สวัสดีครับ วันนี้ผมขออนุญาตเขียนรีวิวเดอะ บีช เนเชอรัล รีสอร์ท เกาะกูดเพิ่มอีกสักที่นึงนอกจาก กัปตันฮุกรีสอร์ท ปีเตอร์แพนรีสอร์ท อาณาเลรีสอร์ท คลองเจ้า ฯลฯ ที่ใครหลายๆคนในพันทิปเคยเขียนรีวิวมาบ้างแล้วอ่ะ
สำหรับข้อมูล "เกาะกูด" เป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางทิศตะวันออกของประเทศไทยในน่านน้ำทะเลตราด และมีความใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้างในจังหวัดตราด เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ระยะทางห่างจากตัวเมืองตราด 80 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 105 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 65,625 ไร่ โดยมีขนาดความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตร และขนาดความกว้าง 12 กิโลเมตร เกาะกูดยังคงมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหาดทรายและน้ำทะเลใสสีมรกต จนได้รับการขนานนามว่า "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ที่ไม่ต้องการความวุ่นวาย นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปพักผ่อนในช่วงเดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือน พฤษภาคม เพราะเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยวครับ
ผมเพิ่งจะเคยเที่ยวเกาะเป็นครั้งแรก ก็เลยหาข้อมูลเกาะที่ใกล้ๆกรุงเทพเดินทางไม่ไกล สวยและเงียบสงบ น้ำใส สุดท้ายก็มาเจอ เกาะกูด แต่ที่พักก็มีให้เลือกหลากหลายที่ แต่ละที่ก็มีหลายบรรยากาศ ทั้งโขดหิน ป่าชายเลน น้ำกร่อย น้ำใส หาข้อมูลอยู่หลายที่ ด้วยความที่แฟนอยากว่ายน้ำใสๆ ไม่ลึกมีหาดส่วนตัว ก็เลยค้นข้อมูลมาเจอที่ The Beach Natural Resort ซึ่งตั้งอยู่ในอ่าวบางเบ้า ที่ตั้งรีสอร์ทนี้อยู่กลางอ่าวมีภูเขาบังลมด้านซ้ายจึงทำให้น้ำบริเวณหน้ารีสอร์ทมีความใสกว่าทั่วๆไปอ่ะ สำหรับแพคเกจที่ผมจองนั้นเป็นห้อง Sea Breeze ตกท่านละ 8,200 บาท ราคาใกล้เคียงกับที่อื่นๆ แต่ที่นี่ห้องพักยังคงใหม่อยู่และส่วนใหญ่จะมีแต่ชาวต่างชาติเข้าพัก ที่รีสอร์ทนี้ไม่ได้เข้าร่วมงานไทยเที่ยวไทยมาสองปีแล้วแหละจึงไม่ค่อยมีคนเขียนรีวิวอ่ะ ตอนผมไปเป็นวันธรรมดาที่รีสอร์ทก็ยังมีคนเข้าพักเต็มหมดทุกห้องนะ ตอนแรกกะจะไปพักห้องพัดลมด้วยแต่ดันมีลูกค้าเข้าพักยาว... ผมเลยอดอ่ะ
ภาพวิว The Beach Natural Resort เมื่อมองจากบริเวณด้านหน้ารีสอร์ทครับ
ผมเดินทางขับรถออกจากกรุงเทพตอนตีสามครึ่ง เพื่อไปขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมศอกตอน 9.00 น. เที่ยวครั้งนี้รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าปกติเพราะขึ้นเรือสปีดโบ๊ทเป็นครั้งแรก
ไม่มีอะไรทำก็เลยถ่ายรูปหามุมแปลกๆไปเรื่อยเปื่อย
นั่งเรือมาเกาะกูดนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งเพราะเรือต้องแวะส่งแขกหลายๆรีสอร์ทอ่ะ สำหรับความเร็วของเรือผมแอบมองหน้าปัดก็ประมาณ 50 km/h ผมถามทางรีสอร์ทถ้าเป็นหน้ามรสุมจะไม่มีสปีดโบ๊ทไว้บริการนะต้องขึ้นเรือเฟอร์รี่เท่านั้น แต่ก็มีบางที่ที่ยังออกเรือแต่แค่วันละรอบเท่านั้นเอง แต่เรือทำความเร็วได้ไม่มากเท่าไหร่นักเพราะคลื่นลมแรงใครไม่ชินก็อาจจะเมาเรือได้เป็นของแถมอ่ะ ก้าวแรกที่ลงจากเรือก็ตกตะลึงกับความสวยใสของท้องฟ้าและน้ำทะเลสีมรกต บรรยากาศภายในเดอะ บีช เนเชอรัล รีสอร์ทก็ร่มรื่นไปด้วยร่มเงาไม้ ไม่ได้ดูร้อนอะไรอย่างที่คิดไว้ก่อนมาถึง วันนี้ฟ้าใสแดดดีจึงทำให้เราได้ภาพสวยน้ำใสๆน่าลงไปแหวกว่ายเป็นที่สุด รอเช็คอินอยู่ทางรีสอร์ทเลยเสิร์ฟน้ำส้มช่วยหายเมาเรือไปได้นิดๆมั้ง ฮ้าๆๆ...
