กว่าจะได้ไปเทสยาริสอีโค่ ก็นานไปพอสมควรบางทีไปศูนย์ก็ไม่มีรถให้ลอง และเนื่องจากภาระหน้าที่และการงานอันหนักอึ้ง กิมกี่ เพราะกว่าจะตื่นมาพักผ่อนได้ต้องนอนไปหลายชั่วโมง ฮ่าๆ (น้องบูมบอกมา นอนเหนื่อยต้องตื่นมาพักผ่อนบ้าง)
เข้าเรื่องดีกว่า
เมื่อคนพูดถึงโตโยต้ายาริส ที่มีมาคนจะนึกถึงรถอะไรจะกลมก็ไม่กลมกระปุ๊กลุ๊ก บางท่านถึงกับบอกว่า รถหน้าตาอุบาทท์ ก็แล้วแต่คนชอบใช่ไหมล่ะ? แต่สำหรับผมนั้นเฉยๆครับ เพราะ มันก็คือ Vios เวอร์ชั่น 5 ประตู (ไม่รู้จะเปลี่ยนชื่อให้เยอะแยะมากมายทำไม) ซึ่งยอดขายก็ได้ไปไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับยาริสรุ่นก่อนหน้านี้ ส่วนขอดีข้อด้อยก็หาอ่านเอาได้ในเน็ตนะครับ ซึ่งก็อีกเช่นกันที่มีทั้งข้อดีและด้อย เรื่องนี้ ผมจะไม่ขอยุ่งนะฮ้าาา เพราะเราจะมาดูกันที่รุ่นปัจจุบัน กัน
แต่หลังจากครึ่งปีก่อนหน้านี้ มีข่าวแว่วๆว่า ยาริสจะมีรุ่นใหม่ออกมาทำให้สาวกโตโยต้า ฮือฮากันยกใหญ่ โดยเฉพาะแฟนๆยาริสเค้าแหละ ซึ่งโตโยต้า พยายามปิดข่าวนี้อย่างเงียบเชียบ แต่ก็ไม่เงียบจนเกินไปมีภาพหลุดออกมาเรื่อยๆ แต่ไม่มาก ตกลงปิดหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ ซึ่งภาพบางภาพก็ออกแบบโดยแฟนๆของยาริสผู้ซึ่งมีพลังอันเร้นลับแฝงอยู่ หึหึหึ จนกระทั้งมี ภาพคอนเซปคาร์ออกมาให้ชาวเน็ตได้ฮือ จนเป็นเสียงร่ำลือไปทั่ว แต่แท้จริงแล้วภาพนี้คือ ยาริส ไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้า ตื๊ดๆ และมีการคาดเดากันไปต่างๆนาๆ ต่อไป
และหลังจากนั้นอีกไม่นานนัก ก็ได้มีการเปิดตัว ยาริสที่ประเทศจีน ทำให้ทั่วโลกได้ยลโฉม ยาริสใหม่อย่างแท้จริง (ตอนนั้นก็แอบคิดว่า เห้อ หน้าตาตอนขายในไทยจะเป็นแบบนี้ไหม ซึ่งยาริสที่ขายในจีนนั้น มีชื่อเรียกว่า ยาริส L โดยที่ Toyota Yaris-L มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ความยาวตัวถัง 4,115 มม. ฐานล้อยาว 2,550 มม. ความกว้าง 1,700 มม. สูง 1,495 มม. ทำให้ภายในมีความกว้างขึ้น มีเนื้อที่ห้องสัมภาระถึง 326 ลิตร ในด้านของเครื่องยนต์เปิดตัวมา 2 รุ่นคือ 1.3 ลิตร และ 1.5 ลิตร ที่เคลมมาว่าแรงกว่าคู่แข่ง และ ประหยัดน้ำมันกว่าคู่แข่ง
และกาลเวลาต่อมาอีกไม่นานเช่นกันทำให้ โตโยต้า ไทยแลนด์แดนสาระ(ขัน) ตัดสินใจเปิดตัว นิวยาริสรุ่นใหม่ของประเทศ เย้ ในที่สุดก็มาซะที ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการนำรถออกวิ่งทดสอบในกรุงเทพเป็นที่เรียบร้อยและคงไม่รอดพ้นสายตาของสปายชอท ทำให้มีภาพหลุดออกมาเรื่อยๆ แต่บางคนถึงกับคิดไปเลยเถิด ต่างๆนาๆ เอาน่าก็เค้าเล่นปิดมาซะทึบขนาดนี้ ล่อแลฟมาทั้งคัน ฮ่าๆ พร้อมทั้งข่าวสารที่หลุดออกมาเรื่อยๆ แม้แต่ราคาขาย ที่เดากันไปต่างๆนาๆ
และเมื่อถึงเวลาอันสมควร โตโยต้า จึงได้ทำการเปิดตัว นิวโตต้ายาริส 2014 ในวันที่ 22 ต.ค. 2556 โอ๊ ผมเองก็เฝ้าติดตามอยู่ตลอดและตื่นเต้นกับการเปิดตัวของมันเพราะคิดว่าคงจะหลงรักไปแล้วเมื่อเห็นที่จีน ผลออกมาคือ ไม่ มันคือยาริสตัวที่ขายในจีน สวยงามมากมาย แต่เอ๊ะ เหมือนจะขาดอะไรไป อันดับแรก
สีรถ หายไปไหนสองสี เฮ้ยย สีเขียวกับ ฟ้าหายไปไหน อ่า???
