คุณสุเทพ ได้เข้าร่วมในการคุยระหว่าง รัฐบาล ทหาร และ คุณสุเทพ ที่คาดว่าจะเป็นไปในทางลับตอนแรก แต่...
คุณสุเทพ ได้ออกแถลงว่า ได้ไปคุยกับนายกยิ่งลักษณ์ จริงแต่เพียงเพื่อไปบอกว่า ต้องการสภาประชาชน รัฐบาลต้องไป ด้วยอารมณ์
เพราะคุณสุเทพผิดหวังผลการคุยว่าทหารจะเข้าข้าง และรัฐบาลจะต้องยอม
หลังจากนั้นอีกวัน นายกยิ่งลักษณ์เปิดให้สื่อ สอบถามกันแบบไม่มีสคริป ประเด็นคือ สามารถทำได้แต่ต้องมีกฏหมายรองรับ สุดท้ายก่อนจบได้หัวเราะกับนักข่าว
ได้เปลี่ยนประชา ออกจาก ผอ.รศ มาเป็น สุรพงษ์ แทน บางสำนักข่าวบอกว่า ที่เปลี่ยนออกเพราะประชาไม่กล้าลุย!! นั้นไม่จริง มาดูเหตุผลหลักทำไมถึงเอา สุรพงษ์ มาทำหน้าที่แทนเพราะตำแหน่งสำคัญก็คือ รมต.ต่างประเทศ หลังจากนั้นเสร็จก็ได้ หมายศาลาอาญาข้อหาหนัก คือ กบฎ ให้แก่คุณสุเทพ ตรงจุดนี้เอง สุรพงษ์มีอำนาจที่ประกาศให้แก่ประเทศทั่วโลกได้รับรู้
มาดูว่า กบฏ ของคุณสุเทพ ร้ายแรงแค่ไหน แตกต่างจากของคุณสนธิ ยังไง ของคุณสุเทพ คือการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันนี้คือหนักมาก แต่ของคุณสนธิในตอนนั้นแค่ล้มล้างอำนาจบริหาร ที่สำคัญหลักฐานแน่นหนา ไม่ว่าจะเป็นแถลงการ ยึดทีวี ยึดสถานที่ราชการ ที่สำคัญก็คือผิดที่ไปยึดกระทรวงการต่างประเทศ
และสุเทพได้ หายไปในตอนใกล้เย็น และกลับมาด้วยอารมณ์อีกครั้ง ประกาศตัดพรรคการเมือง น้อยเนื้อต่ำใจกว่าทหารอยู่ข้างประชาชน ประกาศบุกตำรวจให้จนได้ ประกาศข้าราชหยุดงาน ประกาศใครคนไหนที่ร่วมชุมนุมถ้าชนะเรามาตั้งสภาประชาชนด้วย แปลนัยยะแล้วก็คือ
ถ้าใครเข้าร่วมกับเราถ้าชนะ อยากได้อะไร ก็เอาไปเลยแบบนั้น
เรามาดูภารกิจของทหารที่ได้รับมอบหมายในคราวนี้ก็คือ ไม่ใช้ความรุนแรง นำคนเจ็บออกมารักษาเบื้องต้น ส่งคนกลับบ้าน มีแค่นี้หละภาระกิจของทหาร
ทำไมทหารถึงไม่อยากยุ่งกับการเมือง มันมีหลายปัจจัยในครั้งนี้ ทั้งคอนเน็กชั่น ทั้งความสนิท ทั้งการทำงาน อีกทั้งหลายคนสายตรง.. แม้ว่าจะมีบางกลุ่มที่อยากทำสุดขาดใจก็ตาม
ทำไมตำรวจในยุคนี้ถึงสามัคคีกันขนาดนี้ ไปหาดูนะครับว่าใครได้รับ ฉายาข้งเบ้ง ในตำรวจยุคปัจจุบันนี้
คุณสุเทพต้องไปมองย้อนดูว่า ทำไมคุณสุเทพ ถึงถูกโดดเดียวในเวลานี้ ประเทศเสียหายมามากพอแล้ว