ว่าแล้วก็เลยหยิบกล้องมาถ่ายพาโนราม่า เก็บบรรยากาศที่พักมุมกว้างมาให้ชมกันครับ
เที่ยวแบบคนเอเชียนี้แปลกไม่คอยจะชอบแดดชอบลมอะไรกันเลย เจอแดดก็มักจะบ่นว่าร้อนกันแระ แต่สำหรับฝรั่งนั้นถ้าเจอทะเลแดดจัดๆแล้วถึงไหนถึงกันครับ แต่แนะนำให้ทากันแดดไว้บ้างนะครับเดี๋ยวผิวจะไหม้หมดสนุกๆไปซะก่อนอ่ะ
ว่ายน้ำ ใส่สน็อกเกิลดำน้ำตื้น พายเรือแคนู อาบแดด อ่านหนังสือ เดินเล่นชายหาด หรือจะขับมอไซต์ไปเที่ยวบนเกาะก็ได้ มีกิจกรรมเยอะแล้วแต่ใครจะเลือกตามสบายครับ
ภาพมุมกว้างบนเกาะ
บรรยากาศร่มรื่น แต่อาจมียุงลายบ้างนิดๆเตรียมยาทากันยุงไว้บ้างก็ดีนะ
น้ำ ชากาแฟ เบิกได้ทั้งวันครับ แอร์บนที่พักจะเปิดให้บริการได้เฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้นนะปั่นไฟเองอ่ะ
ชอบที่เขาพับผ้ากับทิชชู่อ่ะน่ารักดี
มุมนี้น่านั่งที่สุดแล้วมั้ง เห็นท่าเทียบเรือกับน้ำใสๆ บรรยากาศสบายๆ
บริเวณหาดหน้ารีสอร์ท น้ำใสเห็นตัวปลาเลยครับ อันนี้ใช้กล้องใต้น้ำถ่ายรูปนะ
ต่อนบ่ายวันแรกขับมอไซต์ไปเที่ยวน้ำตกคลองเจ้ากันครับ
ทางผ่านไปน้ำตกครับ จะเจอชายหาดยาวน้ำสวยใสมาก รู้สึกหาดนี้จะชื่อว่าหาดงามโข่นะ
ภาพปากน้ำตรงคลองเจ้าครับ จะเห็นชายหาดกับคลองอยู่ติดกันเลยสวยแปลกตาดี
ดินเนอร์ใต้แสงเทียน อาหารเป็นเซตครับ อาจจะแตกต่างกับที่อื่นคือไม่มีกุ้งย่าง ปูย่าง จะได้แค่ 4 อย่างกับผลไม้สับปะรดกะแตงโม สองคนทานแค่นี้ก็อิ่มแล้วแหละ
สำหรับวันที่สองได้ไปดำน้ำตื้นที่หมู่เกาะรัง เห็นปลา และปะการังสวยๆมากมาย มีทั้งปะการังแผ่น ปะการังสมอง หอยมือเสือ ปลาปักเป้า ปลาเทวดา ปลานกแก้ว และสุดท้ายผมชอบมากที่สุดปลาบิกินี่อ่ะอิอิ...