ซันรูฟ หายไปไหนอ่า
แพนเดิ้ลชิฟ หายไปไหนอ่า
งง แต่คงเพราะเข้ามาขายในไทยเลยต้องทำการปรับการตลาดมั้ง และข่าวก็ออกมาจนได้ว่าเมื่อ ยาริสมาขายในไทยนั้นจะพยายามตีตั๋วเด็กน้อยให้มาในรูปแบบของ อีโค่คาร์ จึงได้ทำการยัดเครื่อง 3NR-FE / 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i มาให้พร้อมเอาอุปกรณ์ต่างๆออกเพื่อลดน้ำหนักและลดราคา ฮือๆๆ แต่ไม่เป็นไรภายนอกภายในก็ยังโอเคอยู่
แอบน้อยใจเพราะทีแรกคุยกับ ผบ ไว้ว่าจะเอาสีเขียวเพราะเป็นสีโปรดของ ผบ งานนี้มีงอล
และแล้วก็ถึงเวลาได้เทสไดรว์ เพราะคิดว่าหากถูกใจก็จะจองเลย และด้วยการแนะนำจากเพื่อนทำให้ได้รู้จักพี่เซลแห่งโตต้าเพิร์ล ภูเก็ต สาขาบายพาสนะครับ พี่เซลก็จัดการนัดวันมาเทสไดรเสร็จสัพ โอเคดี หลังจากผ่านเซลโตต้าแบบห่วยๆมา ซึ่งขอบอกว่า ใจไม่ถึงหลายคนเลย
และแล้ว วันเวลาก็มาถึง ผมและ ผบ เราไปโดยรถของเพื่อนโชคซึ่งจะไปเทสไดรกับเราด้วย รวมเป็น 3 คน ความจริงจะเอานักเลงไปต่อรองของแถมหากว่าต้องจอง อิอิ
นัดกัน 29/11/2556 13.00 แต่ดันช้าไป 13.30 เพราะฝนตก รถติด ไม่เป็นไร พี่เซลยังรอ ขับรถไปถึง จึงเข้าไปโชวรูมบอกว่ามาพบ บลาๆๆๆๆ แล้วก็ระหว่างรอ พาเพื่อนและ ผบ ดูรถยาริสรุ่น J ที่จดโชวร์อยู่บนโชวร์รูม สีฟ้า สวยนะสว่างดี ลองดู เปิดๆ ปิดๆ ของเค้าไปหมด เพื่อนโชคก็เริ่มติดใจ กว้างดีว่ะ งานประกอบโอเค คุ้มราคา ไปเรื่อย จนพี่เซลเดินออกมาพบ ทักทายกันพอสมควร แกก็เริ่มอธิบายถึงสินค้า ซึ่งจะไม่ขอเล่า มีอ่านและผมเองก็ศึกษามาพอสมควรแค่อยากจะเทสไดร เท่านั้น เพื่อที่อยากจะรู้การใช้งานจริงๆ ฟีลลิ่ลลิ่งของรถ และอื่นๆ
จนมาถึงช่วงเวลาสำคัญ เทสไดร นั่นคือจุดที่ต้องการจริงๆ ได้ครับๆเสียงตอบรับพร้อมหน้าตาสดชื่น “ผมเตรียมรถรุ่น G ให้ทดสอบแล้วครับ” เจ๋งมากๆ เดินออกมาพบกับยาริสสีขาวตัว G จอดอยู่พี่เซลบอกว่า รอลูกค้ามารับวันอาทิตย์ครับ วันนั้นวันศุกร์ และมารู้ทีหลังว่า รถคันนั้นคือรถของน้องบูม เจ้าของสโลแกน นอนจนเหนื่อย ต้องตื่นมาพักผ่อน นั่นเอง สวยเชียว แล้วเราก็ได้มาพบกับเทสไดร สีขาว ตัว G แปะด้านข้างของชัดเจน ว่า รถทดสอบ
เซลก็ถามหา ใบขับขี่ เพราะคิดว่าจะเทสกันสองคนกับเพื่อน เอาล่ะพร้อม ลุย เซลส่งกุญแจให้พร้อมอธิบายวิธีการขับ
โอเค พร้อม สำหรับคนที่ไปเทสได้ก็มี ผม เพื่อน โชค ผ.บ. และพี่เซล ซึ่งส่วนสูง แต่ละคนคือ 170+ ยกเว้นเพื่อนโชค 185 ไอ้สูง ชะลูดดด ตูดไม่มี ผมนั่งขับ คนแรก เพื่อนโชคนั่งข้าง ด้านหลังมี ผบ และพี่เซล เข้ามาบอกได้เลยว่าเงียบ เก็บเสียงภายนอกได้เกือบจะทั้งหมด ภายในกว้างขวาง ผมให้ เพื่อนโชคปรับเบาะให้มันนั่งสบายที่สุด ไม่ใช่นอนนะครับ นั่ง สบาย ด้านหลังบอกว่า ยังเหลืออีกเยอะ ปรับเต็มที่เลย ฮ่าๆ ส่วนผม แค่ 171 ไม่ต้องปรับอะไรมาก
