เพราะจิตที่บรรลุความเป็นโสดาบันนั้นจะมีความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า "มันไม่มีตัวตน(อัตตา)ของใครๆอยู่จริง" ดังนั้นจิตที่บรรลุโสดาบันแล้วจึงไม่ทางที่จะมีความคิดว่ามีตนเองที่เป็นพระอริยะบุคคลขั้นโสดาบันอย่างเด็ดขาด
ส่วนจิตที่คิดว่าตนเองเป็นโสดาบันนั้นคือจิตที่เรียนธรรมะมาผิดๆ และยังไม่สามารถทำลายสักกายทิฎฐิ (ความเห็นผิดว่ามีตัวตนอยู่ในร่างกายและจิตใจ) ได้ จึงได้เกิดความโง่เขลาขึ้นมา แล้วก็คิดว่ามีตนเองที่รู้ธรรมะอย่างแจ่มแจ้ง จนบรรลุถึงความเป็นพระอริยะบุคคลขั้นโสดาบันแล้ว และถ้ายิ่งเป็นการคิดว่าตนเองเป็นพระอรหันต์ ก็จะยิ่งเป็นความโง่เขลาอย่างที่สุด
ความคิดว่าตนเองเป็นโสดาบันนั้นคือความโง่เขลาอย่างมาก
ส่วนจิตที่คิดว่าตนเองเป็นโสดาบันนั้นคือจิตที่เรียนธรรมะมาผิดๆ และยังไม่สามารถทำลายสักกายทิฎฐิ (ความเห็นผิดว่ามีตัวตนอยู่ในร่างกายและจิตใจ) ได้ จึงได้เกิดความโง่เขลาขึ้นมา แล้วก็คิดว่ามีตนเองที่รู้ธรรมะอย่างแจ่มแจ้ง จนบรรลุถึงความเป็นพระอริยะบุคคลขั้นโสดาบันแล้ว และถ้ายิ่งเป็นการคิดว่าตนเองเป็นพระอรหันต์ ก็จะยิ่งเป็นความโง่เขลาอย่างที่สุด