ทำไม อาจารย์มหาวิทยาลัยได้เงินเดือนน้อยจังครับ ป.โท 17000 กว่าๆ ป.เอก ไม่ถึง 30000 คุ้มค่ากับที่เรียนมาไหม

แปลกใจว่า
ทำไม อ.มหาลัย
ถึงได้เงินเดือนน้อยจัง
ทั้งๆที่ ภาระงานสอน ก็มา
ป.โท ป.เอก ได้เงินเดือนไม่พอใช้เลย
แล้วลงทุนเรียนมา จะคุ้มค่าไหม
เพื่อนๆที่เคย ทำงานมหาลัย
ขอความคิดเห็นด้วยครับ
ขอบคุณครับ
อิอิ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
ก็ว่ากันไปเรื่องรายได้ ส่วนหนึ่งก็ "เค้าว่ามา"

จริงๆ แล้วอาจารย์มหาวิทยาลัยเงินเดือนไม่เยอะหรอกครับ ดูฐานเงินเดือนเริ่มต้นของบุตลากรมหาวิทยาลัยล่าสุดได้ที่นี่

https://docs.google.com/spreadsheet/ccc?key=0AtOEk06d1KjkdHczVWdzUUh3bjVtX0dnWnlGZDRkbXc&usp=drive_web#gid=0

ส่วนหากทำงานไปเท่านั้นเท่านี้ปีแล้วเงินเดือนขึ้นเท่าไรก็ประมาณการเอาเอง เงินเดือนขึ้นเฉลี่ยปีละ 5%


- ที่บอกอาจารย์เป็นที่ปรึกษาบริษัทภายนอกรายได้ดีก็มีจริง แต่คำถามคือมีกี่คนจากกี่สาขาที่เป็นอย่างนั้น ก็ลองนึกถึงหลักความจริงอาจารย์มหาวิทยาลัยมีเป็นพันถึงหลายพันคนต่อแห่ง มีสักกี่คนจากกี่สาขาที่ไปเป็นที่ปรึกษาลักษณะนั้น อาจารย์สอนฟิสิกส์ เคมี ชีว ครุศาสตร์ บริหารก็ชนกันตาย นาฏศิลป์ ครุ พละ ศิลปะ จะให้ไปเป็นที่ปรึกษาใคร ในแต่ละมหาวิทยาลัยนั้นมีน้อยคนที่ไปเป็นที่ปรึกษาและมีรายได้เป็นกอบเป็นกำตรงนั้น

- ที่บอกทำงานวิจัยมีรายได้จากงานวิจัยเยอะก็มีจริง แต่คำถามคือจะมีสักกี่คนที่เป็นอย่างนั้น หน่วยงานไม่ว่ารัฐหรือเอกชนบ้านเราไม่ค่อยเห็นประโยชน์ของการวิจัยหรือคุณค่าสมองของการวิจัย หากเอกชนจ้างอาจารย์ทำวิจัย อันนั้นพอจะมีค่าแรงบ้าง แต่งานวิจัยบ้านเราส่วนมากได้รับงบสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งส่วนมากไม่จัดงบค่าตอบแทนให้อาจารย์เพราะถือว่าอาจารย์ได้ประโยชน์จากการเผยแพร่งานวิจัยหรือนำผลงานไปขอตำแหน่งทางวิชาการอยู่แล้ว ยกเว้นทุนที่แจ๋วจริงๆจึงกำหนดค่าตอบแทนให้อาจารย์ผู้ทำวิจัย หากอาจารย์ท่านใดที่ไม่ใช่ดาวแล้วบอกว่าขอทุนภาครัฐทำวิจัยแล้วมีรายได้เป็นกอบเป็นกำสันนิษฐานว่ามีการยักย้ายใบเสร็จค่าใช้จ่ายของโครงการ สำหรับทุนวิจัยที่รัฐจัดสรรให้ โดยเฉลี่ยสำหรับม.รัฐชั้นนำนั้นหลักแสนต่อคนต่อปี ราชภัฏหลักหมื่นต่อคนต่อปี อย่าลืมว่าไม่มีต่าตอบแทน หากอยากมีรายได้ก็ต้องเมคใบเสร็จ

-ที่บอกว่ามีค่าสอนตามชั่วโมง ก็อาจจะจริงแต่ก่อน แต่สมัยนี้เค้าเหมารวมในเงินเดือนหมดแล้ว น้อยแห่งที่จะได้ค่าสอนเพิ่มพิเศษ แต่ต้องเป็นหลักสูตรพิเศษเช่น โท เอก (ซึ่งหลายแห่งไม่ถือเป็นหลักสูตรพิเศษ) หรือนอกเวลาราชการ กลุ่มเป้าหมายคนทำงานต่อยอดหรือปรับวุฒิที่จ่ายค่าเทอมแพง ที่บอกว่าบรรยายได้ชั่วโมงละเป็นหมื่นนั่นนิติภูมิ เนาวรัตน์ ของอาจารย์ธรรมดาแค่หลักหลายร้อยตามอัตราราชการ ที่หรูหราหน่อยคือสองสามพันให้กับหน่วยงานเอกชน แต่หากมีบรรยายอย่างนี้เดือนละสิบชั่วโมงนี่เรียกเทพมากแล้ว สอนหลักสูตรพิเศษเทอมละสี่สิบห้าสิบชั่วโมงนั่นได้ค่าชั่วโมงหลักไม่กี่ร้อย คูณเอาเอง