ปิดประตู ผู้โดยสารพร้อม คาดเข็มขัดนิรภัย เหยียบเบรก กดพุชสตาร์ท อั๊ยย๊ะ เงียบจริงๆ แล้วก็เริ่มปรับโน่นนี่ นั่น เหมือนกันกับรถตัวเอง ลองหมุนพวงมาลัย เบาหวิว คือคำตอบเดียว แอร์ออโต้ สวยจริงแต่สำหรับบางคนก็ว่า ไม่ค่อยจำเป็น กดแค่ออโต้เท่านั้น มันก็ทำงานของมันเองมันเหมาะสำหรับ คนที่ขี้เกียจกดอะไรเยอะแยะมากมาย เอาล่ะ พร้อม ไป ปลดเบรกมือ เข้าเกียร์ D ค่อยไหลออกไปจากศูนย์ อยากบอกว่า เครื่องเล็กไม่ใช่ว่าไม่ไหลนะครับ รถไหลไปเรื่อยตามถนนเรียบภายในศูนย์ พอพ้นออกจากประตูศูนย์ ถนนราดยางพร้อมด้วยสภาพฝนปรอยๆ ทำให้ถนนลื่นปปรื๊ด ผมบอกพี่เซล ว่า “เอาเลยนะครับ” สิ้นเสียงผมเลยเหยียบเร่งรถออกไปสุดคันเร่ง เสียงครางจากเครื่อง มีเพียงเล็กน้อย พร้อมกับแรงกระชาก น้อยๆตามแบบ CVT แต่เหลือบไปเห็นหน้าปัดรถ เห้ย 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วง 0-40 นั้น ออกจะแนวอืดอยู่บ้างแต่ไม่แปลก ซึ่ง เค้าก็บอกว่าเช็ตมาเพื่อประหยัด ผมว่ามันก็โอเคนะ ไม่ได้อืดน่าเกลียด อะไร แต่พอเกิน 40 เท่านั้นแหละ รถจะพุ่งออกไป ราวกับสะดุดถุงทำให้สไลท์ไปด้านหน้า จึงกดต่อไป รถพุ่งนิด 120กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย พวงมาลัยหนักขึ้นตามความเร็ว แต่เนื่องจากปริมาณรถที่มากทำให้ต้องถอนคันเร่ง แต่ระหว่างนั้น ผมก็ได้เทสกับแซงซึ่งทำได้โอเคมาก มุดไปมุดมา บนถนนบาสพาสภูเก็ต พร้อมทั้งทดสอบระบบเบรก จับดี ชอบครับ และได้ทดสอบ โดยการดันเกียร์ไป โหมด S รอบเครื่องตวัดไปสูงกว่าปรกติ แรงดึงมา กดเร่งได้ดีกว่าเดิมแต่ต้องแลกมากับการไม่ประหยัดน้ำมัน และสุดท้ายของผม ทดสอบเปลี่ยนเลนกระทันหัน ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ดีครับรถมีอาการโยนเล็กน้อย(ปรกติ) อาการเสถียรสูงใช้ได้ และแล้วก็ได้ยินเสียงจากพี่เซล “คุณๆ เลยทางที่เราจะเลี้ยวแล้ว” อ้าว ไม่เป็นไรพี่เซลบอกขับต่อไปเลยครับ เลี้ยวข้างหน้าได้ ผมจอดตรงเซเว่น เปลี่ยนให้เพื่อนโชคมาขับบ้าง ก็เลยมีโอกาสได้แงะ แกะ เกา เล่น เปิดบังแดดหน้าคนหนั่ง พบกับที่เสียบบัตรพร้อมกระจก ถูกอกถูกใจ ผ.บ. มาก (เอาไว้แต่งหน้า) มีสองข้างนะครับ
หลังจากเพื่อนโชคปรับอะไรเข้าที่ ก็ออกเดินทางกลับศูนย์ โดยเส้นทางสาย หมู่บ้านศรีสุชาติ จะเป็น หนอนดัก ขนาด เบ้อเริ่ม จากนั้นเป็นโค้งและเนิน ถนนสวนเลน เริ่มต้น ทดสอบการขึ้น หนอนดักขนาดเบ้อเริ่ม ดีครับรถให้ความหนืดนิ่ม ไม่กระด้างมากไปแต่ก็แอบแข็งนิดหน่อยให้กระเทือนกันบ้าง หลังจากนั้นเพื่อนโชคเริ่มต้นด้วยอัตราเร่ง การเข้าโค้ง การเร่งแซง “เฮ้ย ได้อยู่ๆ ฟิลลิ่ง ดีกว่า แจ๊ส ว่ะ แน่นๆ พวงมาลัยคมดี ” นั่นคือคำตอบจากเพื่อนโชค