คิดก่อน มีลูก....
ครอบครัวหนึ่งมี พ่อ, แม่, ลูก (หญิง)...อยู่กัน3คน ถือว่าเป็นครอบครัวที่ครบทุกอย่างไม่ได้ลำบากอะไร อยากกิน อยากได้ ก็ไม่ได้ลำบากนะ เรื่องเกิดเมื่อเด็กอายุ 6-7 ขวบ มีเรื่องที่ทำให้ครอบครัวเด็กคนนี้ต้องตกใจอย่างสุดขีด
ครั้งแรก
เด็กกับแม่ปั่นจักรยานไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ห่างจากหมู่บ้านที่เธออยู่ไป 1 กิโล ระหว่างทางขากลับ อีกแค่ไม่กี่ 100 เมตรก็จะถึงหมู่บ้านที่เธออยู่ โดยเด็กปั่นนำหน้า แม่ตามหลัง อยู่ดีๆเด็กคนนั้นปั่นจักรยานข้ามไปอีกฝั่งแบบล่องลอยสุดๆไม่ได้รีบร้อนปั่นอะไร(ถนนเลนสวนตามต่างจังหวัด)ประมาณว่าไม่มีรถ ถนนนั้นฉันครองยังไงยังงั้น เด็กคนนั้นรู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่มีเสียงแตรจากรถกระบะอีกฝั่งที่เด็กคนนั้นปั่นจักรยานข้ามไป เสียงแต่มันเข้าไปในหัวเด็กคนนั้นทันที แล้วเด็กคนนั้นก็ล้มลงทั้งจักรยานอยู่ถนน มองเห็นรถฝั่ง2-3คันจอดนิ่ง...ส่วนแม่เด็กก็รีบทิ้งจักรยานไปเอาเด็กออกจากตรงถนนมา แล้วก็ปั่นกลับบ้าน ปกติ
ครั้งที่2
ณ โรงเรียนประถม(ต่างจังหวัด) เรียนวิชาพละ โรงเรียนตามจังหวัดที่มีเด็กรวมกันประมาณ 90-100 คน(อนุบาล-ป.6) ไม่ได้เจริญอะไรมากมาย ทีไม่ได้เคร่งให้ใส่รองเท้ามาเรียน หรือมาใส่มาเรียนวิชาพละ เด็กส่วนมาก็สวมอีแตะมาเรียนกัน ตอนประมาณบ่ายๆเด็กคนหญิงคนนั้นก็เรียนมีเรียนพละ ระหว่างที่อาจารย์(ผู้หญิง)บอกให้วอร์มร่างกายสลัดแขน สลัดขา เด็กหญิงคนนั้นยืนอยู่เยื้อยงๆทางขวาของอาจารย์ เด็กหญิงคนนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกครั้ง เธอหยิบอีแตะที่เธอถอดไว้ข้างๆหยิบมันขึ้นมา ประมาณว่าจะเอาฟาดหน้าอาจารย์ยังไงยังงั้น แต่ก่อนที่เธอจะทำอะไรไปมากกว่านั้น เสียงอาจารย์ก็แว๊บเข้ามาในหู โดยเรียกชื่อของเด็กคนนั้น อยู่หลายครั้งเหมือนกัน4-5ครั้ง แล้วอาจารย์ก็ถามว่าเป็นอะไร พร้อมสายตาเพื่อนๆร่วมห้องของเธอที่เกิดคำถามในหัวเช่นกัน...หลังจากนั้นก็ปกติ
2ครั้ง...กับพฤติกรรมแปลกๆที่เด็กหญิงคนนั้นแสดงออก ก็เพียงพอที่คนเป็นแม่จะพาเธอไปพบแพทย์ (จิตแพทย์) โดยเธอถูกส่งตัวเข้าไปที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัดทันที
ครั้งแรก รพ. และครั้งต่อๆไป
พบคุณหมอ(ผู้ชาย)จิตแพทย์...คุณหมอก็ถามทั้งแม่ และเด็ก///แล้วก็กลับบ้าน พร้อมยา เม็ดสีขาว 1 กระปุก/30เม็ด กินวันละครั้งก่อนเข้านอน แล้วนัดพบอีก 1 เดือน แต่อาการแปลกๆนั้นหายไป รอบ 2 ได้มา 3 กระปุก///อีก 3 เดือนมาอีก ได้อีก 12 กระปุก เอาแบบมาทีเดียว ... 1 ปีกลับไปก็ไม่ได้อะไรกลับมาแล้ว...เด็กคนนั้นหายเป็นปลิดทิ้ง
คำถามที่คาใจเด็กหญิงคนนั้นอยู่เพราะอะไร
ณ ตอนนี้เด็กคนนั้นเธอโตแล้ว ... เธออายุ 25 ปี (เธอแต่งงานแล้ว) แต่เธอคอยเฝ้าถามตัวเองมาตลอดระยะเวลา 20 ปีมานี้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอทำไมเธอถึงมีอาการแบบนั้น
..................................
