ขอเขียนแบบตรงๆ เลยนะครับ ผมคิดว่าปัญหาจริงๆ ที่เกิดขึ้นมานั้นเกิดจากอะไร และจะมีทางแก้แบบไหนให้บ้านเมือง ผมมีวิธีครับ
1. นิยามของคำว่าประชาธิปไตย คือ เสียงข้างมาก แต่ไม่ใช่เสียงโดยรวมที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
ขออธิบายแบบนี้ครับ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่ว่าจะยุคสมัยไหนจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จ และเมื่อรัฐบาลมีเสียงในสภามากก็ยิ่งมีอำนาจในการบริหารมากและยากที่จะถูกควบคุมตรวจสอบโดยฝ่ายค้าน ง่ายๆ คือ "คิดเอง ลงมือทำเอง ใช้เงินเอง พอผิดก็ให้เพื่อนให้สมาชิบอกว่าถูก"
2. การไม่ยอมรับนับถือฝ่ายตรงข้าม
ข้อนี้คือ การไม่เอาฝ่ายตรงข้าม ไม่ยอมรับฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ต่างไม่ได้มองอย่างเคารพซึ่งกันและกันเลย รัฐบาลก็ถือดีว่ามาจากการเลือกตั้งมีอำนาจเบ็ดเสร็จมองว่าฝ่ายค้านเป็นเพียงเสียงข้างน้อย จะทำอะไรก็ได้ ส่วนฝ่ายค้านเองก็ไม่ยอมรับสิ่งที่รัฐบาลกระทำในเรื่องต่างๆ ซึ่งไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองกี่ครั้งกี่หน ทั้งสองฝ่ายก็ทำเ้หมือนกัน เพราะตัวเองมีเสียงข้างมาก
ปัญหาหลักๆ น่าจะมี 2 ข้อใหญ่ๆ ดังนั้นผมขอเสนอระบบนี้ครับ น่าจะเป็นทางออกจริง
ผมขอเรียกว่า
"ประชาธิปไตยระบบอำนาจสมดุล"
ระบบนี้ผมขออธิบายสั้นๆ ว่า เป็นการให้อำนาจทั้งสองฝ่ายอย่างเท่าเทียม ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ
วิธีการในแง่การบริหารก็คือ
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ังจะมีอำนาจในการออกนโยบายต่างๆ การใช้เงินภาษีต่างๆ
แต่ฝ่ายค้านจะได้อำนาจในการปฏิบัติงานแทนรัฐบาลตามนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลกำหนดขึ้นทั้งหมด
เรียกง่ายๆ รัฐบาลเขียนกรอบการทำงาน จ่ายเงิน แต่ฝ่ายค้านเป็นผู้ทำ รัฐบาลอยากได้นโยบายไหนออกมาได้เลย จ่ายเลย แต่คนลงมือปฏิบัติต้องเป็นฝ่ายตรงข้าม แบบนี้ยุติธรรมที่สุดแล้ว รัฐกินเองชงเองไม่ได้อีกต่อไป เพราะรัฐคิดและจ่ายให้เขาไปทำแทน
ซึ่งถ้าทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นไปอีกรัฐบาลแต่งตั้งนายก รองนายกก็ควรเป็นผู้นำฝ่ายค้านครับ รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ มากจากรัฐบาล ผู้ช่วยก็ควรมาจากฝ่ายค้าน
ให้อำนาจทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกัน ในทุกขั้นตอน
อยากขอเสียงสนับสนุนครับ เพื่อบ่านเมืองของเราครับ ใครเห็นด้วยช่วยแชร์ เยอะๆ ครับ
***ผมขอแท็คเป็นกฏหมายการเมือง และปัญหาสังคมนะครับ(ใจอยากแท็คทุกห้องเหลือเกินแต่ไม่สมควรเลยขอเท่านี้ครับ) ผมไม่ได้เข้าข้างไหน ผมอยากให้บ้านเมืองเข้าใจกัน และได้ทำงานร่วมกันจริงๆ***
อยากให้อ่านครับ - ประชาธิปไตยระบบอำนาจสมดุล ผมว่าระบบนี้คือทางออกจริงของปัญหาการเมืองครับ อยากได้เสียงสนับสนุนครับ