หลังจากเล่นเกียร์อยู่สักพัก การเข้าโค้งออกอาการโยนนิดๆ แต่ก็ไม่ยวบเกินไป คิดว่าทางโตต้าเซ็ตมาพอเหมาะและบวกกับนั่งมากัน 4 คน ก็ยังโอเค อาการรถคือนุ่มย้วยแต่ไม่มาก พอดีๆ แบบนั่งสบายมั่นใจยามเร็ว สักพักเราเจอกับรถสองคันที่อยู่หน้าเราเราได้เร่งแซงโดย เกียร์อยู่ที่ D และความเร็วตั้งต้น 60 กิโลเมตร หักขวาดูรถแล้วไม่มีเร่งแซงไปเลย รถพุ่งไปด้านหน้าโดยผมแอบลุ้นว่ามันจะพ้นไหมเพราะ กระบะ และหกล้อ ก็ยาวมากเหมือนกัน พ้นครับ นับ 123 ก็พ้นแล้ว เจ๋งนะไม่เห็นอืดๆเหมือนเขาว่าเลย
หลังจากแซงมาแล้วเราก็มาถึงสามแยก เพื่อที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าศูนย์ บายพาส ระหว่างนั้น ก็มีแท๊กซี่ อัลติส จอดรอเพื่อที่จะตรงไป พร้อมกับฟอร์ดเพียสต้ากำลังเลี้ยวเข้ามา เราเลยจอดรอ เพื่อที่จะออกเลี้ยวซ้าย ข้างอัลติส
มาถึงตอนนี้แหละครับ นี่สุดยอดแห่งการเทสไดร ที่ เซล ศูนย์ ไม่อยากจะเจอ แม้แต่พวกเราเอง
เราอยู่ในรถได้ยินเสียงดัง ตุ๊บบบบบ+จุ๊บบบบบ พร้อมกับภาพคนเสื้อส้ม ปลิวลอยละลิ่วไปตกฝั่งซ้ายของรถเลยไปประมาณ 5 เมตรด้วยสภาพที่คิดว่าเสียชีวิตแน่ๆ แน่นิ่งไปซะขนาดนั้น เว้ยย
มอเตอร์ไซค์มาจากไหนไม่ทราบ เสยหน้า เฟียสต้า ต่อด้วยอัลติส และมาจบที่พวกเรา
พวกเราอึ้ง สตั้นกันอยู่ ประมาณ 15 วินาที แล้วก็ลงรถมาดู คนและรถ สรุปมอไซค์ ชนเข้ากับแก้มของรถ หันไปดูคนเสื้อส้มนอนอยู่และหลังจากนั้นก็ฟื้นขึ้นมาส่วนอีกคนนอนข้างรถ ลืมตาอยู่แต่ไม่ตายพูดได้
หลังจากนั้นคนก็เริ่มมามุงและช่วยกันมากขึ้น เราจึงมีเวลาเดินมาดูความเสียหายของรถ พร้อมทั้งคุยกับพี่เซลว่า “ผมขอโทษครับ “ พี่เซลตอบ “ไม่เป็นไรครับ มันเป็นอุบัติเหตุ “ พร้อมรอยยิ้มเหมือนเดิม
หลังจากจัดการโทรเรียกประกันเรียบร้อย ก็มาดูรถ ผลคือ แก้มข้างด้านขวา บุบเข้าไปตามภาพ กระจกเสียหายและแตกแต่ไม่ขาด โคมไฟหน้าไม่เป็นอะไรเลย ทนจริงๆ
แต่ต้องขอยอมรับการเก็บเสียงของรถและโครงสร้างแบบซัพแรงกระแทก ที่ทำให้เราได้ยินเสียงเพียงเล็กน้อย และรถไม่สะดุ้งสะเทือนสักนิด และคงเพราะระบบซัพแรงกระแทกที่ทำให้ คนขับมอเตอร์ไซค์ไม่บาดเจ็บเยอะ คิดว่าถ้าเป็นเสาไฟข้างๆก็คงจะเจ็บเยอะมากกว่านื้เป็นแน่
พี่เซลถึงกับบอกว่า พวกเราเป็นลูกค้ารายแรกที่พารถเทสไดรมาโดนชน เซอไพร้มาก และบอกอีกว่าตั้งแต่เป็นเซลมานี่ก็ครั้งแรก ฮ่าๆๆ
หลังจากพวกเรา รอ รถพยาบาลมารับคนเจ็บ ประกันมาเคลมและตำรวจมา ก็เลยเถิดเข้าไปเกือบ สามสิบนาที จนพี่เซลแซวว่า นี่ก็เป็นการเทสไดรที่นานที่สุดเลยครับ ฮ่าๆๆ
[CR] สุดยอดการเทสไดรว์ Yaris Eco G
เข้าเรื่องดีกว่า