เหตุที่เด็กหญิงพอจำได้ และจำได้
ตอนนั้นเธอน่าจะอายุ8ขวบ เธอนอนกับแม่และพ่อเสมอ แต่วันนี้พ่อเธอไม่อยู่ กลางดึกคืนนั้นแม่เธอเลือกเธอให้ตื่น ให้เธอนั่งมอร์ไซต์ไปเป็นเพื่อนเพื่อไปตามพ่อของเธอที่ร้านอาหาร ร้านที่2แม่ลูกไปมันไม่ได้ไกลจากบ้านเธอเลย 1 กิโลเมตร แม่เธอจอดรถไว้ข้างถนน แล้วแม่เธอเดินเข้าไปในร้าน ส่วนตัวเด็กคนนั้นรอแม่ที่รถ เธอจะเดินไปกับแม่ก็ได้นะ แต่เธอเลือกที่จะรอที่รถแล้คอยมองว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมั๊ย...ลึกๆในใจรู้สึกกลัว อารมณ์สับสนไปหมด ที่แน่น้ำตาเธอเริ่มเอ่อขึ้นมาอีกแล้ว ไม่อยากเห็นไม่อยากรับรู้ อยากกลับบ้าน เธอง่วงเธอให้เหตุผลตัวเอง...
เวลาถึงช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เขาพรรณษา ออกพรรษาฯลฯ(เมืองไทยมีเยอะมาก) ทุกคนคงมีความสุขกับมัน แต่เธอก็สนุกแบบหวันๆตลอดเวลา จะเกิดอะไรขึ้นอีกคืนนี้ คืนนี้ช่างยาวนาน ภายนอกมีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ แต่ภายในเรื่องเก่าๆเดิมไมไปไหน ทุกครั้งสิ่งที่เธอคิดไม่ได้ผิดไปแต่ประการใดเลย เพราะพ่อเธอเมา หาเรื่อง โวยวาย ที่สำคัญแม่เธอคือคนที่ต้องรองรับอารมณ์นั้นเสมอ ส่วนเด็กหญิงก็ได้แต่ยืนห่างๆเหมือนเดิม ความรู้สึกเดิมๆ วนเวียนเข้ามาอีกครั้ง
พ่อไม่เคยทำร้ายเธอเลย แม้แต่ตีสักนิดก็ไม่เคย แต่ทำไมเธอรู้สึกกลัวอยู่ลึกๆในใจตลอดเวลา...มีอยู่ครั้งหนึ่ง พ่อเธอโวยวายอยู่ที่บ้าน และมีคนจับตัวคอยห้ามอยู่4-5คน... แต่ ไม่รู้อะไรดลใจเด็กหญิง...เธอตะโกนว่า “พ่อ พ่อ พ่อ” ปนเสียงสะอื้น (เหมือนประมาณว่าพ่อหยุดเถอะ หนูกลัว) อยู่ไม่ไกลไม่ไกล้พ่อเธอนัก พ่อเด็กหญิงที่ตอนนี้ถือมีดเล่มใหญ่อยู่ในมือ พอพ่อเธอได้ยินเสียงเด็กหญิง...พ่อก็เอามีดชี้มาที่เด็กหญิง ประมาณว่า “หยุดพูดเดี๋ยวนี้”
หลังจากเหตุการวันนั้น ที่โดนเอามีดชี้หน้า เธอไม่เข้าไปอยู่ไกล้อีกเลย พ่อเธอโวยวายที่บ้านเธอก็ไปนอนร้องไห้บ้านย่า พ่อเธอโวยที่บ้านย่าเธอก็ไปนอนบ้านป้า ถ้าโวยวายที่บ้านป้าเธอจะไปนอนบ้านย่า ... แล้วทำไมเธอไม่นอนบ้านตัวเองหล่ะเพราะ ... ไม่อยากเห็นพ่อกับแม่มาทะเลาะกัน ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากฟัง เพราะทุกครั้งเธอจะต้องหลับไปด้วยความคิดสับสนวุ่นวายพวกนี้เสมอ ทุกครั้งที่พ่อเธอก่อเรื่องหรือหาเรื่องคนนั้น คนนี้ หรือแม้กระทั้งตัวแม่ของเธอเอง ตื่นเช้ามา พ่อจะพูดคำนี้เสมอว่า “จำไม่ได้ ไม่รู้เรื่อง” แล้วก็จำทำตัวดี ไปสักพัก ...
