เทพเทือกได้ขออนุญาต สนธิลิ้มแล้วหรือยัง ที่เอาคำประชาภิวัฒน์นี้มาใช้ หรือกลายเป็นกลุ่มเดียวกัน ไปแล้ว หลังจากที่สนธิลิ้มเคยด่าเทพเทือกอย่างมากมายมาแล้ว
แล้วยินดีที่จะยอมอยู่ในคุก โดยไม่เอาประชาชนเป็นเกราะกำบังหรือเปล่า
จากเมื่อ ปี 51 สนธิลิ้มก็ประกาศ
27 สิงหาคม 2551
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลาประมาณ 17.45 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวปราศรัยกับผู้ชุมนุม ว่า สื่งที่เกิดขึ้นวันนี้มันไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของเมืองไทยเท่านั้น แต่เป็นประวัติศาสตร์โลกที่ต้องปรบมือให้กับอารยะขัดขืน ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ในโลก อารยะขัดขืนแต่ปราศจากความรุนแรง ซึ่งความในภาษาไทยยังไม่มี แต่อยากบัญญัติศัพท์ใหม่ว่าเป็น ประชาภิวัฒน์
นายสนธิ กล่าวว่า ความหมายของคำว่าประชาคือประชาชน หรือประชาธิปไตยก็ได้ ดังนั้น คำว่าอภิวัฒน์ประชาธิปไตยเป็นการกระทำในบริบทใหม่ของการเมืองที่โลกไม่เคยเจอ การที่เรามายึดครองทำเนียบ โดยไม่มีอาวุธ และไม่ได้ข่มขู่ใคร เรามากันทุกเชื้อชาติ ทุกชนชั้น ด้วยวัตถุประสงค์ทำการเมืองให้ดีขึ้น หมายถึงการเมืองที่โปร่งใส ไม่คดโกง ไม่ปล้นชาติ ขายชาติ เป็นการเมืองที่ตั้งบนความจริงของสังคมไทย บนพื้นฐานของพระมหากษัตริย์ ตราบใดที่พระมหากษัตริย์ทรงทศพิธราชธรรม เราต้องต่อสู้ต่อไป
......
และได้กล่าวตอนท้ายว่า
“ผมและแกนนำยอมอยู่ในคุก เพื่อให้พี่น้องต่อสู้แบบประชาภิวัฒน์ คุกขังเราได้แต่ร่างกาย แต่ขังใจเราที่เป็นอิสระไม่ได้ครับพี่น้อง เพราะการต่อสู้ของเราเอาธรรมนำหน้า ดังนั้น อย่าเสียน้ำตา แต่ต้องแปลงน้ำตาเป็นพลังให้สานต่อการเมืองประชาภิวัฒน์ ให้ความฮึกเหิมคงอยู่ตลอดไป”
.....
"ประชาภิวัฒน์" ของเทพเทือก ขออนุญาตจากสนธิลิ้มแล้วหรือยัง
แล้วยินดีที่จะยอมอยู่ในคุก โดยไม่เอาประชาชนเป็นเกราะกำบังหรือเปล่า
จากเมื่อ ปี 51 สนธิลิ้มก็ประกาศ
27 สิงหาคม 2551
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลาประมาณ 17.45 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวปราศรัยกับผู้ชุมนุม ว่า สื่งที่เกิดขึ้นวันนี้มันไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของเมืองไทยเท่านั้น แต่เป็นประวัติศาสตร์โลกที่ต้องปรบมือให้กับอารยะขัดขืน ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ในโลก อารยะขัดขืนแต่ปราศจากความรุนแรง ซึ่งความในภาษาไทยยังไม่มี แต่อยากบัญญัติศัพท์ใหม่ว่าเป็น ประชาภิวัฒน์
นายสนธิ กล่าวว่า ความหมายของคำว่าประชาคือประชาชน หรือประชาธิปไตยก็ได้ ดังนั้น คำว่าอภิวัฒน์ประชาธิปไตยเป็นการกระทำในบริบทใหม่ของการเมืองที่โลกไม่เคยเจอ การที่เรามายึดครองทำเนียบ โดยไม่มีอาวุธ และไม่ได้ข่มขู่ใคร เรามากันทุกเชื้อชาติ ทุกชนชั้น ด้วยวัตถุประสงค์ทำการเมืองให้ดีขึ้น หมายถึงการเมืองที่โปร่งใส ไม่คดโกง ไม่ปล้นชาติ ขายชาติ เป็นการเมืองที่ตั้งบนความจริงของสังคมไทย บนพื้นฐานของพระมหากษัตริย์ ตราบใดที่พระมหากษัตริย์ทรงทศพิธราชธรรม เราต้องต่อสู้ต่อไป
......
และได้กล่าวตอนท้ายว่า
“ผมและแกนนำยอมอยู่ในคุก เพื่อให้พี่น้องต่อสู้แบบประชาภิวัฒน์ คุกขังเราได้แต่ร่างกาย แต่ขังใจเราที่เป็นอิสระไม่ได้ครับพี่น้อง เพราะการต่อสู้ของเราเอาธรรมนำหน้า ดังนั้น อย่าเสียน้ำตา แต่ต้องแปลงน้ำตาเป็นพลังให้สานต่อการเมืองประชาภิวัฒน์ ให้ความฮึกเหิมคงอยู่ตลอดไป”
.....