โอ้ว นี่จะเป็นครั้งแรกที่มาเขียนค่ะ
มาเล่าประสบการณ์หลังดูหนังและเล่าเรื่องผู้อยู่เบื้องหลัง
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวทั้งหมดนะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะไม่ตรงกับความคิดเห็นกับทุกท่านทั้งหมดได้
คำเตือน ยาวนะคะ ฮาา
พอดีจขกทอยู่ที่อเมริกาเลยมีโอกาสได้ดู Frozen ก่อน...
ที่อเมริกานี้โปรโมทแรงพอควรเลย เพราะเปิดตัวฉายตอนรับเทศการขอบคุณพระเจ้าของที่นี้พอดี
อยากจะดึงกลุ่มเด็กและหนังครอบครัว แต่ดั๊นชนกับอาทิตย์ที่สองของ Catching Fires ที่กระแสแรงมว๊ากกกก
เพราะฉะนั้นก็ต้องรอดูต่อไป คงสู้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่จขกทก็อยากมาชวนให้ไปดูกันค่ะ

เทรลเลอร์ค่ะ
เรื่อง Frozen ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง The Snow Queen ของ ฮานส์ คริสเตียน แอนเดอสัน ค่ะ
แต่พอดูแล้วเนื้อเรื่องก็ไม่เหมือนซะเท่าไรเลยนะคะ ถ้าไม่บอกก็คงไม่ได้นึกถึง (เอ๊ะ หรือเพราะเราไม่คุ้นอยู่แล้ว)
เนื้อเรื่องย่อ
เมื่ออาณาจักรทั้งอาณาจักรต้องตกอยู่ในความหนาวเย็นโดยเจ้าหญิงแอลซ่า
เจ้าหญิงอันนาผู้น้องจึงร่วมมือกับคริสทอฟและกวางเรนเดียร์คู่หูออกเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ตามหาเจ้าหญิงแอลซ่าเพื่อยุติความหนาวเย็นที่ปกคลุมอาณาจักรไป
ตัวหนังทำออกมาภาพสวย แอนนิเมชั่นทำได้ดี สอดแทรกอารมณ์ขันอย่างต่อเนื่อง
ฉากบีบคั้นก็เป็นแบบเด็กรับได้ (ไม่หนักเกินไป ฮาๆ) เจ้าตุ๊กตาหิมะก็ขโมยซีนมากๆ
ดูจบแล้วมันอบอุ่นค่ะ ออกมาจากโรงแล้วมันรู้สึกดี
กลับบ้านมารีบมาเขียนอย่างเร็ว อยากเชียร์ให้ทุกคนได้ไปดูกันค่ะ
ถ้าใครอยากอ่านสปอยล์แบบเบาๆจะอยู่ล่างสุดค่ะ
ขออนุญาตไม่เขียนเกี่ยวกับตัวเนื้อเรื่องเยอะนะคะ กลัวว่าจะสปอยล์
ขอมาเน้นทางทีมผู้สร้าง คนพากย์และผู้แต่งเนื้อร้องแล้วกันนะคะ
ทีมนี้จขกทแฟนอยู่เป็นส่วนตัวบางท่านอยู่แล้วเลยขอมาอวยหน่อย แหะๆ
**อารมณ์ของ Frozen ก็จะคล้าย Tangled นะคะ (อาจจะเพราะผู้สร้างทีมเดียวกัน)
จขกทขอออกตัวก่อนว่าหลงใหลสไตล์ดิสนีย์สมัยยุค90 ยุคทองที่ใช้แต่นักร้องบรอดเวย์ร้องมาก
ดังนั้นตอนที่แมนดี้ มัวร์พากย์ทั้งเสียงและเสียงร้องให้กับ Tangled แอบเสียดาย
ความคลาสสิคมันหายไปนิ๊ดส์ ยังร้องออกเป็นแมนดี้มากๆ คือเหมือนร้องแบบมีลมเยอะๆ
จขกทก็อธิบายไม่ถูกด้วยความไม่รู้ทักษะการร้องเพลงเลย อาศัยตัวเองฟังชอบไม่ชอบเท่านั้น
ต้องขอโทษถ้าความคิดเห็นไม่ตรงกับผู้อื่น
แมนดี้ มัวร์ สำหรับจขกทถือว่าทำได้พอตัวไม่เยี่ยมเมื่อเทียบกับคนพากย์เสียงร้องเจ้าหญิงดิสนีย์คนก่อนๆ
จขกทชอบแบบเดิมมากกว่าแต่ก็เข้าใจว่าทางสตูดิโอคงอยากจะตีออกมาจากกรอบให้กับราพันเซล
จะได้ดูสมัยใหม่ขึ้นรึเปล่า?