พ่อเธอเคยพูดกับแม่ของเด็กหญิงว่า อยากได้ลูกผู้ชายจะได้มาเป็นเพื่อนกันกับเด็กหญิง แล้วพ่อก็ให้สัญญากับแม่ว่า จะเลิกเหล้า ถ้าได้ลูกผู้ชาย...ความพยายามของภรรยาและแม่ของเด็กหญิงก็ประสบความสำเร็จหลังจากที่เธอ พยายามมาหลายปี เพราะเธอแท้งลูก 2 ครั้งติด เพราะทำงานหนัก หมอว่าอย่างงั้น พอท้องอีกครั้งแม่ก็คลอดน้อง(ผู้ชาย)ให้เด็กหญิงเมื่อเธอายุได้ 12 ขวบ น้องกับเธออายุห่างกัน 12 ปี(1รอบ)...สุดท้ายคำสัญญาลมๆนั้นมันก้อปลิวหายไป ยังเหมือนเดิม นิสัยเดิมๆ ทั้งๆที่น้องของเด็กหญิงยังเล็ก...
มีคนรอบข้างมากมายรวมแม่ของเธอชอบบอกเด็กหญิงว่า “เป็นลูก ทำไมไม่บอกพ่อ” เพื่ออะไรเด็กหญิงคิด แม้แต่ปู่ กับ ย่าบอก พ่อก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม เป็นลูกไม่ใช่แม่นะ ที่จะได้ฟั...พ่อของเด็กหญิงเคยฟังใครทึ่ไหน เอาตัวเองเป็นใหญ่ พูดไม่ไว้หน้าใคร ไม่เกรงใจใคร เวลาเมาเหล้าเข้าปาก
เมื่อครั้งที่เธอโตอายุได้ 19 ปี ด้วยความที่เธอไปเรียน แม่ไปทำงาน น้องอยู่กับพ่อ น้องเธองอแงร้องไห้ไม่หยุด พ่อก็เมา พ่อเธอตีน้องชายของเธอ พอเธอกลับมาถึงบ้าน เธอรู้สึกเกลียดพ่อ ที่ตีน้องของเธอ รู้สึกสงสารน้องเธอมาก เห็นสภาพน้องเธอแล้วทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจที่สุด ไม่ได้เห็นรอยแผลหรือเลือดอะไรนะ แต่ที่เห็นแววตาความกลัว ความตกใจ แฝงอยู่ในนั้น เธอได้แต่คิดถ้าเธอจัวโตกว่านี้ มีพลังมากกว่านี้ เธออยากฆ่าผู้ชายคนนี้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของพ่อของเธอให้ตายๆไปซะ เธอได้แต่หวังว่าน้องชายของเธอจะไม่ฝังใจ กับเหตุการณ์ที่พ่อเธอทำวันนั้น ...
