จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น มีคนพูดถึง มาตรา ๗ กันมาก ต่างตีความกันไปต่างๆ นานาเพื่อให้ดูชอบธรรมกับฝ่ายของตน กระผมในฐานะคนไทยที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และอยากให้ประเทศชาติสงบสุข ขอให้ทุกท่านทุกฝ่ายยึดหลักความถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
ในการนี้ข้าพระพุทธเจ้าข้อน้อมนำพระราชดำรัส พระราชทานแก่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อให้ประชาชนพี่น้องเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงใน มาตรา ๗ ที่พระบาทสมเด็จฯพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชวินิจฉัยไว้ใจความตอนหนึ่งว่า
“นี่พูดเรื่องนี้ ค่อนข้างจะประหลาดหน่อย ที่ขอร้องอย่างนี้ แล้วก็ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาก็บอกว่าต้องทำมาตรา ๗ มาตรา ๗ ของ ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งขอยืนยัน ยืนยันว่ามาตรา ๗ นั้นไม่ได้หมายถึง ให้มอบให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจ ที่จะทำอะไรตามชอบใจ ไม่ใช่ มาตรา ๗ นั้น พูดถึงการปกครอง แบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ได้บอกว่า ให้พระมหากษัตริย์ตัดสินใจ ทำได้ทุกอย่าง
ถ้าทำเขาจะต้องว่าพระมหากษัตริย์ ทำเกินหน้าที่ ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยเกิน ไม่เคยทำเกินหน้าที่ ถ้าทำเกินหน้าที่ ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย เขาอ้างถึงเมื่อครั้งก่อนนี้ เมื่อรัฐบาลของอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ตอนนั้นไม่ได้ทำเกินอำนาจพระมหากษัตริย์ ตอนนั้นมีสภา สภามีอยู่ ประธานสภา รองประธานสภามี่อยู่ แล้วก็รองประธานสภาทำหน้าที่ แล้วมีนายกฯ ที่สนองพระบรมราชโองการได้ ตามรัฐธรรมนูญในครั้งนั้น
ไม่ ไม่ได้หมายความว่า ที่ทำครั้งนั้นผิดรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ ตอนนั้นเขาไม่ใช่นายกฯ พระราชทาน นายกฯ พระราชทานหมายความว่า ตั้งนายกฯ โดยไม่มีกฎเกณฑ์อะไรเลย ตอนนั้นมีกฏเกณฑ์ เมื่อครั้งอาจารย์สัญญาได้รับตั้งเป็นนายกฯ เป็นนายกฯ ที่มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ คือรองประธานสภานิติบัญญัติ นายทวี แรงขำ ดังนั้น ไปทบทวนประวัติศาสตร์หน่อย ท่านก็เป็นผู้ใหญ่ ท่านก็ทราบว่า มี มีกฎเกณฑ์ที่รองรับ”
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
จากพระราชดำรัสเบื่องต้นคงไม่มีประชาชนพี่น้องปวงชนชาวไทยคนใดจะขัหรือทักท้วงในพระราชวินิจฉัยในพระราชดำรัสนี้ หากท่านยังเคารพรักและเทิดทูลพระองค์ท่านจริงดั่งลมปากว่า นักการเมืองทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน แกนนำ เขาจะพูดเช่นไรก็ปล่อยเขาเรามีหัว มีสมองที่จะคิดตริตรองว่าสิ่งที่เขาเหล่านั้นพูดมันถูกหรือผิด หากเราไม่แน่ใจก็ให้กลับไปทบทวนค้นหาถึงหลักการที่ถูกต้อง ในสภาวะที่มิอาจเชื่อใจใครได้สนิทเช่นนี้มีเพียงพระองค์ท่านเท่านั้นที่วางตัวเป็นกลางเสมอมามิเคยโอนเอียงเข้าข้างใด หาพระราชดำรัสเก่าๆ ในเหตุการณ์สำคัญๆ ต่อบ้านเมืองอ่านดูแล้วท่านอาจจะค้นพบทางออกถึงข้อขัดแย้งนั้นๆ
