คือการต่อแม่เหล็กไฟฟ้าแบบพื้นฐาน โดยการนำขดลวดมาม้วนเป็นวงพันรอบตะปู แล้วต่อไฟกระแสตรงเข้าไป จะได้แม่เหล้กไฟฟ้า อันนี้น่าจะทราบกันดีแล้วนะครับ

แรงแม่เหล็กที่ได้ ก็ควรจะเป็นไปตามกฏของแอมแปร์  สรุปแล้วได้มาเป็น  B = u₀ NI  หรือแปลเป็นไทยได้ว่าความแรงแม่เหล็ก ขึ้นอยู่กะจำนวนขดลวดและกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านขดลวด เอ่อ เอาเข้าจริงๆ N มันคือจำนวนรอบต่อความยาว ถ้าพันแน่นเท่าเดิม ไม่ว่าพันยาวแค่ไหน ค่า N ก็คงที่

ทีนี้ พอต่อจริง  ผลที่ได้ทำมึนตึ๊บเลยครับ

เพราะเมื่อเพิ่มแรงดันไฟฟ้า (V) เข้าไป แรงแม่เหล็กกลับลดลง? ทั้งๆที่จริงๆควรจะเพิ่มขึ้น เพราะกระแสไฟฟ้านั้นแปรผันตรงกะแรงดันไฟฟ้า มันก็ควรจะต้องแรงขึ้นสิ  โดยเมื่อต่อไฟที่ 6 V วัดความแรงแม่เหล้กได้ 2.2 mT  แต่ที่ 12 V ดันวัดได้ 1.1 mT แน่นอนว่าไม่ได้ต่อผิดและจ่ายไฟผิด เพราะผมลองวัด V เพื่อยืนยันแหล่ว

เรื่องนี้ผมยังสรุปไม่ได้ครับ แต่ที่คิดๆไว้ คือ

1- eddy current  เกิดกระแสย้อนกลับ แต่มันไม่น่าจะเกี่ยวเลยเพราะนี่ผ่านหม้อแปลงให้เป็นไฟ DC แล้ว แต่ก็ไม่ได้ทิ้งเพราะผมไม่ได้แงะดูว่าวงจรมี ripple หรือไม่ และถ้ามี มันมีผลอะไรไหม

2- ตะปูมันเป็นแม่เหล็กไปแล้ว แรงที่ได้เป็นแรงที่แรงแม่เหล็กหักลบกัน    ความคิดผมคิดว่ามันน่าจะทำให้ตะปูพยายามพุ่งออกมามากกว่านะ ที่แน่ๆตะปูที่ใส่แทบทั้งชุดให้ผลเดียวกันหมด

3- กฏของแอมแปร์ไม่สามารถอธิบายเหตการณ์นี้ได้ เอ็งใช้ทฤษฏีผิดแล้ว!

4- ขดลวดพันไม่ดี...  เอ่อ  อันนี้ใช้ลวดทองแดง ดึงจากม้วนแล้วมาพันเลยครับ มีสารเคลือบไว้อยู่บางๆ คิดว่าน่าจะให้เป็นฉนวนได้นะ

ตอนนี้ตึ๊บมาก เลยมาหาไอเดียเพิ่มครับผม!