ทำไมแม่ ไม่เลิกกับพ่อ ... เพราะเธอทำเพื่อเธอและน้องชาย สงสารลูกทั้ง 2 ที่จะไม่มีพ่อ และคิดว่าพ่อจะกลับตัวกลับใจได้สักวัน แต่ 1 ปีกว่าที่แล้วพ่อและแยกทางกัน(พ่อกับแม่เธออยู่หมู่บ้านเดียว และบ้านไม่ห่างกกันมานัก)ต่างคนต่างอยู่ แต่พ่อไม่ได้ต่างคนต่างอยู่เลย กินเหล้าทุกวัน เมาไหนนอนนั้น เช้ามาตื่น อาบน้ำไปกินเหล้า เมานอน วนอยู่อย่างนี้ทุกวัน วันดีคืนดี ก็ไปโวยวายที่บ้านแม่ไปทำลายข้าวของตามนิสัยเดิมๆๆ ทุบประตู หน้าต่าง เอามีดฟันทุกอย่างเพื่อระบายอารมณ์ พ่อของเธอบอกว่าไม่ยอมเลิก จะก่อกวนอยู่อย่างนี้หล่ะ ตอนนี้แม่เธอก็อยู่ด้วยคาวมระแวง ไม่รู้วันนไหนจะโดนฆ่าตาย ไม่รู้วันไหนจะมาเผาบ้าน ... ผู้หญิงคนหนึ่งที่ทนอยู่กับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของลูก เพื่อ ลูกๆ แต่มันไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย ตั้งแต่ต้นเป็นยังไง จนตอนนี้ยังเหมือน...ที่ไม่เหมือนเดิมคือ อายุ
ตั้งแต่เล็กจนโต ตั้งแต่เริ่มจาก0-25ปี...ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เธอได้ยินเรื่องพ่อกับแม่ แล้วเธอไม่ร้องไห้ ไม่มีครั้งไหนเลยที่ไม่รู้สึกแย่กับมัน เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นมากมายทำได้ดีที่สุดหัวเราะ ยิ้มร่าเริง แต่ในใจมันหดหู่ แย่ที่สุด ถ้ามองเห็นข้างในได้คงจะเห็นน้ำตาที่ตกอยู่ข้างใน เธอพยายามทำใจ แต่เวลาไม่ได้ช่วยอะไรได้มากมายนัก ณ วันนี้เธอโตแล้ว เธอก็ได้แต่หวังๆแบบลมๆแล้งๆ ว่าพ่อเธอจจะคิดได้สักที ... แต่มันยากที่จะแก้ไข พ่อของเธอก็คงเป็นได้แค่ลุงขี้เมาคนหนึ่ง///ที่คนรอบข้างรังเกียจ ไม่มีคนคบ ไม่มีใครอยากเข้าไกล้ แม้แต่เด็กหญิงที่โตแล้วคนนี้
***เป็นพ่อแม่คนมันง่ายนะ แต่จะเป็นพ่อแม่ที่ดีให้ลูกเห็นมันยาก
เป็นพ่อแม่คนมันง่ายนะ แต่จะเป็นพ่อแม่ที่ดีให้ลูกเห็นมันยาก
ครอบครัวหนึ่งมี พ่อ, แม่, ลูก (หญิง)...อยู่กัน3คน ถือว่าเป็นครอบครัวที่ครบทุกอย่างไม่ได้ลำบากอะไร อยากกิน อยากได้ ก็ไม่ได้ลำบากนะ เรื่องเกิดเมื่อเด็กอายุ 6-7 ขวบ มีเรื่องที่ทำให้ครอบครัวเด็กคนนี้ต้องตกใจอย่างสุดขีด
ครั้งแรก
เด็กกับแม่ปั่นจักรยานไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ห่างจากหมู่บ้านที่เธออยู่ไป 1 กิโล ระหว่างทางขากลับ อีกแค่ไม่กี่ 100 เมตรก็จะถึงหมู่บ้านที่เธออยู่ โดยเด็กปั่นนำหน้า แม่ตามหลัง อยู่ดีๆเด็กคนนั้นปั่นจักรยานข้ามไปอีกฝั่งแบบล่องลอยสุดๆไม่ได้รีบร้อนปั่นอะไร(ถนนเลนสวนตามต่างจังหวัด)ประมาณว่าไม่มีรถ ถนนนั้นฉันครองยังไงยังงั้น เด็กคนนั้นรู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่มีเสียงแตรจากรถกระบะอีกฝั่งที่เด็กคนนั้นปั่นจักรยานข้ามไป เสียงแต่มันเข้าไปในหัวเด็กคนนั้นทันที แล้วเด็กคนนั้นก็ล้มลงทั้งจักรยานอยู่ถนน มองเห็นรถฝั่ง2-3คันจอดนิ่ง...ส่วนแม่เด็กก็รีบทิ้งจักรยานไปเอาเด็กออกจากตรงถนนมา แล้วก็ปั่นกลับบ้าน ปกติ