1. นิยามของคำว่าประชาธิปไตย คือ เสียงข้างมาก แต่ไม่ใช่เสียงโดยรวมที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
ขออธิบายแบบนี้ครับ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่ว่าจะยุคสมัยไหนจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จ และเมื่อรัฐบาลมีเสียงในสภามากก็ยิ่งมีอำนาจในการบริหารมากและยากที่จะถูกควบคุมตรวจสอบโดยฝ่ายค้าน ง่ายๆ คือ "คิดเอง ลงมือทำเอง ใช้เงินเอง พอผิดก็ให้เพื่อนให้สมาชิบอกว่าถูก"
2. การไม่ยอมรับนับถือฝ่ายตรงข้าม
ข้อนี้คือ การไม่เอาฝ่ายตรงข้าม ไม่ยอมรับฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ต่างไม่ได้มองอย่างเคารพซึ่งกันและกันเลย รัฐบาลก็ถือดีว่ามาจากการเลือกตั้งมีอำนาจเบ็ดเสร็จมองว่าฝ่ายค้านเป็นเพียงเสียงข้างน้อย จะทำอะไรก็ได้ ส่วนฝ่ายค้านเองก็ไม่ยอมรับสิ่งที่รัฐบาลกระทำในเรื่องต่างๆ ซึ่งไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองกี่ครั้งกี่หน ทั้งสองฝ่ายก็ทำเ้หมือนกัน เพราะตัวเองมีเสียงข้างมาก
ปัญหาหลักๆ น่าจะมี 2 ข้อใหญ่ๆ ดังนั้นผมขอเสนอระบบนี้ครับ น่าจะเป็นทางออกจริง
ผมขอเรียกว่า
"ประชาธิปไตยระบบอำนาจสมดุล"
ระบบนี้ผมขออธิบายสั้นๆ ว่า เป็นการให้อำนาจทั้งสองฝ่ายอย่างเท่าเทียม ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ
วิธีการในแง่การบริหารก็คือ
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ังจะมีอำนาจในการออกนโยบายต่างๆ การใช้เงินภาษีต่างๆ
แต่ฝ่ายค้านจะได้อำนาจในการปฏิบัติงานแทนรัฐบาลตามนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลกำหนดขึ้นทั้งหมด
เรียกง่ายๆ รัฐบาลเขียนกรอบการทำงาน จ่ายเงิน แต่ฝ่ายค้านเป็นผู้ทำ รัฐบาลอยากได้นโยบายไหนออกมาได้เลย จ่ายเลย แต่คนลงมือปฏิบัติต้องเป็นฝ่ายตรงข้าม แบบนี้ยุติธรรมที่สุดแล้ว รัฐกินเองชงเองไม่ได้อีกต่อไป เพราะรัฐคิดและจ่ายให้เขาไปทำแทน
ซึ่งถ้าทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นไปอีกรัฐบาลแต่งตั้งนายก รองนายกก็ควรเป็นผู้นำฝ่ายค้านครับ รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ มากจากรัฐบาล ผู้ช่วยก็ควรมาจากฝ่ายค้าน
ให้อำนาจทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกัน ในทุกขั้นตอน
อยากขอเสียงสนับสนุนครับ เพื่อบ่านเมืองของเราครับ ใครเห็นด้วยช่วยแชร์ เยอะๆ ครับ
***ผมขอแท็คเป็นกฏหมายการเมือง และปัญหาสังคมนะครับ(ใจอยากแท็คทุกห้องเหลือเกินแต่ไม่สมควรเลยขอเท่านี้ครับ) ผมไม่ได้เข้าข้างไหน ผมอยากให้บ้านเมืองเข้าใจกัน และได้ทำงานร่วมกันจริงๆ***