
มีปัญหาระหว่างกันแทบทุกครั้งที่มีการชุมนุมทางการเมืองต่อต้านรัฐบาล จนดูคล้ายจะเป็นอีกแนวรบหนึ่งในสงครามการเมืองระหว่างผู้ชุมนุมกับรัฐบาลไปแล้ว ซึ่งหากพิจารณาไปที่บริบทของปัญหา นี่เป็นอีกสนามรบหนึ่งจริงๆ
นั่นคือปัญหาระหว่างผู้ชุมนุมกับสื่อมวลชน โดยเฉพาะกับสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีของรัฐ
โดยบางครั้งเกิดการกระทบกระทั่งในการทำงานระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่ทุกครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาคือ ปัญหาทางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายผู้ชุมนุมไม่พอใจที่สื่อมวลชนโดยเฉพาะฟรีทีวีของรัฐไม่ให้ความเป็นธรรมในการนำเสนอข่าวสารของผู้ชุมนุม โดยไม่เสนอข่าวของผู้ชุมนุม หรือเสนอข่าวไม่ตรงความเป็นจริง ที่เป็นปัญหาและยกมาเป็นประเด็นเปิดฉากโจมตีกันตลอดคือตัวเลขจำนวนผู้ชุมนุม
การปราศรัยโจมตีการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนโดยเฉพาะฟรีทีวีของรัฐ รวมทั้งการชักชวนให้บอยคอตด้วยการไม่อ่านไม่ชม จึงเป็นหัวข้อหนึ่งของการชุมนุมนอกเหนือจากการโจมตีรัฐบาล ซึ่งก็เรียกสีสันในการชุมนุมได้ไม่น้อย
ขณะที่ฝ่ายสื่อเองก็เกิดภาวะทางใจกับผู้ชุมนุมเช่นกัน เพราะเห็นว่าผู้ชุมนุมพยายามกดดันและรวมทั้งคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อ
ในการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ยกระดับเป็นการชุมนุมขับไล่รัฐบาลและกำจัดระบอบทักษิณในขณะนี้ ปัญหาระหว่างผู้ชุมนุมกับสื่อทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อผู้ชุมนุมยกระดับความไม่พอใจต่อสื่อโดยนำมวลชนดาวกระจายไปชุมนุมโจมตีและยื่นหนังสือต่อสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีทุกช่องให้นำเสนอข่าวสารอย่างเป็นธรรมกับผู้ชุมนุม และไม่ปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารของประชาชน
และล่าสุด เมื่อคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ออกแถลงการณ์ให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆถ่ายทอดสัญญาณการเคลื่อนไหวและคำแถลงของ กปปส. และห้ามนำเสนอข่าวจากฝ่ายรัฐบาล ทำให้สมาคมสื่อ 3 องค์กรประกอบด้วยสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ ร่วมกันออกแถลงการณ์ขอให้ยุติการคุกคามและแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยมีเนื้อหาระบุถึงสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชน รวมถึงระบุว่าสถานีโทรทัศน์ในสังกัดหน่วยงานรัฐ มีรัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้มีความอิสระในการเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน และให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อสาธารณะ โดยไม่อยู่ภายใต้อาณัติของรัฐบาล และไม่ยอมรับการถูกแทรกแซงหรือสั่งการจากฝ่ายรัฐบาล ให้นำเสนอข่าวสารเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
แนวรบด้านสื่อของผู้ชุมนุมกับสื่อของรัฐในขณะนี้ จึงถือว่าพุ่งถึงจุดตึงเครียดสูงสุด เพราะผู้ชุมนุมได้ใช้อำนาจของพลังมวลชนในนามของ กปปส. สั่งการสื่อของรัฐ ขณะที่สื่อของรัฐก็ยังอยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาลที่ยังไม่สิ้นสภาพ ซึ่งต้องจับตาดูว่าภายใต้สถานการณ์แหลมคมนี้ สื่อของรัฐจะทำหน้าที่อย่างอิสระอย่างไรภายใต้คำสั่งของพลังมวลชนในนาม กปปส. และภายใต้อำนาจของรัฐบาลซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลสื่อของรัฐ
ขณะนี้สื่อของรัฐถูกกดดันให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกข้าง เช่นเดียวกับข้าราชการที่ตกอยู่ในสถานการณ์ต้องเลือกข้างเช่นกัน
อันที่จริงปัญหาระหว่างผู้ชุมนุมกับสื่อไม่ควรดำเนินมาถึงจุดแห่งความตึงเครียดและต้องเลือกข้างเช่นนี้ หากทั้งสองฝ่ายเข้าใจในบทบาทหน้าที่และภารกิจของแต่ละฝ่ายอย่างดีพอ และแต่ละฝ่ายก็ทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้อง