เกร็ดเล็กน้อย
สมัยก่อนที่ดิสนีย์จะให้คนมาพากย์เนี่ยก็ไม่ได้เอาใครไก่กามาพากย์เสียงร้องนะคะ
ตัวอย่างเสียงร้องเจ้าหญิงในโลกดิสนีย์ ส่วนมากก็มีชื่อเสียงมากๆ ถึงพอตัวเลยในโลกของบรอดเวย์นะคะ
- ลีอา ซาลองก้า มาไทยแล้วหลายครั้ง ดังในโลกของบรอดเวย์มาก เปิดตัวตั้งแต่เด็กจากเรื่องมิสไซ่ง่อน
และเธอให้เสียงร้องแก่เจ้าหญิงแจสมินและมู่หลานค่ะ
- จูดี้ คุณ ให้เสียงร้องโพคาฮอนทัส ก็ใช้ชีวิตอยู่ในโลกบรอดเวย์มาตลอด
เคยได้รับการเสนอชื่อโทนีอวอร์ดด้วย ดังมากๆเช่นกัน ตอนสาวๆเคยเล่นใน Les Miserable เป็นโคเซทต์
พออายุมากขึ้นก็กลับมาเล่นอีกทีเป็นฟอนทีนค่ะ
- โจดี้ เบนสัน ผู้ที่รับหน้าที่ร้องเพลงของเอเรียล ใน The Little Mermaid ก็ผ่านบรอดเวย์มาเช่นกันค่ะ แต่ไม่ได้มีชื่อเสียงมาก
พอแค่นี้ก่อนดีกว่าค่ะเดี๋ยวไม่จบ ฮ่าๆ
ทีมพากย์

Kristen Bell (พากย์เสียงอันนา) – ดังมาจากทีวีซีรีย์เวรอนิก้า มาร์สค่ะ เรื่องนี้พากย์ได้น่ารักมาก
ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอจะร้องเพลงได้! ร้องเพราะมากๆด้วยค่ะ
รู้สึกเสียงมันเปล่งได้ใสและร้องออกแนวสไตล์บรอดเวย์
ถึงแม้พลังจะเทียบกับนักร้องบรอดเวย์ไม่ได้เต็มร้อยแต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวหนังติดขัดเลย
กลับน่ารักมากๆ เพิ่มเสน่ห์ให้ตัว อันนา ได้อย่างดีเลยค่ะ ปลื้มมมม
*ตัวละครทำให้นึกถึงราพันเซลใน Tangled

Idina Menzel (พากย์เป็นแอลซ่า) - คนที่ตามบรอดเวย์บ้าง คงจะต้องเคยได้ยินชื่อเธออย่างแน่นอน
เล่นบรอดเวย์หลายเรื่องแต่ดังสุดๆจากเรื่อง Wicked ค่ะ เพลงที่ดังสุดๆคือเพลง Defying Gravity
เอาเป็นว่าถ้าพูดถึง Wicked ทุกคนต้องนึกถึง Defying Gravity
และบางคนอาจจะจำเธอได้จาก Glee
เพราะฉะนั้นการันตีแน่นอนว่าเพลงที่ร้อง เธอฮิตโน้ตได้ทุกเม็ด เพลงโชว์พาวอย่าง Let it go ก็โชว์พาวจริงๆ
ดูหนังไปขนลุกไป ถ่ายทอดอารมณ์ได้สุดยอดมากๆค่ะ

Jonathan Groff (พากย์เป็นคริสทอฟ) - เล่นทีวีซีรีย์อยู่พอสมควรเลยค่ะ
จขกทเคยเห็นครั้งแรกใน Glee มาพากย์นี้ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง เสียดายที่ร้องน้อยไปหน่อยค่ะ
Josh Gad (พากย์เป็นโอลาฟ เจ้าตุ๊กตาหิมะค่ะ) - เล่นทีวีซีรีย์เช่นกันค่ะ
แต่บทที่ทำให้จขกทจำได้คือเล่นบทนำบรอดเวย์เรื่อง The Book of Mormon ค่ะ

Santino Fontana (พากย์เป็นฮานส์) – อยู่ในวงการบรอดเวย์ค่ะ ขณะนี้เล่นเป็นเจ้าชายในเรื่องซินเดอเรลล่าภาคละครเพลงที่บรอดเวย์อยู่
ทีมผู้กำกับและเขียนบท