เมื่อคนพูดถึงโตโยต้ายาริส ที่มีมาคนจะนึกถึงรถอะไรจะกลมก็ไม่กลมกระปุ๊กลุ๊ก บางท่านถึงกับบอกว่า รถหน้าตาอุบาทท์ ก็แล้วแต่คนชอบใช่ไหมล่ะ? แต่สำหรับผมนั้นเฉยๆครับ เพราะ มันก็คือ Vios เวอร์ชั่น 5 ประตู (ไม่รู้จะเปลี่ยนชื่อให้เยอะแยะมากมายทำไม) ซึ่งยอดขายก็ได้ไปไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับยาริสรุ่นก่อนหน้านี้ ส่วนขอดีข้อด้อยก็หาอ่านเอาได้ในเน็ตนะครับ ซึ่งก็อีกเช่นกันที่มีทั้งข้อดีและด้อย เรื่องนี้ ผมจะไม่ขอยุ่งนะฮ้าาา เพราะเราจะมาดูกันที่รุ่นปัจจุบัน กัน
แต่หลังจากครึ่งปีก่อนหน้านี้ มีข่าวแว่วๆว่า ยาริสจะมีรุ่นใหม่ออกมาทำให้สาวกโตโยต้า ฮือฮากันยกใหญ่ โดยเฉพาะแฟนๆยาริสเค้าแหละ ซึ่งโตโยต้า พยายามปิดข่าวนี้อย่างเงียบเชียบ แต่ก็ไม่เงียบจนเกินไปมีภาพหลุดออกมาเรื่อยๆ แต่ไม่มาก ตกลงปิดหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ ซึ่งภาพบางภาพก็ออกแบบโดยแฟนๆของยาริสผู้ซึ่งมีพลังอันเร้นลับแฝงอยู่ หึหึหึ จนกระทั้งมี ภาพคอนเซปคาร์ออกมาให้ชาวเน็ตได้ฮือ จนเป็นเสียงร่ำลือไปทั่ว แต่แท้จริงแล้วภาพนี้คือ ยาริส ไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้า ตื๊ดๆ และมีการคาดเดากันไปต่างๆนาๆ ต่อไป
และหลังจากนั้นอีกไม่นานนัก ก็ได้มีการเปิดตัว ยาริสที่ประเทศจีน ทำให้ทั่วโลกได้ยลโฉม ยาริสใหม่อย่างแท้จริง (ตอนนั้นก็แอบคิดว่า เห้อ หน้าตาตอนขายในไทยจะเป็นแบบนี้ไหม ซึ่งยาริสที่ขายในจีนนั้น มีชื่อเรียกว่า ยาริส L โดยที่ Toyota Yaris-L มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ความยาวตัวถัง 4,115 มม. ฐานล้อยาว 2,550 มม. ความกว้าง 1,700 มม. สูง 1,495 มม. ทำให้ภายในมีความกว้างขึ้น มีเนื้อที่ห้องสัมภาระถึง 326 ลิตร ในด้านของเครื่องยนต์เปิดตัวมา 2 รุ่นคือ 1.3 ลิตร และ 1.5 ลิตร ที่เคลมมาว่าแรงกว่าคู่แข่ง และ ประหยัดน้ำมันกว่าคู่แข่ง
และกาลเวลาต่อมาอีกไม่นานเช่นกันทำให้ โตโยต้า ไทยแลนด์แดนสาระ(ขัน) ตัดสินใจเปิดตัว นิวยาริสรุ่นใหม่ของประเทศ เย้ ในที่สุดก็มาซะที ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการนำรถออกวิ่งทดสอบในกรุงเทพเป็นที่เรียบร้อยและคงไม่รอดพ้นสายตาของสปายชอท ทำให้มีภาพหลุดออกมาเรื่อยๆ แต่บางคนถึงกับคิดไปเลยเถิด ต่างๆนาๆ เอาน่าก็เค้าเล่นปิดมาซะทึบขนาดนี้ ล่อแลฟมาทั้งคัน ฮ่าๆ พร้อมทั้งข่าวสารที่หลุดออกมาเรื่อยๆ แม้แต่ราคาขาย ที่เดากันไปต่างๆนาๆ
และเมื่อถึงเวลาอันสมควร โตโยต้า จึงได้ทำการเปิดตัว นิวโตต้ายาริส 2014 ในวันที่ 22 ต.ค. 2556 โอ๊ ผมเองก็เฝ้าติดตามอยู่ตลอดและตื่นเต้นกับการเปิดตัวของมันเพราะคิดว่าคงจะหลงรักไปแล้วเมื่อเห็นที่จีน ผลออกมาคือ ไม่ มันคือยาริสตัวที่ขายในจีน สวยงามมากมาย แต่เอ๊ะ เหมือนจะขาดอะไรไป อันดับแรก
สีรถ หายไปไหนสองสี เฮ้ยย สีเขียวกับ ฟ้าหายไปไหน อ่า???