- เงินประจำตำแหน่ง ไม่ได้เยอะอย่างที่ทุกคนคิด เฉลี่ย ผศ. ราวหมื่นนึง รศ.ราวสองหมื่น ศ.ราวสามหมื่น แต่ถามว่าทั้งประเทศมี รศ.กี่คน และถามหา ศ.ยิ่งแล้วใหญ่ บางมหาวิทยาลัยบอก ศ.หน้าตาเป็นอย่างไรไม่รู้จัก ส่วนตำแหน่งบริหาร หัวหน้าภาค เหล่านี้หลักหมื่น คณบดี-ผู้อำนวยการหลักสองหมื่น ส่วนใครบอกอธิการบดีเงินเดือนและค่าตำแหน่งรวมกันสองสามแสนก็ขอดูสลิปเงินเดือนหน่อยเถิด


สรุป ค่าตอบแทนไม่เยอะ เหตุผลหลักๆ ของคนเป็นอาจารย์น่าจะเป็น

- หน้าตา-สถานะทางสังคม
- ชอบถ่ายทอดความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ่ายทอดกับคนหมู่มาก ได้เผยแพร่อุดมการณ์หรือปรัชญาการดำรงชีพ
- ชอบบรรยากาศการทำงานที่ค่อนข้างอิสระ ให้เกียรติกัน ไม่มีเจ้านาย-ลูกน้อง (ถาวร) เพราะผู้บริหารมีตำแหน่งเป็นวาระ ข่มเหงเพื่อนอาจารย์ด้วยกันไม่ได้ เพราะอาจโดนเอาคืนเวลาลงจากตำแหน่งกลับมาเป็นอาจารย์ธรรมดา
- ภาระงานการเลือกสรรเองได้ อยากสอนวันไหน พักวันไหน จัดตารางสอนเองเลย อยากวิจัยก็ทำ ไม่อยากทำก็สอนเป็นหลัก บางแห่งไม่มีตอกบัตรเข้างาน
- ระบบเส้นสายในการทำงานมีน้อย ความก้าวหน้าเลือกสรรเองได้ ตือทำผลงานทางวิชาการเอาเอง
- ที่สำคัญ มันเปิดโอกาสให้คนที่ไม่ได้จบครู สามารถเป็นครูส่งคนถึงฝั่ง อันเป็นความภาคภูมิใจที่ไม่มีใครเหมือน
- และสำหรับบางอาชีพ การเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยช่วยสร้างคุณค่าหรือเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ ซึ่งคนไข้ให้ความเชื่อถืออาจารย์เหล่านี้มากกว่าแพทย์-ทันตแพทย์ทั่วไป


แต่นับวันคนจบปริญญาเอกก็เกร่อมากขึ้นทุกวันๆ ตัวเลือกคนเป็นอาจารย์ก็มีมากขึ้น แนวโน้มในอนาคตคนจบปริญญาเอกแบบเรียนตรี-โท-เอกรวดเดียวจบจะมีโอกาสได้งานน้อยกว่าผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานวิชาชีพในแต่ละสาขานั้นๆมาก เพราะคนมีประสบการณ์ทำงานจะรู้ว่าควรจะสอนอะไรเรียนอะไรที่เอาไปใช้ประโยชน์จริงในตลาดแรงงาน และมหาวิทยาลัยส่งเสริมให้อาจารย์ทำงานนอกมหาวิทยาลัยมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างจุดนี้

หากเลือกอาจารย์มาทำวิจัยก็ดูที่สถาบันที่จบมา จบนอกก็ใช่ว่าดีกว่า ดูเล่มวิทยานิพนธ์ก็ทราบว่าระดับไหน มหาวิทยาลัยในไทยที่แย่หน่อยก็มีเส้นสายเด็กฝากเป็นอาจารย์เยอะหน่อย มหาวิทยาลัยดีๆก็มีเด็กฝากน้อยหน่อยเพราะอาจารย์เค้าแอนตี้กัน รับคนห่วยมาก็มีแต่สร้างภาระฉุดอันดับมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยชั้นนำก็อยากได้ดาราที่รับมาแล้วสร้างผลงานได้ทันที หาทุนเข้า ช่วยไต่อันดับให้มหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยดีๆ อาจารย์ดีๆ เด็กก็อยากไปเรียน อาจารย์ก็เข็นไม่ยาก ก็ยิ่งมีชื่อเสียง ส่งเสริมกันยิ่งขึ้นไปอีก


ข้าพเจ้าสอนหนังสือจนหัวหงอกแล้วรายได้รวม (ไม่ใช่เงินเดือน) ยังไม่ถึงเลขหกหลักเสียที เพื่อนฝูงจบวิศว
ฯ รุ่นเดียวกันเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วรายได้ต่อเดือนเลขหกหลักขึ้นต้นด้วยเลข 2-3 กันหมดแล้ว คิดดู พอถูไถอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะอยู่หัวเมืองกับค้างคาที่ความภูมิใจเล็กๆน้อยๆนั้น คิดเหมือนกันว่าพวกอาจารย์ในกรุงเทพนี่ส่วนมากถ้าไม่มีฐานะดีมาแต่เดิมก็ต้องมีคู่สมรสที่ดูแลเรื่องรายได้ ไม่งั้นอยู่ลำบาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่