ผู้กับกับคริส บัคและเจนนิเฟอร์ ลีรับหน้าที่เขียนบทด้วย ผลงานเก่าคือ Tarzan, Wreck it Ralph
เพราะฉะนั้นรับประกันได้เลยเนื้อเรื่องดีค่ะ มีหักมุมเล็กน้อย
อารมณ์หนังและบทพูดลื่นไหลไม่มีขัดกันเลยค่ะ ฉากขำ ฉากซึ้ง ทำได้ดีผ่านหมดค่ะ
ผู้แต่งสกอร์และแต่งแพลง
ถ้าไม่พูดถึงคงไม่ได้เพราะถ้าพูดถึงดิสนีย์ เพลงจะเป็นส่วนหนึ่งของหนังเสมอ
และสำหรับตัวจขกทเองถ้านึกถึงเพลงของดิสนีย์ก็จะนึกถึงอลัน เมนเคนอยู่เสมอ
*อลัน เมนเคนแต่งสกอร์เพลง Little Mermaid, Beauty and the beast, Aladdin, Pocahontus และอื่นๆ
คือตัวพ่อจริงๆของดิสนีย์
เรื่อง Frozen นี้อลัน เมนเคนไม่ได้มีส่วนร่วมเลยก่อนไปดูเลยกังขานิดหน่อย
พอได้มาดูจริงผู้แต่งสกอร์คริสทอฟ เบคก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง
แต่จขกทไม่ได้ติดตามเป็นการส่วนตัวเลยไม่อยากเขียนถึงข้อมูลไม่แน่นค่ะแต่ให้ผ่านค่ะ
ส่วนผู้แต่งเพลงคือโรเบิร์ท โลเปซและภรรยาค่ะ
จขกทติดตามผลงานอยู่เลยขอมาอวย
เวลาคนพูดถึงผู้แต่งเพลงและเนื้อร้องบรอดเวย์ดังๆก็มีอยู่เช่น แอนดรูว ลอยด์ เวปเบอร์
สตีเฟ่น ซอนด์ไฮม์ โรเจอร์ แฮมเมอร์สไตน์ และอีกมากมาย
ท่านเล่านี้คือเรียกว่าเป็นตำนาน เพลงที่แต่งโดนนำมาร้องแล้วร้องอีก
แล้วอีตาโรเบิร์ท โลเปซนี้เป็นใคร
โรเบิร์ท โลเปซเนี่ยได้ไปร่วมกับทีมผู้สร้างเซาท์ปาร์ค (การ์ตูนผู้ใหญ่ของอเมริกา - ไม่ใช่การ์ตูนผู้ใหญ่แบบญี่ปุ่นนะคะ อิอิ)
ทำละครเพลงบรอดเวย์ออกมาสองเรื่องคือ Avenue Q กับ The Book of Mormon ได้แกรมมี่และโทนีอวอร์ดด้วยค่ะ
ถือได้ว่าโรเบิร์ท โลเปซเนี่ยเป็นผู้แต่งเพลงลูกใหม่ก็ได้ค่ะ
Avenue Q ได้โทนี Best Musical ปี 2004 เล่นที่ Off-broadway (คือละครที่ไม่ได้เล่นใน Broadway District จะเรียกเป็นโชว์ Off-broadway)

ส่วน The Book of Mormon ยังแสดงอยู่และแสดงที่ลอนดอนด้วย
ไปได้ดีสุดๆ คือตั้งแต่ปีที่เปิดแสดงเนี่ยกวาดรางวัลที่โทนีอวอร์ดมาเยอะมาก รวมถึงสาขา Best Musical ด้วย
ทิ้งห่างละครเพลงที่เปิดปีนั้นอย่างมาก ตอนนี้ก็ยังเป็นละครเพลงที่มีผู้ชมเข้าไปดูมากที่สุดรายอาทิตย์ค่ะ
เป็นละครที่แซวมอร์มอนแบบฉลาด เนื้อเพลงก็ตลก
จขกทชอบมากๆเป็นการส่วนตัวค่ะ
เพราะงั้นการันตีค่ะ ก่อนไปดูก็คิดว่างานไม่น่าพลาด เนื้อเพลงก็คงแต่งได้อย่างฉลาด
ดูแล้วชอบค่ะ กลับบ้านมาตั้งกระทู้พร้อมเปิดเพลงฟังไปด้วย เคลิ้มม
สรุป
คอการ์ตูนดิสนีย์ไม่ผิดหวังค่ะ ภาพสวย เนื้อเรื่องมีอะไรให้ลุ้น
มีครบทุกอารมณ์ ซึ้ง เศร้า เหงา สนุก ขำขัน ครบ!