ครั้งที่2
ณ โรงเรียนประถม(ต่างจังหวัด) เรียนวิชาพละ โรงเรียนตามจังหวัดที่มีเด็กรวมกันประมาณ 90-100 คน(อนุบาล-ป.6) ไม่ได้เจริญอะไรมากมาย ทีไม่ได้เคร่งให้ใส่รองเท้ามาเรียน หรือมาใส่มาเรียนวิชาพละ เด็กส่วนมาก็สวมอีแตะมาเรียนกัน ตอนประมาณบ่ายๆเด็กคนหญิงคนนั้นก็เรียนมีเรียนพละ ระหว่างที่อาจารย์(ผู้หญิง)บอกให้วอร์มร่างกายสลัดแขน สลัดขา เด็กหญิงคนนั้นยืนอยู่เยื้อยงๆทางขวาของอาจารย์ เด็กหญิงคนนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกครั้ง เธอหยิบอีแตะที่เธอถอดไว้ข้างๆหยิบมันขึ้นมา ประมาณว่าจะเอาฟาดหน้าอาจารย์ยังไงยังงั้น แต่ก่อนที่เธอจะทำอะไรไปมากกว่านั้น เสียงอาจารย์ก็แว๊บเข้ามาในหู โดยเรียกชื่อของเด็กคนนั้น อยู่หลายครั้งเหมือนกัน4-5ครั้ง แล้วอาจารย์ก็ถามว่าเป็นอะไร พร้อมสายตาเพื่อนๆร่วมห้องของเธอที่เกิดคำถามในหัวเช่นกัน...หลังจากนั้นก็ปกติ
2ครั้ง...กับพฤติกรรมแปลกๆที่เด็กหญิงคนนั้นแสดงออก ก็เพียงพอที่คนเป็นแม่จะพาเธอไปพบแพทย์ (จิตแพทย์) โดยเธอถูกส่งตัวเข้าไปที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัดทันที
ครั้งแรก รพ. และครั้งต่อๆไป
พบคุณหมอ(ผู้ชาย)จิตแพทย์...คุณหมอก็ถามทั้งแม่ และเด็ก///แล้วก็กลับบ้าน พร้อมยา เม็ดสีขาว 1 กระปุก/30เม็ด กินวันละครั้งก่อนเข้านอน แล้วนัดพบอีก 1 เดือน แต่อาการแปลกๆนั้นหายไป รอบ 2 ได้มา 3 กระปุก///อีก 3 เดือนมาอีก ได้อีก 12 กระปุก เอาแบบมาทีเดียว ... 1 ปีกลับไปก็ไม่ได้อะไรกลับมาแล้ว...เด็กคนนั้นหายเป็นปลิดทิ้ง
คำถามที่คาใจเด็กหญิงคนนั้นอยู่เพราะอะไร
ณ ตอนนี้เด็กคนนั้นเธอโตแล้ว ... เธออายุ 25 ปี (เธอแต่งงานแล้ว) แต่เธอคอยเฝ้าถามตัวเองมาตลอดระยะเวลา 20 ปีมานี้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอทำไมเธอถึงมีอาการแบบนั้น
..................................
เหตุที่เด็กหญิงพอจำได้ และจำได้
ตอนนั้นเธอน่าจะอายุ8ขวบ เธอนอนกับแม่และพ่อเสมอ แต่วันนี้พ่อเธอไม่อยู่ กลางดึกคืนนั้นแม่เธอเลือกเธอให้ตื่น ให้เธอนั่งมอร์ไซต์ไปเป็นเพื่อนเพื่อไปตามพ่อของเธอที่ร้านอาหาร ร้านที่2แม่ลูกไปมันไม่ได้ไกลจากบ้านเธอเลย 1 กิโลเมตร แม่เธอจอดรถไว้ข้างถนน แล้วแม่เธอเดินเข้าไปในร้าน ส่วนตัวเด็กคนนั้นรอแม่ที่รถ เธอจะเดินไปกับแม่ก็ได้นะ แต่เธอเลือกที่จะรอที่รถแล้คอยมองว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมั๊ย...ลึกๆในใจรู้สึกกลัว อารมณ์สับสนไปหมด ที่แน่น้ำตาเธอเริ่มเอ่อขึ้นมาอีกแล้ว ไม่อยากเห็นไม่อยากรับรู้ อยากกลับบ้าน เธอง่วงเธอให้เหตุผลตัวเอง...