ข้อให้บุญพระบารมีของพระบาทสมเด็จฯ พระเจ้าอยู่หัว และพระบารมีพระมหากษัตริย์ในทุกพระองค์โปรดคุ้มครองประเทศชาติให้อยู่ยั่งยืนเป็นสุข ไร้ซึ่งความขัดแย้งรุนแรงของคนในชาติด้วยเทอญฯ
มาตรา ๗ กับความจริงที่มิอาจบิดเบือน
ในการนี้ข้าพระพุทธเจ้าข้อน้อมนำพระราชดำรัส พระราชทานแก่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อให้ประชาชนพี่น้องเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงใน มาตรา ๗ ที่พระบาทสมเด็จฯพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชวินิจฉัยไว้ใจความตอนหนึ่งว่า
“นี่พูดเรื่องนี้ ค่อนข้างจะประหลาดหน่อย ที่ขอร้องอย่างนี้ แล้วก็ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาก็บอกว่าต้องทำมาตรา ๗ มาตรา ๗ ของ ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งขอยืนยัน ยืนยันว่ามาตรา ๗ นั้นไม่ได้หมายถึง ให้มอบให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจ ที่จะทำอะไรตามชอบใจ ไม่ใช่ มาตรา ๗ นั้น พูดถึงการปกครอง แบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ได้บอกว่า ให้พระมหากษัตริย์ตัดสินใจ ทำได้ทุกอย่าง
ถ้าทำเขาจะต้องว่าพระมหากษัตริย์ ทำเกินหน้าที่ ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยเกิน ไม่เคยทำเกินหน้าที่ ถ้าทำเกินหน้าที่ ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย เขาอ้างถึงเมื่อครั้งก่อนนี้ เมื่อรัฐบาลของอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ตอนนั้นไม่ได้ทำเกินอำนาจพระมหากษัตริย์ ตอนนั้นมีสภา สภามีอยู่ ประธานสภา รองประธานสภามี่อยู่ แล้วก็รองประธานสภาทำหน้าที่ แล้วมีนายกฯ ที่สนองพระบรมราชโองการได้ ตามรัฐธรรมนูญในครั้งนั้น
ไม่ ไม่ได้หมายความว่า ที่ทำครั้งนั้นผิดรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ ตอนนั้นเขาไม่ใช่นายกฯ พระราชทาน นายกฯ พระราชทานหมายความว่า ตั้งนายกฯ โดยไม่มีกฎเกณฑ์อะไรเลย ตอนนั้นมีกฏเกณฑ์ เมื่อครั้งอาจารย์สัญญาได้รับตั้งเป็นนายกฯ เป็นนายกฯ ที่มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ คือรองประธานสภานิติบัญญัติ นายทวี แรงขำ ดังนั้น ไปทบทวนประวัติศาสตร์หน่อย ท่านก็เป็นผู้ใหญ่ ท่านก็ทราบว่า มี มีกฎเกณฑ์ที่รองรับ”
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
จากพระราชดำรัสเบื่องต้นคงไม่มีประชาชนพี่น้องปวงชนชาวไทยคนใดจะขัหรือทักท้วงในพระราชวินิจฉัยในพระราชดำรัสนี้ หากท่านยังเคารพรักและเทิดทูลพระองค์ท่านจริงดั่งลมปากว่า นักการเมืองทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน แกนนำ เขาจะพูดเช่นไรก็ปล่อยเขาเรามีหัว มีสมองที่จะคิดตริตรองว่าสิ่งที่เขาเหล่านั้นพูดมันถูกหรือผิด หากเราไม่แน่ใจก็ให้กลับไปทบทวนค้นหาถึงหลักการที่ถูกต้อง ในสภาวะที่มิอาจเชื่อใจใครได้สนิทเช่นนี้มีเพียงพระองค์ท่านเท่านั้นที่วางตัวเป็นกลางเสมอมามิเคยโอนเอียงเข้าข้างใด หาพระราชดำรัสเก่าๆ ในเหตุการณ์สำคัญๆ ต่อบ้านเมืองอ่านดูแล้วท่านอาจจะค้นพบทางออกถึงข้อขัดแย้งนั้นๆ
ข้อให้บุญพระบารมีของพระบาทสมเด็จฯ พระเจ้าอยู่หัว และพระบารมีพระมหากษัตริย์ในทุกพระองค์โปรดคุ้มครองประเทศชาติให้อยู่ยั่งยืนเป็นสุข ไร้ซึ่งความขัดแย้งรุนแรงของคนในชาติด้วยเทอญฯ