สุดท้ายจบลงที่ภาพพระอาทิตย์ตก โรแมนติกสุดๆแล้วอ่ะสำหรับทริปนี้
ขอบคุณที่ติดตามชมจนจบนะครับ คราวหน้าอาจจะได้ไปลองเที่ยวทางเกาะฝั่งอันดามันดูบ้าง อยากเห็นปลานีโม่กับเต่าทะเลแบบชัดๆอ่ะ เพราะฝั่งนี้ไม่ค่อยมีปลานีโม่เลย
ปล.สุดท้ายนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้วขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ การเมืองร้อนแรงก็มองซะว่าตราบใดที่ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นมากเท่ากับสมัย14ตุลาหรือสมัยพฤษภาทมิฬ นั่นก็แปลว่าประชาธิปไตยของเรากำลังจะพัฒนาขึ้นไปในทางที่ดี ถ้าไม่อยากให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นเราทุกคนต้องช่วยกันรับฟังความเห็นต่าง เสียงข้างมากรับฟังเสียงข้างน้อย เสียงข้างน้อยรับฟังเสียงข้างมาก ใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหา และต้องร่วมประณามผู้ที่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาซึ่งเป็นหนึ่งในหน้าที่ของการเป็นพลเมืองที่ดีครับ
[CR] ทริป 3 วัน 2 คืน เที่ยวน้ำตกดำน้ำดูปะการังกับ The Beach Natural Resort
สำหรับข้อมูล "เกาะกูด" เป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางทิศตะวันออกของประเทศไทยในน่านน้ำทะเลตราด และมีความใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้างในจังหวัดตราด เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ระยะทางห่างจากตัวเมืองตราด 80 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 105 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 65,625 ไร่ โดยมีขนาดความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตร และขนาดความกว้าง 12 กิโลเมตร เกาะกูดยังคงมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหาดทรายและน้ำทะเลใสสีมรกต จนได้รับการขนานนามว่า "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ที่ไม่ต้องการความวุ่นวาย นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปพักผ่อนในช่วงเดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือน พฤษภาคม เพราะเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยวครับ
ผมเพิ่งจะเคยเที่ยวเกาะเป็นครั้งแรก ก็เลยหาข้อมูลเกาะที่ใกล้ๆกรุงเทพเดินทางไม่ไกล สวยและเงียบสงบ น้ำใส สุดท้ายก็มาเจอ เกาะกูด แต่ที่พักก็มีให้เลือกหลากหลายที่ แต่ละที่ก็มีหลายบรรยากาศ ทั้งโขดหิน ป่าชายเลน น้ำกร่อย น้ำใส หาข้อมูลอยู่หลายที่ ด้วยความที่แฟนอยากว่ายน้ำใสๆ ไม่ลึกมีหาดส่วนตัว ก็เลยค้นข้อมูลมาเจอที่ The Beach Natural Resort ซึ่งตั้งอยู่ในอ่าวบางเบ้า ที่ตั้งรีสอร์ทนี้อยู่กลางอ่าวมีภูเขาบังลมด้านซ้ายจึงทำให้น้ำบริเวณหน้ารีสอร์ทมีความใสกว่าทั่วๆไปอ่ะ สำหรับแพคเกจที่ผมจองนั้นเป็นห้อง Sea Breeze ตกท่านละ 8,200 บาท ราคาใกล้เคียงกับที่อื่นๆ แต่ที่นี่ห้องพักยังคงใหม่อยู่และส่วนใหญ่จะมีแต่ชาวต่างชาติเข้าพัก ที่รีสอร์ทนี้ไม่ได้เข้าร่วมงานไทยเที่ยวไทยมาสองปีแล้วแหละจึงไม่ค่อยมีคนเขียนรีวิวอ่ะ ตอนผมไปเป็นวันธรรมดาที่รีสอร์ทก็ยังมีคนเข้าพักเต็มหมดทุกห้องนะ ตอนแรกกะจะไปพักห้องพัดลมด้วยแต่ดันมีลูกค้าเข้าพักยาว... ผมเลยอดอ่ะ
ภาพวิว The Beach Natural Resort เมื่อมองจากบริเวณด้านหน้ารีสอร์ทครับ
ผมเดินทางขับรถออกจากกรุงเทพตอนตีสามครึ่ง เพื่อไปขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมศอกตอน 9.00 น. เที่ยวครั้งนี้รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าปกติเพราะขึ้นเรือสปีดโบ๊ทเป็นครั้งแรก
ไม่มีอะไรทำก็เลยถ่ายรูปหามุมแปลกๆไปเรื่อยเปื่อย
นั่งเรือมาเกาะกูดนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งเพราะเรือต้องแวะส่งแขกหลายๆรีสอร์ทอ่ะ สำหรับความเร็วของเรือผมแอบมองหน้าปัดก็ประมาณ 50 km/h ผมถามทางรีสอร์ทถ้าเป็นหน้ามรสุมจะไม่มีสปีดโบ๊ทไว้บริการนะต้องขึ้นเรือเฟอร์รี่เท่านั้น แต่ก็มีบางที่ที่ยังออกเรือแต่แค่วันละรอบเท่านั้นเอง แต่เรือทำความเร็วได้ไม่มากเท่าไหร่นักเพราะคลื่นลมแรงใครไม่ชินก็อาจจะเมาเรือได้เป็นของแถมอ่ะ ก้าวแรกที่ลงจากเรือก็ตกตะลึงกับความสวยใสของท้องฟ้าและน้ำทะเลสีมรกต บรรยากาศภายในเดอะ บีช เนเชอรัล รีสอร์ทก็ร่มรื่นไปด้วยร่มเงาไม้ ไม่ได้ดูร้อนอะไรอย่างที่คิดไว้ก่อนมาถึง วันนี้ฟ้าใสแดดดีจึงทำให้เราได้ภาพสวยน้ำใสๆน่าลงไปแหวกว่ายเป็นที่สุด รอเช็คอินอยู่ทางรีสอร์ทเลยเสิร์ฟน้ำส้มช่วยหายเมาเรือไปได้นิดๆมั้ง ฮ้าๆๆ...