เอาไปเลย สี่ดาวถ้วน!
จากที่ว่ามาทั้งหมดนี้คือการแนะนำผู้อยู่เบื้องหลังผลงาน มาเล่าผลงานที่ผ่านมาของแต่ละคน
และมาบอกเล่าประสบการณ์หลังได้ดูหนังนี้ว่าเป็นอย่างไรนะคะ
ถ้าไม่ถูกใจผู้ใดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
จขกทขอจบกระทู้เท่านี้และหวังว่ากระทู้นี้อาจจะทำให้บางท่านตัดสินใจไปดู Frozen ได้บ้าง
ขอบคุณค่ะ
**ถ้าเป็นไปได้ขอเชียร์ให้ไปดูแบบซาวน์แทรคนะคะ
***ขออภัยสำหรับไทยคำอังกฤษคำ และคำผิดพลาดค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องนี้คือทำได้ไม่ตรงกับ sterotype การ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์เลย
คือมี true love kiss มีเจ้าชายหนุ่มรูปหล่อ love at first sight มีครบเลย
แต่...ตอนไคลแมกซ์มีหักมุมเล็ก
ฝรั่งในโรงช็อค ตะโกนกันออกมา "shut up... really?" กันเลยทีเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าจะมีขอติของเรื่องนี้ คือเรื่องนี้ไม่มีตัวร้ายจริงๆเลย
บางคนอาจจะหวังให้จบอลังการกว่านี้อีก
แต่สำหรับจขกทจบเท่านี้ฟิลกู้ดกำลังดีมาก ชอบค่ะ
//edit เพิ่มแท็กค่ะ
[CR] รีวิว Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ **
โอ้ว นี่จะเป็นครั้งแรกที่มาเขียนค่ะ
มาเล่าประสบการณ์หลังดูหนังและเล่าเรื่องผู้อยู่เบื้องหลัง
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวทั้งหมดนะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะไม่ตรงกับความคิดเห็นกับทุกท่านทั้งหมดได้
คำเตือน ยาวนะคะ ฮาา
พอดีจขกทอยู่ที่อเมริกาเลยมีโอกาสได้ดู Frozen ก่อน...
