลคลับเบอร์ต้นๆ ของโลกนะคุณ, ไม่ใช่หมูกะทะ เอฟซี

ที่ผมตั้งข้อสังเกตก็คือเรื่องราวข่าวแย่ๆ ในมุ้งของยูไนเต็ด ไม่เคยถูกเอาออกมาแฉหรือถูกเขียนเป็นข่าวเล่าผ่านสื่อให้เป็นโจ๊กประจำสัปดาห์ในยุคของบรมป๋าเซอร์อเล็กซ์ผู้เปี่ยมล้นด้วยพลัง

เพราะถ้าอ้ายอีตนใดมันกล้าปริปาก, หลังไมค์อาจจะได้นอนเคลียร์กับป๋าเป็นการส่วนตัวแน่


สิ่งเดียวที่น่าจะเป็นแรงยึดเหนี่ยวที่ทรงพลังที่สุดสำหรับแฟนๆ ปีศาจแดงทุกวันนี้ ก็คือเซอร์อเล็กซ์ฯ เป็นคนเลือกเดวิด มอยส์เข้ามาเอง

จึงพอตั้งข้อสันนิษฐานได้ว่ามอยส์ อาจจะกำลังมีปัญหาในการสื่อสารภายในและการให้ข่าว ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลให้เกิดแรงต่อต้านเล็กๆ จากนักเตะ (ผมเดาเอานะครับ)

กลับมาที่โอลด์ แทรฟเฟิร์ด หลังจากที่มอยส์โดนศิษย์เก่าแห่งกูดิสันบุกมาเซย์ไฮไปหนึ่งดอกถ้วน ท่ามกลางความเงิบของแฟนคลับเรือนหมื่นของ ‘ปีศาจแดง’ เขาตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นในทีมถึง 7 รายในการรอซดนิวคาสเซิลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทว่ารูปเกมไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเลย ซึ่งตรงนี้ผมมี 2 พยางค์เกิดขึ้นในหัวว่า “กูงง”

การได้โรบิน ฟานเพอร์ซี กลับมาคืนทัพในรอบเดือนเต็มๆ ประกบด้วยชิชาริโต้ที่แสนจี๊ดจ๊าด โดยมีทอม เคลฟเวอร์ลีย์คุมเกมคู่กับฟิล โจนส์ ในขณะที่หลุยส์ นานี่ ทำเกมริมเส้นคู่กับอั๊ดนาน ยานาไซ โดยรวมแล้วนี่มันเป็นเกมรุกที่โหดขิงๆ ซึ่งจะขาดไปก็เพียงรูนีย์ที่สะสมใบเหลืองดั่งสแตมป์เซเว่น ครบกำหนดอดเล่นไปเพียงคนเดียว

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือรูปเกมดูไม่ค่อยเวิร์คเท่าที่ควร ฟาน เพอร์ซีเมื่อไม่มีรูนีย์ก็กลายเป็นว่าเขาไม่ได้รับบอลสนับสนุน, นานี่ก็ยังวิ่งตะบี้ตะบันเหมือนเดิม ในขณะที่ยานาไซก็ยังทำได้ดีที่สุดตามประสบการณ์ และที่มึนที่สุดคือการส่งเอาวินฟรีด ซาฮา ลงมาเล่นในช่วงเวลาสำคัญ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเหลียวแลมาตลอด 4 เดือน นี่มันคืออะไร ทางบ้านให้อภัยแล้ว?

และทันทีที่จบ 90 นาที พวกเขาต้องแพ้ให้กับนิวคาสเซิลไป 0-1 แบบงงๆ ในขณะที่แฟนบอลกว่าพันคนทยอยเดินออกจากสนามก่อนนกหวีดยาวของอังเดร มาร์ริเนอร์จะดังด้วยซ้ำ เพราะไม่ว่าจะมองซ้ายมองขวาอีท่าไหน นี่คือทีมรักที่สะดุดล้มคาบ้าน 2 นัดติดๆ ในรอบ 11 ปี



มอยส์จะต้องมีเหตุผลให้กับการจัดตัวลงเล่นในทุกๆ นัดของเขาอย่างหนักแน่น เพราะบางครั้งมันช่างค้านสายตาแฟนบอลปีศาจแดงทุกคนเหลือเกิน

มาถึงตอนนี้ ถ้ายิ่งมองให้แย่ มันก็ยิ่งแย่ตามครับ แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและมวลมหาประชาผีที่รักทุกคน ขอให้ได้โปรดเชื่อเถิดว่า ทุกอย่างย่อมมีกลไกของมัน สิ่งเดียวที่เหล่า ‘เร้ด อาร์มี่’ พึงกระทำคืออดทนและใช้เวลาไปกับมอยส์ให้ดีที่สุด แม้จะอยู่กลางตาราง แต่ก็ต้องมีขึ้นมีลง ไม่ใช่วันนี้ ก็ต้องเป็นวันหน้า นี่คือบททดสอบของพวกคุณ

ในระบบการทดลองทีมของมอยส์ ไม่มีช่องว่างให้กับคำว่า "ลองเล่นๆ" เพราะตราบใดที่คุณตั้งใจเปลี่ยนทีมสต๊าฟให้กลายเป็นเอฟเวอร์ตันแบบยกชุด คุณก็ต้องยอมและยืดอกรับกับผลการทดลองที่จะตามมาในซีซั่นนี้ และทุกวันนี้ มันก็คือคำตอบของการลองผิดลองถูกจากสมการของเขาเอง

ซึ่งผมเชื่อว่าแฟนานุแฟนของหลายต่อหลายทีมที่เคยอยู่ในจุดนี้ก็น่าจะเข้าใจถึงความรู้สึกเด็กปีศาจทุกท่านดี ด้วยความเคารพ

ผมคงต้องทิ้งท้ายว่า แม้ช่วงเวลาจะแย่แค่ไหน แต่กลุ่มเพื่อนมอยส์ยังคงต้องมี หรือถ้าจะไม่มี ก็ต้องปล่อยให้ระบบหรือสโมสรเป็นผู้จัดการทุกอย่าง ถ้ามันดำดิ่งจนกรอบเกลียวเกินห้ามใจ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคงไม่ปล่อยให้ทีมตกต่ำถึงขีดสุดอย่างแน่นอน สิงห์ คอร์เปอเรชั่นได้กล่าวไว้

เพราะอย่างน้อยๆ แม้ทุกวันนี้ มอยส์จะทำสถิติใหม่ให้เกิดขึ้นมาอย่างมากมาย แต่ก็ยังมีบางเรคคอร์ดที่ยังไม่ถูกทำลาย เช่นเมื่อปี 2001/2002 พวกเขาผ่าน 15 เกมของฤดูกาลด้วย 21 คะแนน

แต่วันนี้ ยูไนเต็ดมี 22 คะแนนแล้ว

เพราะฉะนั้น “อิน มอยส์ วี ต้องทรัสต์” สิ, ข้อนี้แฟนอาร์เซนอลรู้ดี

credit : www.goal.com/th  โดยคุณ ธีรภัทร รัญตะเสวี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่