โดยเฉพาะฟรีทีวีของรัฐซึ่งเป็นปัญหากับผู้ชุมนุม ทั้งช่องที่ยังเป็นของรัฐ หรือได้รับสัมปทานจากรัฐ จะต้องมองตัวเองให้ออกว่าเป็นสื่อมวลชนหรือเป็นเครื่องมือของรัฐ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาตัวเองว่าเป็นสื่อมวลชนหรือเป็นแค่ธุรกิจแขนงหนึ่ง
ซึ่งหลักคิดในการมองตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก โดยจะต้องมองว่า ตนเองนั้นถือกำเนิดมาเพื่อเป็นสื่อ ส่วนการอยู่ภายใต้สังกัดของรัฐหรือรับสัมปทานของรัฐเป็นเรื่องที่มาทีหลัง ส่วนผลประโยชน์ทางธุรกิจก็มาทีหลังสุด เมื่อมองตรงนี้ออก จะรู้ทันทีว่าตัวเองเป็นสื่อที่จะต้องมีความเป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อำนาจใดที่มาทีหลัง ทั้งอำนาจของรัฐ และอำนาจของธุรกิจ
อย่างไรก็ดี ยังมีสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งที่แม้จะไม่ใช่ฟรีทีวี นั่นคือ สถานีข่าว TNN 24 ได้ทำหน้าที่ในการนำเสนอข่าวสารได้อย่างดี มีความเป็นกลาง และกล้าที่จะนำเสนอความจริงที่เกิดขึ้น เช่น สามารถเก็บภาพและนำเสนอข่าวและภาพมือปืนที่ยิงนักศึกษารามคำแหงเป็นช่องแรก ทั้งที่สถานี TNN 24 เป็นช่องข่าวของเคเบิลทีวี True Vision ที่มีเอกชนเป็นเจ้าของ แต่กล้าที่จะนำเสนอข่าวสารอย่างเป็นกลาง จึงเป็นสถานีโทรทัศน์ช่องเดียวที่ไม่ถูกผู้ชุมนุมยกกำลังบุกไปหา
สถานีโทรทัศน์ TNN 24 จึงน่าเป็นตัวอย่างให้ฟรีทีวีทุกช่องเห็นว่าการทำหน้าที่อย่างกล้าหาญและเป็นกลาง ไม่อยู่ภายใต้คำสั่งของใคร นั้นสามารถทำได้
ข่าวว่าค่ายธุรกิจซึ่งเป็นเจ้าของเคเบิลทีวี True Vision ยื่นประมูลทีวีดิจิตอลช่องข่าวไว้ 1 ช่อง หากยึดแนวทางการนำเสนอข่าวสารแบบ TNN 24 ก็น่าให้สัมปทานช่องข่าวนี้ไปเลย
2 ธันวาคม 2556
http://peopleunitynews.com/web02/2013/%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%8A-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-2/
คอลัมน์ // พูลเดช กรรณิการ์ : สื่อกับผู้ชุมนุม แนวรบร้อนระอุ
มีปัญหาระหว่างกันแทบทุกครั้งที่มีการชุมนุมทางการเมืองต่อต้านรัฐบาล จนดูคล้ายจะเป็นอีกแนวรบหนึ่งในสงครามการเมืองระหว่างผู้ชุมนุมกับรัฐบาลไปแล้ว ซึ่งหากพิจารณาไปที่บริบทของปัญหา นี่เป็นอีกสนามรบหนึ่งจริงๆ
นั่นคือปัญหาระหว่างผู้ชุมนุมกับสื่อมวลชน โดยเฉพาะกับสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีของรัฐ
โดยบางครั้งเกิดการกระทบกระทั่งในการทำงานระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่ทุกครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาคือ ปัญหาทางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายผู้ชุมนุมไม่พอใจที่สื่อมวลชนโดยเฉพาะฟรีทีวีของรัฐไม่ให้ความเป็นธรรมในการนำเสนอข่าวสารของผู้ชุมนุม โดยไม่เสนอข่าวของผู้ชุมนุม หรือเสนอข่าวไม่ตรงความเป็นจริง ที่เป็นปัญหาและยกมาเป็นประเด็นเปิดฉากโจมตีกันตลอดคือตัวเลขจำนวนผู้ชุมนุม
การปราศรัยโจมตีการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนโดยเฉพาะฟรีทีวีของรัฐ รวมทั้งการชักชวนให้บอยคอตด้วยการไม่อ่านไม่ชม จึงเป็นหัวข้อหนึ่งของการชุมนุมนอกเหนือจากการโจมตีรัฐบาล ซึ่งก็เรียกสีสันในการชุมนุมได้ไม่น้อย
ขณะที่ฝ่ายสื่อเองก็เกิดภาวะทางใจกับผู้ชุมนุมเช่นกัน เพราะเห็นว่าผู้ชุมนุมพยายามกดดันและรวมทั้งคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อ
ในการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ยกระดับเป็นการชุมนุมขับไล่รัฐบาลและกำจัดระบอบทักษิณในขณะนี้ ปัญหาระหว่างผู้ชุมนุมกับสื่อทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อผู้ชุมนุมยกระดับความไม่พอใจต่อสื่อโดยนำมวลชนดาวกระจายไปชุมนุมโจมตีและยื่นหนังสือต่อสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีทุกช่องให้นำเสนอข่าวสารอย่างเป็นธรรมกับผู้ชุมนุม และไม่ปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารของประชาชน
และล่าสุด เมื่อคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ออกแถลงการณ์ให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆถ่ายทอดสัญญาณการเคลื่อนไหวและคำแถลงของ กปปส. และห้ามนำเสนอข่าวจากฝ่ายรัฐบาล ทำให้สมาคมสื่อ 3 องค์กรประกอบด้วยสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ ร่วมกันออกแถลงการณ์ขอให้ยุติการคุกคามและแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยมีเนื้อหาระบุถึงสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชน รวมถึงระบุว่าสถานีโทรทัศน์ในสังกัดหน่วยงานรัฐ มีรัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้มีความอิสระในการเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน และให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อสาธารณะ โดยไม่อยู่ภายใต้อาณัติของรัฐบาล และไม่ยอมรับการถูกแทรกแซงหรือสั่งการจากฝ่ายรัฐบาล ให้นำเสนอข่าวสารเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
แนวรบด้านสื่อของผู้ชุมนุมกับสื่อของรัฐในขณะนี้ จึงถือว่าพุ่งถึงจุดตึงเครียดสูงสุด เพราะผู้ชุมนุมได้ใช้อำนาจของพลังมวลชนในนามของ กปปส. สั่งการสื่อของรัฐ ขณะที่สื่อของรัฐก็ยังอยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาลที่ยังไม่สิ้นสภาพ ซึ่งต้องจับตาดูว่าภายใต้สถานการณ์แหลมคมนี้ สื่อของรัฐจะทำหน้าที่อย่างอิสระอย่างไรภายใต้คำสั่งของพลังมวลชนในนาม กปปส. และภายใต้อำนาจของรัฐบาลซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลสื่อของรัฐ
ขณะนี้สื่อของรัฐถูกกดดันให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกข้าง เช่นเดียวกับข้าราชการที่ตกอยู่ในสถานการณ์ต้องเลือกข้างเช่นกัน
อันที่จริงปัญหาระหว่างผู้ชุมนุมกับสื่อไม่ควรดำเนินมาถึงจุดแห่งความตึงเครียดและต้องเลือกข้างเช่นนี้ หากทั้งสองฝ่ายเข้าใจในบทบาทหน้าที่และภารกิจของแต่ละฝ่ายอย่างดีพอ และแต่ละฝ่ายก็ทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้อง
โดยเฉพาะฟรีทีวีของรัฐซึ่งเป็นปัญหากับผู้ชุมนุม ทั้งช่องที่ยังเป็นของรัฐ หรือได้รับสัมปทานจากรัฐ จะต้องมองตัวเองให้ออกว่าเป็นสื่อมวลชนหรือเป็นเครื่องมือของรัฐ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาตัวเองว่าเป็นสื่อมวลชนหรือเป็นแค่ธุรกิจแขนงหนึ่ง
ซึ่งหลักคิดในการมองตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก โดยจะต้องมองว่า ตนเองนั้นถือกำเนิดมาเพื่อเป็นสื่อ ส่วนการอยู่ภายใต้สังกัดของรัฐหรือรับสัมปทานของรัฐเป็นเรื่องที่มาทีหลัง ส่วนผลประโยชน์ทางธุรกิจก็มาทีหลังสุด เมื่อมองตรงนี้ออก จะรู้ทันทีว่าตัวเองเป็นสื่อที่จะต้องมีความเป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อำนาจใดที่มาทีหลัง ทั้งอำนาจของรัฐ และอำนาจของธุรกิจ
อย่างไรก็ดี ยังมีสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งที่แม้จะไม่ใช่ฟรีทีวี นั่นคือ สถานีข่าว TNN 24 ได้ทำหน้าที่ในการนำเสนอข่าวสารได้อย่างดี มีความเป็นกลาง และกล้าที่จะนำเสนอความจริงที่เกิดขึ้น เช่น สามารถเก็บภาพและนำเสนอข่าวและภาพมือปืนที่ยิงนักศึกษารามคำแหงเป็นช่องแรก ทั้งที่สถานี TNN 24 เป็นช่องข่าวของเคเบิลทีวี True Vision ที่มีเอกชนเป็นเจ้าของ แต่กล้าที่จะนำเสนอข่าวสารอย่างเป็นกลาง จึงเป็นสถานีโทรทัศน์ช่องเดียวที่ไม่ถูกผู้ชุมนุมยกกำลังบุกไปหา
สถานีโทรทัศน์ TNN 24 จึงน่าเป็นตัวอย่างให้ฟรีทีวีทุกช่องเห็นว่าการทำหน้าที่อย่างกล้าหาญและเป็นกลาง ไม่อยู่ภายใต้คำสั่งของใคร นั้นสามารถทำได้
ข่าวว่าค่ายธุรกิจซึ่งเป็นเจ้าของเคเบิลทีวี True Vision ยื่นประมูลทีวีดิจิตอลช่องข่าวไว้ 1 ช่อง หากยึดแนวทางการนำเสนอข่าวสารแบบ TNN 24 ก็น่าให้สัมปทานช่องข่าวนี้ไปเลย
2 ธันวาคม 2556
http://peopleunitynews.com/web02/2013/%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%8A-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-2/