เวลาถึงช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เขาพรรณษา ออกพรรษาฯลฯ(เมืองไทยมีเยอะมาก) ทุกคนคงมีความสุขกับมัน แต่เธอก็สนุกแบบหวันๆตลอดเวลา จะเกิดอะไรขึ้นอีกคืนนี้ คืนนี้ช่างยาวนาน ภายนอกมีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ แต่ภายในเรื่องเก่าๆเดิมไมไปไหน ทุกครั้งสิ่งที่เธอคิดไม่ได้ผิดไปแต่ประการใดเลย เพราะพ่อเธอเมา หาเรื่อง โวยวาย ที่สำคัญแม่เธอคือคนที่ต้องรองรับอารมณ์นั้นเสมอ ส่วนเด็กหญิงก็ได้แต่ยืนห่างๆเหมือนเดิม ความรู้สึกเดิมๆ วนเวียนเข้ามาอีกครั้ง
พ่อไม่เคยทำร้ายเธอเลย แม้แต่ตีสักนิดก็ไม่เคย แต่ทำไมเธอรู้สึกกลัวอยู่ลึกๆในใจตลอดเวลา...มีอยู่ครั้งหนึ่ง พ่อเธอโวยวายอยู่ที่บ้าน และมีคนจับตัวคอยห้ามอยู่4-5คน... แต่ ไม่รู้อะไรดลใจเด็กหญิง...เธอตะโกนว่า “พ่อ พ่อ พ่อ” ปนเสียงสะอื้น (เหมือนประมาณว่าพ่อหยุดเถอะ หนูกลัว) อยู่ไม่ไกลไม่ไกล้พ่อเธอนัก พ่อเด็กหญิงที่ตอนนี้ถือมีดเล่มใหญ่อยู่ในมือ พอพ่อเธอได้ยินเสียงเด็กหญิง...พ่อก็เอามีดชี้มาที่เด็กหญิง ประมาณว่า “หยุดพูดเดี๋ยวนี้”
หลังจากเหตุการวันนั้น ที่โดนเอามีดชี้หน้า เธอไม่เข้าไปอยู่ไกล้อีกเลย พ่อเธอโวยวายที่บ้านเธอก็ไปนอนร้องไห้บ้านย่า พ่อเธอโวยที่บ้านย่าเธอก็ไปนอนบ้านป้า ถ้าโวยวายที่บ้านป้าเธอจะไปนอนบ้านย่า ... แล้วทำไมเธอไม่นอนบ้านตัวเองหล่ะเพราะ ... ไม่อยากเห็นพ่อกับแม่มาทะเลาะกัน ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากฟัง เพราะทุกครั้งเธอจะต้องหลับไปด้วยความคิดสับสนวุ่นวายพวกนี้เสมอ ทุกครั้งที่พ่อเธอก่อเรื่องหรือหาเรื่องคนนั้น คนนี้ หรือแม้กระทั้งตัวแม่ของเธอเอง ตื่นเช้ามา พ่อจะพูดคำนี้เสมอว่า “จำไม่ได้ ไม่รู้เรื่อง” แล้วก็จำทำตัวดี ไปสักพัก ...
พ่อเธอเคยพูดกับแม่ของเด็กหญิงว่า อยากได้ลูกผู้ชายจะได้มาเป็นเพื่อนกันกับเด็กหญิง แล้วพ่อก็ให้สัญญากับแม่ว่า จะเลิกเหล้า ถ้าได้ลูกผู้ชาย...ความพยายามของภรรยาและแม่ของเด็กหญิงก็ประสบความสำเร็จหลังจากที่เธอ พยายามมาหลายปี เพราะเธอแท้งลูก 2 ครั้งติด เพราะทำงานหนัก หมอว่าอย่างงั้น พอท้องอีกครั้งแม่ก็คลอดน้อง(ผู้ชาย)ให้เด็กหญิงเมื่อเธอายุได้ 12 ขวบ น้องกับเธออายุห่างกัน 12 ปี(1รอบ)...สุดท้ายคำสัญญาลมๆนั้นมันก้อปลิวหายไป ยังเหมือนเดิม นิสัยเดิมๆ ทั้งๆที่น้องของเด็กหญิงยังเล็ก...
