วันนี้ ได้ไปชมมาแล้ว ‘Snowpiercer’ หนังเกาหลีที่มีนักแสดงฝรั่งไปร่วมแจมมากมาย หนังที่กำกับโดย Joon-ho Bong (บงจุนโฮ) หลายคนคงคุ้นๆ ผลงานของเขามาบ้างแล้ว ก็เขาคือคนกำกับหนังเกาหลี ‘The Host’
เรื่องราวของโลกในยุคอนาคต 18 ปีนับจากนี้ที่จะกลายเป็นยุคน้ำแข็งหลังแก้ไขวิกฤตการณ์โลกร้อนไม่เป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้อุณหภูมิลดลงอย่างมากจนน้ำแข็งปกคลุมทั่วโลก มนุษย์แทบไม่เหลือบนโลก มีเพียงขบวนรถไฟสายพิเศษที่วิ่งไปทั่วโลกขบวนนี้เท่านั้นที่เป็นพาหนะบรรทุกความหวังสุดท้ายของมวลมนุษยชาติ มันวิ่งไปด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคและไม่เคยหยุด

แต่บนขบวนรถไฟนี้ ก็มีรูปแบบการแบ่งชนชั้นไม่ต่างไปจากโลกปัจจุบันนัก และชนชั้นที่ต่ำที่สุดก็รวมกันอยู่ที่ท้ายขบวน สภาวะที่อดอยากและสกปรกทำให้หลายคนวางแผนที่จะยึดรถไฟขบวนนี้ นัยว่านี่คือการปฏิวัติเพื่อความเสมอภาคของแบบจำลองของมวลมนุษยชาติอะไรประมาณๆ นั้น
และคนท้ายขบวนก็เริ่มปฏิบัติยึดรถไฟ เพื่อแสดงถึงการปฏิวัติ
----
รถไฟขบวนนี้ จำลองมนุษยชาติที่ทำให้เราเห็นตัวเองได้พอสมควรทีเดียว ทั้งยังกัดจิกและเสียดสีตัวพวกเราเองอยู่ก็ไม่น้อย
เรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยการอารัมภบทเพื่อให้เข้าใจที่มาที่ไป ก่อนจะเข้าสู่เนื้อเรื่อง ซึ่งก็เริ่มด้วยอุ่นอย่างช้าๆ ก่อนจะไปตื่นเต้นเอาในช่วงครึ่งหลัง และจบลงอย่างน่างงงวย ว่าแล้วต่อไปจะเอาไงวะ…ประมาณนั้น บทและเรื่องราวที่แปลกประหลาดชนิดที่ว่าคงมีแต่คนเอเชียเท่านั้นที่คิดพล็อตแบบนี้ได้
ไม่เลวเลยนะครับ ลองไปชมกันดู
เพิ่มเติม อ่านกันต่อได้ที่ :
http://bit.ly/194zGKU
[SR] +++ ความเห็นหลังชม -- Snowpiercer ยึดด่วน วันสิ้นโลก -- ไอเดียล้ำประหลาดโลก +++
เรื่องราวของโลกในยุคอนาคต 18 ปีนับจากนี้ที่จะกลายเป็นยุคน้ำแข็งหลังแก้ไขวิกฤตการณ์โลกร้อนไม่เป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้อุณหภูมิลดลงอย่างมากจนน้ำแข็งปกคลุมทั่วโลก มนุษย์แทบไม่เหลือบนโลก มีเพียงขบวนรถไฟสายพิเศษที่วิ่งไปทั่วโลกขบวนนี้เท่านั้นที่เป็นพาหนะบรรทุกความหวังสุดท้ายของมวลมนุษยชาติ มันวิ่งไปด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคและไม่เคยหยุด
แต่บนขบวนรถไฟนี้ ก็มีรูปแบบการแบ่งชนชั้นไม่ต่างไปจากโลกปัจจุบันนัก และชนชั้นที่ต่ำที่สุดก็รวมกันอยู่ที่ท้ายขบวน สภาวะที่อดอยากและสกปรกทำให้หลายคนวางแผนที่จะยึดรถไฟขบวนนี้ นัยว่านี่คือการปฏิวัติเพื่อความเสมอภาคของแบบจำลองของมวลมนุษยชาติอะไรประมาณๆ นั้น
และคนท้ายขบวนก็เริ่มปฏิบัติยึดรถไฟ เพื่อแสดงถึงการปฏิวัติ
----
รถไฟขบวนนี้ จำลองมนุษยชาติที่ทำให้เราเห็นตัวเองได้พอสมควรทีเดียว ทั้งยังกัดจิกและเสียดสีตัวพวกเราเองอยู่ก็ไม่น้อย
เรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยการอารัมภบทเพื่อให้เข้าใจที่มาที่ไป ก่อนจะเข้าสู่เนื้อเรื่อง ซึ่งก็เริ่มด้วยอุ่นอย่างช้าๆ ก่อนจะไปตื่นเต้นเอาในช่วงครึ่งหลัง และจบลงอย่างน่างงงวย ว่าแล้วต่อไปจะเอาไงวะ…ประมาณนั้น บทและเรื่องราวที่แปลกประหลาดชนิดที่ว่าคงมีแต่คนเอเชียเท่านั้นที่คิดพล็อตแบบนี้ได้
ไม่เลวเลยนะครับ ลองไปชมกันดู
เพิ่มเติม อ่านกันต่อได้ที่ : http://bit.ly/194zGKU