นิทานชาวสวน ๘ ธ.ค.๕๖

กระทู้สนทนา
นิทานชาวสวน

เรื่องงานเขียน (๑)

เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ สงบลง ผูเล่าก็กลับมาสอบไล่ ชั้น ม.๖ ที่โรงเรียนมัธยมวัดราชาธิวาส แต่สอบตก ต้องเรียนซ้ำชั้น แต่ไม่มีค่าเทอมต้องลาออกมาขายขนมถ้วยตะไลตามเดิม ขณะนั้นอายุ ๑๕ ปีแล้ว เผอิญมีญาติที่เป็นทหารพาหนะ พาไปสมัครทำงานเป็นลูกจ้างใช้แรงงาน

จึงทำให้มีเวลาว่างมากขึ้น จึงลงมือเขียนหนังสือตามความใฝ่ฝันอันสูงสุดของตนตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๘๙ แต่ก็ลงตะกร้าของบรรณาธิการหมด จนถึง พ.ศ.๒๔๙๑ เรื่องสั้งเรื่องแรกโดยนามปากกา "เพทาย" จึงได้ปรากฏอยู่ในนิตยสาร"โบว์แดง" ซึ่งมี สันต์ เทวรักษ์ นักประพันธ์เอก เป็นบรรณาธิการ

และตั้งแต่นั้นมาก็มุมานะเขียนเรื่องสั้น และบทกลอสส่งวารสารต่าง ๆ อย่างไม่ย่อท้อ จนถึง พ.ศ.๒๔๙๗ จึงได้เข้าเกณฑ์ เป็นพลทหารกองประจำการ

พอเป็นพลทหารปีที่ ๒ ก็สมัครเข้าเรียน หลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารสื่อสาร ครบหนึ่งปี สอบได้เป็น สิบโท เสมียน กองกำลังพล กรมการทหารสื่อสาร สะพานแดง ริมคลองเปรมประชากร ตัดกับถนนทหาร เยื้องกับกรมพาหนะทหารบกนั่นเอง

บังเอิญ กรมการทหารสื่อสาร มีนิตยสารประจำหน่วยออกเป็นรายเดือน เป็นสนามฝึกฝนงานเขียนอย่างดียิ่ง

ความจริงนามปากกา "เพทาย" เกิดขึ้นในเดือน ตุลาคม ห่างจาก กำเนิดของนิตยสาร ทหารสื่อสาร เดือน เมษายน เพียง ๖ เดือนเท่านั้น โดยไม่รู้จักมักจี่กัน เหมือนอยู่ห่างคนละโลก ทั้ง ๆ ที่ใกล้กันเพียงคนละฝั่งคลองเปรมประชากรเท่านั้น

งานเขียนหนังสือของผู้เล่าจึงไม่ต้องไปส่งให้วารสารอื่น เขียนให้ นิตยสารทหารสื้อสาร ฉบับเดียว จนได้เป็น ประจำกองบรรณาธ้การ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ และได้เป็นผู้ช่วยบรรณาธิการ เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๐

########
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่