มีคนรอบข้างมากมายรวมแม่ของเธอชอบบอกเด็กหญิงว่า “เป็นลูก ทำไมไม่บอกพ่อ” เพื่ออะไรเด็กหญิงคิด แม้แต่ปู่ กับ ย่าบอก พ่อก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม เป็นลูกไม่ใช่แม่นะ ที่จะได้ฟั...พ่อของเด็กหญิงเคยฟังใครทึ่ไหน เอาตัวเองเป็นใหญ่ พูดไม่ไว้หน้าใคร ไม่เกรงใจใคร เวลาเมาเหล้าเข้าปาก
เมื่อครั้งที่เธอโตอายุได้ 19 ปี ด้วยความที่เธอไปเรียน แม่ไปทำงาน น้องอยู่กับพ่อ น้องเธองอแงร้องไห้ไม่หยุด พ่อก็เมา พ่อเธอตีน้องชายของเธอ พอเธอกลับมาถึงบ้าน เธอรู้สึกเกลียดพ่อ ที่ตีน้องของเธอ รู้สึกสงสารน้องเธอมาก เห็นสภาพน้องเธอแล้วทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจที่สุด ไม่ได้เห็นรอยแผลหรือเลือดอะไรนะ แต่ที่เห็นแววตาความกลัว ความตกใจ แฝงอยู่ในนั้น เธอได้แต่คิดถ้าเธอจัวโตกว่านี้ มีพลังมากกว่านี้ เธออยากฆ่าผู้ชายคนนี้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของพ่อของเธอให้ตายๆไปซะ เธอได้แต่หวังว่าน้องชายของเธอจะไม่ฝังใจ กับเหตุการณ์ที่พ่อเธอทำวันนั้น ...
ทำไมแม่ ไม่เลิกกับพ่อ ... เพราะเธอทำเพื่อเธอและน้องชาย สงสารลูกทั้ง 2 ที่จะไม่มีพ่อ และคิดว่าพ่อจะกลับตัวกลับใจได้สักวัน แต่ 1 ปีกว่าที่แล้วพ่อและแยกทางกัน(พ่อกับแม่เธออยู่หมู่บ้านเดียว และบ้านไม่ห่างกกันมานัก)ต่างคนต่างอยู่ แต่พ่อไม่ได้ต่างคนต่างอยู่เลย กินเหล้าทุกวัน เมาไหนนอนนั้น เช้ามาตื่น อาบน้ำไปกินเหล้า เมานอน วนอยู่อย่างนี้ทุกวัน วันดีคืนดี ก็ไปโวยวายที่บ้านแม่ไปทำลายข้าวของตามนิสัยเดิมๆๆ ทุบประตู หน้าต่าง เอามีดฟันทุกอย่างเพื่อระบายอารมณ์ พ่อของเธอบอกว่าไม่ยอมเลิก จะก่อกวนอยู่อย่างนี้หล่ะ ตอนนี้แม่เธอก็อยู่ด้วยคาวมระแวง ไม่รู้วันนไหนจะโดนฆ่าตาย ไม่รู้วันไหนจะมาเผาบ้าน ... ผู้หญิงคนหนึ่งที่ทนอยู่กับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของลูก เพื่อ ลูกๆ แต่มันไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย ตั้งแต่ต้นเป็นยังไง จนตอนนี้ยังเหมือน...ที่ไม่เหมือนเดิมคือ อายุ
ตั้งแต่เล็กจนโต ตั้งแต่เริ่มจาก0-25ปี...ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เธอได้ยินเรื่องพ่อกับแม่ แล้วเธอไม่ร้องไห้ ไม่มีครั้งไหนเลยที่ไม่รู้สึกแย่กับมัน เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นมากมายทำได้ดีที่สุดหัวเราะ ยิ้มร่าเริง แต่ในใจมันหดหู่ แย่ที่สุด ถ้ามองเห็นข้างในได้คงจะเห็นน้ำตาที่ตกอยู่ข้างใน เธอพยายามทำใจ แต่เวลาไม่ได้ช่วยอะไรได้มากมายนัก ณ วันนี้เธอโตแล้ว เธอก็ได้แต่หวังๆแบบลมๆแล้งๆ ว่าพ่อเธอจจะคิดได้สักที ... แต่มันยากที่จะแก้ไข พ่อของเธอก็คงเป็นได้แค่ลุงขี้เมาคนหนึ่ง///ที่คนรอบข้างรังเกียจ ไม่มีคนคบ ไม่มีใครอยากเข้าไกล้ แม้แต่เด็กหญิงที่โตแล้วคนนี้
***เป็นพ่อแม่คนมันง่ายนะ แต่จะเป็นพ่อแม่ที่ดีให้ลูกเห็นมันยาก