ที่อเมริกานี้โปรโมทแรงพอควรเลย เพราะเปิดตัวฉายตอนรับเทศการขอบคุณพระเจ้าของที่นี้พอดี
อยากจะดึงกลุ่มเด็กและหนังครอบครัว แต่ดั๊นชนกับอาทิตย์ที่สองของ Catching Fires ที่กระแสแรงมว๊ากกกก
เพราะฉะนั้นก็ต้องรอดูต่อไป คงสู้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่จขกทก็อยากมาชวนให้ไปดูกันค่ะ
เทรลเลอร์ค่ะ
เรื่อง Frozen ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง The Snow Queen ของ ฮานส์ คริสเตียน แอนเดอสัน ค่ะ
แต่พอดูแล้วเนื้อเรื่องก็ไม่เหมือนซะเท่าไรเลยนะคะ ถ้าไม่บอกก็คงไม่ได้นึกถึง (เอ๊ะ หรือเพราะเราไม่คุ้นอยู่แล้ว)
เนื้อเรื่องย่อ
เมื่ออาณาจักรทั้งอาณาจักรต้องตกอยู่ในความหนาวเย็นโดยเจ้าหญิงแอลซ่า
เจ้าหญิงอันนาผู้น้องจึงร่วมมือกับคริสทอฟและกวางเรนเดียร์คู่หูออกเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ตามหาเจ้าหญิงแอลซ่าเพื่อยุติความหนาวเย็นที่ปกคลุมอาณาจักรไป
ตัวหนังทำออกมาภาพสวย แอนนิเมชั่นทำได้ดี สอดแทรกอารมณ์ขันอย่างต่อเนื่อง
ฉากบีบคั้นก็เป็นแบบเด็กรับได้ (ไม่หนักเกินไป ฮาๆ) เจ้าตุ๊กตาหิมะก็ขโมยซีนมากๆ
ดูจบแล้วมันอบอุ่นค่ะ ออกมาจากโรงแล้วมันรู้สึกดี
กลับบ้านมารีบมาเขียนอย่างเร็ว อยากเชียร์ให้ทุกคนได้ไปดูกันค่ะ
ถ้าใครอยากอ่านสปอยล์แบบเบาๆจะอยู่ล่างสุดค่ะ
ขออนุญาตไม่เขียนเกี่ยวกับตัวเนื้อเรื่องเยอะนะคะ กลัวว่าจะสปอยล์
ขอมาเน้นทางทีมผู้สร้าง คนพากย์และผู้แต่งเนื้อร้องแล้วกันนะคะ
ทีมนี้จขกทแฟนอยู่เป็นส่วนตัวบางท่านอยู่แล้วเลยขอมาอวยหน่อย แหะๆ
**อารมณ์ของ Frozen ก็จะคล้าย Tangled นะคะ (อาจจะเพราะผู้สร้างทีมเดียวกัน)
จขกทขอออกตัวก่อนว่าหลงใหลสไตล์ดิสนีย์สมัยยุค90 ยุคทองที่ใช้แต่นักร้องบรอดเวย์ร้องมาก
ดังนั้นตอนที่แมนดี้ มัวร์พากย์ทั้งเสียงและเสียงร้องให้กับ Tangled แอบเสียดาย
ความคลาสสิคมันหายไปนิ๊ดส์ ยังร้องออกเป็นแมนดี้มากๆ คือเหมือนร้องแบบมีลมเยอะๆ
จขกทก็อธิบายไม่ถูกด้วยความไม่รู้ทักษะการร้องเพลงเลย อาศัยตัวเองฟังชอบไม่ชอบเท่านั้น
ต้องขอโทษถ้าความคิดเห็นไม่ตรงกับผู้อื่น
แมนดี้ มัวร์ สำหรับจขกทถือว่าทำได้พอตัวไม่เยี่ยมเมื่อเทียบกับคนพากย์เสียงร้องเจ้าหญิงดิสนีย์คนก่อนๆ
จขกทชอบแบบเดิมมากกว่าแต่ก็เข้าใจว่าทางสตูดิโอคงอยากจะตีออกมาจากกรอบให้กับราพันเซล
จะได้ดูสมัยใหม่ขึ้นรึเปล่า?
เกร็ดเล็กน้อย
สมัยก่อนที่ดิสนีย์จะให้คนมาพากย์เนี่ยก็ไม่ได้เอาใครไก่กามาพากย์เสียงร้องนะคะ
ตัวอย่างเสียงร้องเจ้าหญิงในโลกดิสนีย์ ส่วนมากก็มีชื่อเสียงมากๆ ถึงพอตัวเลยในโลกของบรอดเวย์นะคะ
- ลีอา ซาลองก้า มาไทยแล้วหลายครั้ง ดังในโลกของบรอดเวย์มาก เปิดตัวตั้งแต่เด็กจากเรื่องมิสไซ่ง่อน