ว่าแล้วก็เลยหยิบกล้องมาถ่ายพาโนราม่า เก็บบรรยากาศที่พักมุมกว้างมาให้ชมกันครับ
เที่ยวแบบคนเอเชียนี้แปลกไม่คอยจะชอบแดดชอบลมอะไรกันเลย เจอแดดก็มักจะบ่นว่าร้อนกันแระ แต่สำหรับฝรั่งนั้นถ้าเจอทะเลแดดจัดๆแล้วถึงไหนถึงกันครับ แต่แนะนำให้ทากันแดดไว้บ้างนะครับเดี๋ยวผิวจะไหม้หมดสนุกๆไปซะก่อนอ่ะ
ว่ายน้ำ ใส่สน็อกเกิลดำน้ำตื้น พายเรือแคนู อาบแดด อ่านหนังสือ เดินเล่นชายหาด หรือจะขับมอไซต์ไปเที่ยวบนเกาะก็ได้ มีกิจกรรมเยอะแล้วแต่ใครจะเลือกตามสบายครับ
ภาพมุมกว้างบนเกาะ
บรรยากาศร่มรื่น แต่อาจมียุงลายบ้างนิดๆเตรียมยาทากันยุงไว้บ้างก็ดีนะ
น้ำ ชากาแฟ เบิกได้ทั้งวันครับ แอร์บนที่พักจะเปิดให้บริการได้เฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้นนะปั่นไฟเองอ่ะ
ชอบที่เขาพับผ้ากับทิชชู่อ่ะน่ารักดี
มุมนี้น่านั่งที่สุดแล้วมั้ง เห็นท่าเทียบเรือกับน้ำใสๆ บรรยากาศสบายๆ
บริเวณหาดหน้ารีสอร์ท น้ำใสเห็นตัวปลาเลยครับ อันนี้ใช้กล้องใต้น้ำถ่ายรูปนะ
ต่อนบ่ายวันแรกขับมอไซต์ไปเที่ยวน้ำตกคลองเจ้ากันครับ
ทางผ่านไปน้ำตกครับ จะเจอชายหาดยาวน้ำสวยใสมาก รู้สึกหาดนี้จะชื่อว่าหาดงามโข่นะ
ภาพปากน้ำตรงคลองเจ้าครับ จะเห็นชายหาดกับคลองอยู่ติดกันเลยสวยแปลกตาดี
ดินเนอร์ใต้แสงเทียน อาหารเป็นเซตครับ อาจจะแตกต่างกับที่อื่นคือไม่มีกุ้งย่าง ปูย่าง จะได้แค่ 4 อย่างกับผลไม้สับปะรดกะแตงโม สองคนทานแค่นี้ก็อิ่มแล้วแหละ
สำหรับวันที่สองได้ไปดำน้ำตื้นที่หมู่เกาะรัง เห็นปลา และปะการังสวยๆมากมาย มีทั้งปะการังแผ่น ปะการังสมอง หอยมือเสือ ปลาปักเป้า ปลาเทวดา ปลานกแก้ว และสุดท้ายผมชอบมากที่สุดปลาบิกินี่อ่ะอิอิ...
สุดท้ายจบลงที่ภาพพระอาทิตย์ตก โรแมนติกสุดๆแล้วอ่ะสำหรับทริปนี้
ขอบคุณที่ติดตามชมจนจบนะครับ คราวหน้าอาจจะได้ไปลองเที่ยวทางเกาะฝั่งอันดามันดูบ้าง อยากเห็นปลานีโม่กับเต่าทะเลแบบชัดๆอ่ะ เพราะฝั่งนี้ไม่ค่อยมีปลานีโม่เลย
ปล.สุดท้ายนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้วขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ การเมืองร้อนแรงก็มองซะว่าตราบใดที่ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นมากเท่ากับสมัย14ตุลาหรือสมัยพฤษภาทมิฬ นั่นก็แปลว่าประชาธิปไตยของเรากำลังจะพัฒนาขึ้นไปในทางที่ดี ถ้าไม่อยากให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นเราทุกคนต้องช่วยกันรับฟังความเห็นต่าง เสียงข้างมากรับฟังเสียงข้างน้อย เสียงข้างน้อยรับฟังเสียงข้างมาก ใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหา และต้องร่วมประณามผู้ที่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาซึ่งเป็นหนึ่งในหน้าที่ของการเป็นพลเมืองที่ดีครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น