ซันรูฟ หายไปไหนอ่า
แพนเดิ้ลชิฟ หายไปไหนอ่า
งง แต่คงเพราะเข้ามาขายในไทยเลยต้องทำการปรับการตลาดมั้ง และข่าวก็ออกมาจนได้ว่าเมื่อ ยาริสมาขายในไทยนั้นจะพยายามตีตั๋วเด็กน้อยให้มาในรูปแบบของ อีโค่คาร์ จึงได้ทำการยัดเครื่อง 3NR-FE / 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i มาให้พร้อมเอาอุปกรณ์ต่างๆออกเพื่อลดน้ำหนักและลดราคา ฮือๆๆ แต่ไม่เป็นไรภายนอกภายในก็ยังโอเคอยู่
แอบน้อยใจเพราะทีแรกคุยกับ ผบ ไว้ว่าจะเอาสีเขียวเพราะเป็นสีโปรดของ ผบ งานนี้มีงอล
และแล้วก็ถึงเวลาได้เทสไดรว์ เพราะคิดว่าหากถูกใจก็จะจองเลย และด้วยการแนะนำจากเพื่อนทำให้ได้รู้จักพี่เซลแห่งโตต้าเพิร์ล ภูเก็ต สาขาบายพาสนะครับ พี่เซลก็จัดการนัดวันมาเทสไดรเสร็จสัพ โอเคดี หลังจากผ่านเซลโตต้าแบบห่วยๆมา ซึ่งขอบอกว่า ใจไม่ถึงหลายคนเลย
และแล้ว วันเวลาก็มาถึง ผมและ ผบ เราไปโดยรถของเพื่อนโชคซึ่งจะไปเทสไดรกับเราด้วย รวมเป็น 3 คน ความจริงจะเอานักเลงไปต่อรองของแถมหากว่าต้องจอง อิอิ
นัดกัน 29/11/2556 13.00 แต่ดันช้าไป 13.30 เพราะฝนตก รถติด ไม่เป็นไร พี่เซลยังรอ ขับรถไปถึง จึงเข้าไปโชวรูมบอกว่ามาพบ บลาๆๆๆๆ แล้วก็ระหว่างรอ พาเพื่อนและ ผบ ดูรถยาริสรุ่น J ที่จดโชวร์อยู่บนโชวร์รูม สีฟ้า สวยนะสว่างดี ลองดู เปิดๆ ปิดๆ ของเค้าไปหมด เพื่อนโชคก็เริ่มติดใจ กว้างดีว่ะ งานประกอบโอเค คุ้มราคา ไปเรื่อย จนพี่เซลเดินออกมาพบ ทักทายกันพอสมควร แกก็เริ่มอธิบายถึงสินค้า ซึ่งจะไม่ขอเล่า มีอ่านและผมเองก็ศึกษามาพอสมควรแค่อยากจะเทสไดร เท่านั้น เพื่อที่อยากจะรู้การใช้งานจริงๆ ฟีลลิ่ลลิ่งของรถ และอื่นๆ
จนมาถึงช่วงเวลาสำคัญ เทสไดร นั่นคือจุดที่ต้องการจริงๆ ได้ครับๆเสียงตอบรับพร้อมหน้าตาสดชื่น “ผมเตรียมรถรุ่น G ให้ทดสอบแล้วครับ” เจ๋งมากๆ เดินออกมาพบกับยาริสสีขาวตัว G จอดอยู่พี่เซลบอกว่า รอลูกค้ามารับวันอาทิตย์ครับ วันนั้นวันศุกร์ และมารู้ทีหลังว่า รถคันนั้นคือรถของน้องบูม เจ้าของสโลแกน นอนจนเหนื่อย ต้องตื่นมาพักผ่อน นั่นเอง สวยเชียว แล้วเราก็ได้มาพบกับเทสไดร สีขาว ตัว G แปะด้านข้างของชัดเจน ว่า รถทดสอบ
เซลก็ถามหา ใบขับขี่ เพราะคิดว่าจะเทสกันสองคนกับเพื่อน เอาล่ะพร้อม ลุย เซลส่งกุญแจให้พร้อมอธิบายวิธีการขับ
โอเค พร้อม สำหรับคนที่ไปเทสได้ก็มี ผม เพื่อน โชค ผ.บ. และพี่เซล ซึ่งส่วนสูง แต่ละคนคือ 170+ ยกเว้นเพื่อนโชค 185 ไอ้สูง ชะลูดดด ตูดไม่มี ผมนั่งขับ คนแรก เพื่อนโชคนั่งข้าง ด้านหลังมี ผบ และพี่เซล เข้ามาบอกได้เลยว่าเงียบ เก็บเสียงภายนอกได้เกือบจะทั้งหมด ภายในกว้างขวาง ผมให้ เพื่อนโชคปรับเบาะให้มันนั่งสบายที่สุด ไม่ใช่นอนนะครับ นั่ง สบาย ด้านหลังบอกว่า ยังเหลืออีกเยอะ ปรับเต็มที่เลย ฮ่าๆ ส่วนผม แค่ 171 ไม่ต้องปรับอะไรมาก