เปิดประเด็น เทพเทือก
คุณสุเทพ ได้ออกแถลงว่า ได้ไปคุยกับนายกยิ่งลักษณ์ จริงแต่เพียงเพื่อไปบอกว่า ต้องการสภาประชาชน รัฐบาลต้องไป ด้วยอารมณ์
เพราะคุณสุเทพผิดหวังผลการคุยว่าทหารจะเข้าข้าง และรัฐบาลจะต้องยอม
หลังจากนั้นอีกวัน นายกยิ่งลักษณ์เปิดให้สื่อ สอบถามกันแบบไม่มีสคริป ประเด็นคือ สามารถทำได้แต่ต้องมีกฏหมายรองรับ สุดท้ายก่อนจบได้หัวเราะกับนักข่าว
ได้เปลี่ยนประชา ออกจาก ผอ.รศ มาเป็น สุรพงษ์ แทน บางสำนักข่าวบอกว่า ที่เปลี่ยนออกเพราะประชาไม่กล้าลุย!! นั้นไม่จริง มาดูเหตุผลหลักทำไมถึงเอา สุรพงษ์ มาทำหน้าที่แทนเพราะตำแหน่งสำคัญก็คือ รมต.ต่างประเทศ หลังจากนั้นเสร็จก็ได้ หมายศาลาอาญาข้อหาหนัก คือ กบฎ ให้แก่คุณสุเทพ ตรงจุดนี้เอง สุรพงษ์มีอำนาจที่ประกาศให้แก่ประเทศทั่วโลกได้รับรู้
มาดูว่า กบฏ ของคุณสุเทพ ร้ายแรงแค่ไหน แตกต่างจากของคุณสนธิ ยังไง ของคุณสุเทพ คือการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันนี้คือหนักมาก แต่ของคุณสนธิในตอนนั้นแค่ล้มล้างอำนาจบริหาร ที่สำคัญหลักฐานแน่นหนา ไม่ว่าจะเป็นแถลงการ ยึดทีวี ยึดสถานที่ราชการ ที่สำคัญก็คือผิดที่ไปยึดกระทรวงการต่างประเทศ
และสุเทพได้ หายไปในตอนใกล้เย็น และกลับมาด้วยอารมณ์อีกครั้ง ประกาศตัดพรรคการเมือง น้อยเนื้อต่ำใจกว่าทหารอยู่ข้างประชาชน ประกาศบุกตำรวจให้จนได้ ประกาศข้าราชหยุดงาน ประกาศใครคนไหนที่ร่วมชุมนุมถ้าชนะเรามาตั้งสภาประชาชนด้วย แปลนัยยะแล้วก็คือ
ถ้าใครเข้าร่วมกับเราถ้าชนะ อยากได้อะไร ก็เอาไปเลยแบบนั้น
เรามาดูภารกิจของทหารที่ได้รับมอบหมายในคราวนี้ก็คือ ไม่ใช้ความรุนแรง นำคนเจ็บออกมารักษาเบื้องต้น ส่งคนกลับบ้าน มีแค่นี้หละภาระกิจของทหาร
ทำไมทหารถึงไม่อยากยุ่งกับการเมือง มันมีหลายปัจจัยในครั้งนี้ ทั้งคอนเน็กชั่น ทั้งความสนิท ทั้งการทำงาน อีกทั้งหลายคนสายตรง.. แม้ว่าจะมีบางกลุ่มที่อยากทำสุดขาดใจก็ตาม
ทำไมตำรวจในยุคนี้ถึงสามัคคีกันขนาดนี้ ไปหาดูนะครับว่าใครได้รับ ฉายาข้งเบ้ง ในตำรวจยุคปัจจุบันนี้
คุณสุเทพต้องไปมองย้อนดูว่า ทำไมคุณสุเทพ ถึงถูกโดดเดียวในเวลานี้ ประเทศเสียหายมามากพอแล้ว