เอ๋อทำไมเอารถขยะให้ม้อบไปปะทะ

รอง ผบ.ตร.ย้ำตำรวจเน้นแนวทางเจรจาส่วนการใช้กระสุนยางเป็นหนทางขั้นตอนปฏิบัติสุดท้ายที่ตำรวจใช้พร้อมทำหนังสือถามผู้ว่าฯกทม. หลังรถเก็บขยะถูกนำมาใช้

วันที่ 2 ธ.ค. พลตำรวจเอกวรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. เดินทางมาตรวจเยี่ยมอาการบาดเจ็บ ของดาบตำรวจนิเวศน์ อินทร์กอง และดาบตำรวจชาลี บุญประคม ตำรวจปราบจลาจล จ.อุดรธานี ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณขา จากการถูกสะเก็ดระเบิด, ประทัดยักษ์ บริเวณสะพานอรทัย และนำตัวมาปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ส่งไปรักษาอาการต่อที่ โรงพยาบาลตำรวจ

พลตำรวจเอกวรพงษ์ ยังกล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังคงตึงเครียดหลายจุด โดยเฉพาะแยกการเรือน / สะพานชมัยมรุเชฐ และแยกพล 1 ที่ขณะนี้ทางผู้ชุมนุมสามารถพังแนวแบริเออร์ได้แล้วบางส่วน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว 20-30 นาย ส่วนใหญ่เกิดจากถูกระเบิดปิงปอง และสะเก็ดประทัดยักษ์ โดยยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่จะยังคงใช้แนวทางในการเจรจา และยึดหลักสากลในการควบคุมฝูงชน ซึ่งยอมรับว่าสถานการณ์ขณะนี้เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายตั้งรับมากกว่า ซึ่งอาจต้องมีการพิจารณาปรับมาตรการให้เป็นไปในเชิงรุกมากขึ้น และหากสถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้น สิ่งสุดท้ายที่จะใช้คือ กระสุนยางแต่ก็จะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ

นอกจากนี้ พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวเรื่องที่ผู้ชุมนุมมีการนำรถเก็บขยะของ กทม.ขับมาประชิดแนวแบริเออร์ของเจ้าหน้าที่นั้น ได้ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบแล้ว พร้อมกับให้ทำหนังสือสอบถามไปยัง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครถึงข้อเท็จจริง เนื่องจากเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ในขณะที่บรรยากาศใกล้กองบัญชาการตำรวจนครบาลแยกพล1 ยังคงตึงเครียดตำรวจยังระดมยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมนานกว่า 3 ชั่วโมง และฝั่งผู้ชุมนุมยังคงไม่ล่าถอยไปจากจุดดังกล่าวแต่อย่างใด มวลชนบางส่วนเข้ามาหลบพักในสโมสรกองทัพบกซึ่งก็มีแก๊สน้ำตามาตกใส่หลังคาอาคารสวัสดิการกองทัพบกจนหลังคาทะลุลงมาแก๊สน้ำตาฟุ้งกระจาย

http://www.thairath.co.th/content/region/386710

แสบนะเห็นเอ๋อๆแบบนี้