และเธอให้เสียงร้องแก่เจ้าหญิงแจสมินและมู่หลานค่ะ
- จูดี้ คุณ ให้เสียงร้องโพคาฮอนทัส ก็ใช้ชีวิตอยู่ในโลกบรอดเวย์มาตลอด
เคยได้รับการเสนอชื่อโทนีอวอร์ดด้วย ดังมากๆเช่นกัน ตอนสาวๆเคยเล่นใน Les Miserable เป็นโคเซทต์
พออายุมากขึ้นก็กลับมาเล่นอีกทีเป็นฟอนทีนค่ะ
- โจดี้ เบนสัน ผู้ที่รับหน้าที่ร้องเพลงของเอเรียล ใน The Little Mermaid ก็ผ่านบรอดเวย์มาเช่นกันค่ะ แต่ไม่ได้มีชื่อเสียงมาก
พอแค่นี้ก่อนดีกว่าค่ะเดี๋ยวไม่จบ ฮ่าๆ
ทีมพากย์
Kristen Bell (พากย์เสียงอันนา) – ดังมาจากทีวีซีรีย์เวรอนิก้า มาร์สค่ะ เรื่องนี้พากย์ได้น่ารักมาก
ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอจะร้องเพลงได้! ร้องเพราะมากๆด้วยค่ะ
รู้สึกเสียงมันเปล่งได้ใสและร้องออกแนวสไตล์บรอดเวย์
ถึงแม้พลังจะเทียบกับนักร้องบรอดเวย์ไม่ได้เต็มร้อยแต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวหนังติดขัดเลย
กลับน่ารักมากๆ เพิ่มเสน่ห์ให้ตัว อันนา ได้อย่างดีเลยค่ะ ปลื้มมมม
*ตัวละครทำให้นึกถึงราพันเซลใน Tangled
Idina Menzel (พากย์เป็นแอลซ่า) - คนที่ตามบรอดเวย์บ้าง คงจะต้องเคยได้ยินชื่อเธออย่างแน่นอน
เล่นบรอดเวย์หลายเรื่องแต่ดังสุดๆจากเรื่อง Wicked ค่ะ เพลงที่ดังสุดๆคือเพลง Defying Gravity
เอาเป็นว่าถ้าพูดถึง Wicked ทุกคนต้องนึกถึง Defying Gravity
และบางคนอาจจะจำเธอได้จาก Glee
เพราะฉะนั้นการันตีแน่นอนว่าเพลงที่ร้อง เธอฮิตโน้ตได้ทุกเม็ด เพลงโชว์พาวอย่าง Let it go ก็โชว์พาวจริงๆ
ดูหนังไปขนลุกไป ถ่ายทอดอารมณ์ได้สุดยอดมากๆค่ะ
Jonathan Groff (พากย์เป็นคริสทอฟ) - เล่นทีวีซีรีย์อยู่พอสมควรเลยค่ะ
จขกทเคยเห็นครั้งแรกใน Glee มาพากย์นี้ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง เสียดายที่ร้องน้อยไปหน่อยค่ะ
Josh Gad (พากย์เป็นโอลาฟ เจ้าตุ๊กตาหิมะค่ะ) - เล่นทีวีซีรีย์เช่นกันค่ะ
แต่บทที่ทำให้จขกทจำได้คือเล่นบทนำบรอดเวย์เรื่อง The Book of Mormon ค่ะ
Santino Fontana (พากย์เป็นฮานส์) – อยู่ในวงการบรอดเวย์ค่ะ ขณะนี้เล่นเป็นเจ้าชายในเรื่องซินเดอเรลล่าภาคละครเพลงที่บรอดเวย์อยู่
ทีมผู้กำกับและเขียนบท
ผู้กับกับคริส บัคและเจนนิเฟอร์ ลีรับหน้าที่เขียนบทด้วย ผลงานเก่าคือ Tarzan, Wreck it Ralph
เพราะฉะนั้นรับประกันได้เลยเนื้อเรื่องดีค่ะ มีหักมุมเล็กน้อย
อารมณ์หนังและบทพูดลื่นไหลไม่มีขัดกันเลยค่ะ ฉากขำ ฉากซึ้ง ทำได้ดีผ่านหมดค่ะ
ผู้แต่งสกอร์และแต่งแพลง
ถ้าไม่พูดถึงคงไม่ได้เพราะถ้าพูดถึงดิสนีย์ เพลงจะเป็นส่วนหนึ่งของหนังเสมอ
และสำหรับตัวจขกทเองถ้านึกถึงเพลงของดิสนีย์ก็จะนึกถึงอลัน เมนเคนอยู่เสมอ