ปิดประตู ผู้โดยสารพร้อม คาดเข็มขัดนิรภัย เหยียบเบรก กดพุชสตาร์ท อั๊ยย๊ะ เงียบจริงๆ แล้วก็เริ่มปรับโน่นนี่ นั่น เหมือนกันกับรถตัวเอง ลองหมุนพวงมาลัย เบาหวิว คือคำตอบเดียว แอร์ออโต้ สวยจริงแต่สำหรับบางคนก็ว่า ไม่ค่อยจำเป็น กดแค่ออโต้เท่านั้น มันก็ทำงานของมันเองมันเหมาะสำหรับ คนที่ขี้เกียจกดอะไรเยอะแยะมากมาย เอาล่ะ พร้อม ไป ปลดเบรกมือ เข้าเกียร์ D ค่อยไหลออกไปจากศูนย์ อยากบอกว่า เครื่องเล็กไม่ใช่ว่าไม่ไหลนะครับ รถไหลไปเรื่อยตามถนนเรียบภายในศูนย์ พอพ้นออกจากประตูศูนย์ ถนนราดยางพร้อมด้วยสภาพฝนปรอยๆ ทำให้ถนนลื่นปปรื๊ด ผมบอกพี่เซล ว่า “เอาเลยนะครับ” สิ้นเสียงผมเลยเหยียบเร่งรถออกไปสุดคันเร่ง เสียงครางจากเครื่อง มีเพียงเล็กน้อย พร้อมกับแรงกระชาก น้อยๆตามแบบ CVT แต่เหลือบไปเห็นหน้าปัดรถ เห้ย 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วง 0-40 นั้น ออกจะแนวอืดอยู่บ้างแต่ไม่แปลก ซึ่ง เค้าก็บอกว่าเช็ตมาเพื่อประหยัด ผมว่ามันก็โอเคนะ ไม่ได้อืดน่าเกลียด อะไร แต่พอเกิน 40 เท่านั้นแหละ รถจะพุ่งออกไป ราวกับสะดุดถุงทำให้สไลท์ไปด้านหน้า จึงกดต่อไป รถพุ่งนิด 120กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย พวงมาลัยหนักขึ้นตามความเร็ว แต่เนื่องจากปริมาณรถที่มากทำให้ต้องถอนคันเร่ง แต่ระหว่างนั้น ผมก็ได้เทสกับแซงซึ่งทำได้โอเคมาก มุดไปมุดมา บนถนนบาสพาสภูเก็ต พร้อมทั้งทดสอบระบบเบรก จับดี ชอบครับ และได้ทดสอบ โดยการดันเกียร์ไป โหมด S รอบเครื่องตวัดไปสูงกว่าปรกติ แรงดึงมา กดเร่งได้ดีกว่าเดิมแต่ต้องแลกมากับการไม่ประหยัดน้ำมัน และสุดท้ายของผม ทดสอบเปลี่ยนเลนกระทันหัน ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ดีครับรถมีอาการโยนเล็กน้อย(ปรกติ) อาการเสถียรสูงใช้ได้ และแล้วก็ได้ยินเสียงจากพี่เซล “คุณๆ เลยทางที่เราจะเลี้ยวแล้ว” อ้าว ไม่เป็นไรพี่เซลบอกขับต่อไปเลยครับ เลี้ยวข้างหน้าได้ ผมจอดตรงเซเว่น เปลี่ยนให้เพื่อนโชคมาขับบ้าง ก็เลยมีโอกาสได้แงะ แกะ เกา เล่น เปิดบังแดดหน้าคนหนั่ง พบกับที่เสียบบัตรพร้อมกระจก ถูกอกถูกใจ ผ.บ. มาก (เอาไว้แต่งหน้า) มีสองข้างนะครับ