*อลัน เมนเคนแต่งสกอร์เพลง Little Mermaid, Beauty and the beast, Aladdin, Pocahontus และอื่นๆ
คือตัวพ่อจริงๆของดิสนีย์
เรื่อง Frozen นี้อลัน เมนเคนไม่ได้มีส่วนร่วมเลยก่อนไปดูเลยกังขานิดหน่อย
พอได้มาดูจริงผู้แต่งสกอร์คริสทอฟ เบคก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง
แต่จขกทไม่ได้ติดตามเป็นการส่วนตัวเลยไม่อยากเขียนถึงข้อมูลไม่แน่นค่ะแต่ให้ผ่านค่ะ
ส่วนผู้แต่งเพลงคือโรเบิร์ท โลเปซและภรรยาค่ะ
จขกทติดตามผลงานอยู่เลยขอมาอวย
เวลาคนพูดถึงผู้แต่งเพลงและเนื้อร้องบรอดเวย์ดังๆก็มีอยู่เช่น แอนดรูว ลอยด์ เวปเบอร์
สตีเฟ่น ซอนด์ไฮม์ โรเจอร์ แฮมเมอร์สไตน์ และอีกมากมาย
ท่านเล่านี้คือเรียกว่าเป็นตำนาน เพลงที่แต่งโดนนำมาร้องแล้วร้องอีก
แล้วอีตาโรเบิร์ท โลเปซนี้เป็นใคร
โรเบิร์ท โลเปซเนี่ยได้ไปร่วมกับทีมผู้สร้างเซาท์ปาร์ค (การ์ตูนผู้ใหญ่ของอเมริกา - ไม่ใช่การ์ตูนผู้ใหญ่แบบญี่ปุ่นนะคะ อิอิ)
ทำละครเพลงบรอดเวย์ออกมาสองเรื่องคือ Avenue Q กับ The Book of Mormon ได้แกรมมี่และโทนีอวอร์ดด้วยค่ะ
ถือได้ว่าโรเบิร์ท โลเปซเนี่ยเป็นผู้แต่งเพลงลูกใหม่ก็ได้ค่ะ
Avenue Q ได้โทนี Best Musical ปี 2004 เล่นที่ Off-broadway (คือละครที่ไม่ได้เล่นใน Broadway District จะเรียกเป็นโชว์ Off-broadway)
ส่วน The Book of Mormon ยังแสดงอยู่และแสดงที่ลอนดอนด้วย
ไปได้ดีสุดๆ คือตั้งแต่ปีที่เปิดแสดงเนี่ยกวาดรางวัลที่โทนีอวอร์ดมาเยอะมาก รวมถึงสาขา Best Musical ด้วย
ทิ้งห่างละครเพลงที่เปิดปีนั้นอย่างมาก ตอนนี้ก็ยังเป็นละครเพลงที่มีผู้ชมเข้าไปดูมากที่สุดรายอาทิตย์ค่ะ
เป็นละครที่แซวมอร์มอนแบบฉลาด เนื้อเพลงก็ตลก
จขกทชอบมากๆเป็นการส่วนตัวค่ะ
เพราะงั้นการันตีค่ะ ก่อนไปดูก็คิดว่างานไม่น่าพลาด เนื้อเพลงก็คงแต่งได้อย่างฉลาด
ดูแล้วชอบค่ะ กลับบ้านมาตั้งกระทู้พร้อมเปิดเพลงฟังไปด้วย เคลิ้มม
สรุป
คอการ์ตูนดิสนีย์ไม่ผิดหวังค่ะ ภาพสวย เนื้อเรื่องมีอะไรให้ลุ้น
มีครบทุกอารมณ์ ซึ้ง เศร้า เหงา สนุก ขำขัน ครบ!
เอาไปเลย สี่ดาวถ้วน!
จากที่ว่ามาทั้งหมดนี้คือการแนะนำผู้อยู่เบื้องหลังผลงาน มาเล่าผลงานที่ผ่านมาของแต่ละคน
และมาบอกเล่าประสบการณ์หลังได้ดูหนังนี้ว่าเป็นอย่างไรนะคะ
ถ้าไม่ถูกใจผู้ใดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
จขกทขอจบกระทู้เท่านี้และหวังว่ากระทู้นี้อาจจะทำให้บางท่านตัดสินใจไปดู Frozen ได้บ้าง
ขอบคุณค่ะ
**ถ้าเป็นไปได้ขอเชียร์ให้ไปดูแบบซาวน์แทรคนะคะ
***ขออภัยสำหรับไทยคำอังกฤษคำ และคำผิดพลาดค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
//edit เพิ่มแท็กค่ะ