หลังจากเพื่อนโชคปรับอะไรเข้าที่ ก็ออกเดินทางกลับศูนย์ โดยเส้นทางสาย หมู่บ้านศรีสุชาติ จะเป็น หนอนดัก ขนาด เบ้อเริ่ม จากนั้นเป็นโค้งและเนิน ถนนสวนเลน เริ่มต้น ทดสอบการขึ้น หนอนดักขนาดเบ้อเริ่ม ดีครับรถให้ความหนืดนิ่ม ไม่กระด้างมากไปแต่ก็แอบแข็งนิดหน่อยให้กระเทือนกันบ้าง หลังจากนั้นเพื่อนโชคเริ่มต้นด้วยอัตราเร่ง การเข้าโค้ง การเร่งแซง “เฮ้ย ได้อยู่ๆ ฟิลลิ่ง ดีกว่า แจ๊ส ว่ะ แน่นๆ พวงมาลัยคมดี ” นั่นคือคำตอบจากเพื่อนโชค หลังจากเล่นเกียร์อยู่สักพัก การเข้าโค้งออกอาการโยนนิดๆ แต่ก็ไม่ยวบเกินไป คิดว่าทางโตต้าเซ็ตมาพอเหมาะและบวกกับนั่งมากัน 4 คน ก็ยังโอเค อาการรถคือนุ่มย้วยแต่ไม่มาก พอดีๆ แบบนั่งสบายมั่นใจยามเร็ว สักพักเราเจอกับรถสองคันที่อยู่หน้าเราเราได้เร่งแซงโดย เกียร์อยู่ที่ D และความเร็วตั้งต้น 60 กิโลเมตร หักขวาดูรถแล้วไม่มีเร่งแซงไปเลย รถพุ่งไปด้านหน้าโดยผมแอบลุ้นว่ามันจะพ้นไหมเพราะ กระบะ และหกล้อ ก็ยาวมากเหมือนกัน พ้นครับ นับ 123 ก็พ้นแล้ว เจ๋งนะไม่เห็นอืดๆเหมือนเขาว่าเลย
หลังจากแซงมาแล้วเราก็มาถึงสามแยก เพื่อที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าศูนย์ บายพาส ระหว่างนั้น ก็มีแท๊กซี่ อัลติส จอดรอเพื่อที่จะตรงไป พร้อมกับฟอร์ดเพียสต้ากำลังเลี้ยวเข้ามา เราเลยจอดรอ เพื่อที่จะออกเลี้ยวซ้าย ข้างอัลติส
มาถึงตอนนี้แหละครับ นี่สุดยอดแห่งการเทสไดร ที่ เซล ศูนย์ ไม่อยากจะเจอ แม้แต่พวกเราเอง
เราอยู่ในรถได้ยินเสียงดัง ตุ๊บบบบบ+จุ๊บบบบบ พร้อมกับภาพคนเสื้อส้ม ปลิวลอยละลิ่วไปตกฝั่งซ้ายของรถเลยไปประมาณ 5 เมตรด้วยสภาพที่คิดว่าเสียชีวิตแน่ๆ แน่นิ่งไปซะขนาดนั้น เว้ยย
มอเตอร์ไซค์มาจากไหนไม่ทราบ เสยหน้า เฟียสต้า ต่อด้วยอัลติส และมาจบที่พวกเรา
พวกเราอึ้ง สตั้นกันอยู่ ประมาณ 15 วินาที แล้วก็ลงรถมาดู คนและรถ สรุปมอไซค์ ชนเข้ากับแก้มของรถ หันไปดูคนเสื้อส้มนอนอยู่และหลังจากนั้นก็ฟื้นขึ้นมาส่วนอีกคนนอนข้างรถ ลืมตาอยู่แต่ไม่ตายพูดได้
หลังจากนั้นคนก็เริ่มมามุงและช่วยกันมากขึ้น เราจึงมีเวลาเดินมาดูความเสียหายของรถ พร้อมทั้งคุยกับพี่เซลว่า “ผมขอโทษครับ “ พี่เซลตอบ “ไม่เป็นไรครับ มันเป็นอุบัติเหตุ “ พร้อมรอยยิ้มเหมือนเดิม
หลังจากจัดการโทรเรียกประกันเรียบร้อย ก็มาดูรถ ผลคือ แก้มข้างด้านขวา บุบเข้าไปตามภาพ กระจกเสียหายและแตกแต่ไม่ขาด โคมไฟหน้าไม่เป็นอะไรเลย ทนจริงๆ
แต่ต้องขอยอมรับการเก็บเสียงของรถและโครงสร้างแบบซัพแรงกระแทก ที่ทำให้เราได้ยินเสียงเพียงเล็กน้อย และรถไม่สะดุ้งสะเทือนสักนิด และคงเพราะระบบซัพแรงกระแทกที่ทำให้ คนขับมอเตอร์ไซค์ไม่บาดเจ็บเยอะ คิดว่าถ้าเป็นเสาไฟข้างๆก็คงจะเจ็บเยอะมากกว่านื้เป็นแน่
พี่เซลถึงกับบอกว่า พวกเราเป็นลูกค้ารายแรกที่พารถเทสไดรมาโดนชน เซอไพร้มาก และบอกอีกว่าตั้งแต่เป็นเซลมานี่ก็ครั้งแรก ฮ่าๆๆ
หลังจากพวกเรา รอ รถพยาบาลมารับคนเจ็บ ประกันมาเคลมและตำรวจมา ก็เลยเถิดเข้าไปเกือบ สามสิบนาที จนพี่เซลแซวว่า นี่ก็เป็นการเทสไดรที่นานที่สุดเลยครับ ฮ่าๆๆ