นึกย้อนไปหลายสิบปีก่อน เห็นเมืองไทยในวันที่คนไทยยังเป็นไทยด้วยกัน คิดต่างบ้าง อุดมการณ์ขัดแย้งบ้าง แม้แต่มีรบรากันบ้าง แต่ก็ล้วนมุ่งหมายทำเพื่อประเทศไทยของเรา สุดท้ายก็มาอยู่ร่วมในชายคาบ้านหลังใหญ่นี้อย่างสมานฉันท์
บ้านของเราไม่ได้เจริญอะไร ด้อยพัฒนาในสายตาคนอื่น แต่จิตใจผู้คนเจริญ คนโกงมี คนชั่วมี แต่คนดีในบ้านนี้มีมากเหลือเกิน คนดีที่ไม่เห็นแก่ตัว เอาตนเองเป็นใหญ่ เห็นอกเห็นใจพี่น้องที่ต่ำต้อยกว่า คนดีที่ยอมรับในความแตกต่างทางความคิดด้วยความเข้าใจ
ไม่แปลกใจว่าทำไมเมื่อก่อนคนไทยเป็นแบบนั้น......... มีโอกาสดีได้ดูภาพวีดีโอเก่าๆสมัยสามสิบกว่าปีก่อน ทำให้ย้อนคิดถึงประสบการณ์ของตนเองในสมัยนั้น ทุกวันจะมีข่าวในหลวงเสด็จไปที่ต่างๆ ประชาชนทั้งยากดีมีจน เด็กน้อยจนถึงผู้เฒ่าผู้แก่มาร่วมรับเสด็จด้วยความปิติเป็นหนึ่งเดียว ในหลวงทรงพบปะประชาชนของพระองค์ได้ใกล้ชิดเหลือเกิน ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะพบเจอแต่สถานที่ที่ทรงเสด็จไปเยี่ยมเยือน
ความรักความสามัคคีของทุกคนเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องมีใครมาบอกกล่าว เพราะทุกวัน พวกเราได้พบเจอแต่เรื่องดี เชื่อมั่นในคนดี และความดีว่ามีอยู่จริง อยากจะมุ่งมั่นทำดีเช่นเดียวกับพระองค์ท่านความดีที่มีแต่ให้....และการเสียสละอย่างแท้จริง ในฐานะที่เราเป็นพสกนิกรชาวไทยคนหนึ่ง
ในเวลานั้นมีความรู้สึกร่วมกันว่าเราได้อยู่ในบ้านที่มีความสุขพอประมาณ เราไม่คิดว่าประเทศไทยเราดีที่สุดในโลก ประเทศเราไม่เจริญ แต่เราก็รักที่นี่ เรารู้ว่าประเทศอันเป็นที่รักของเรานี้เป็นที่ที่พวกเราอยู่ร่วมกันได้อย่างอบอุ่นใจ
ภาพที่ประทับใจและความรู้สึกดีดีในอดีตทั้งหลาย ไม่มีวันหายไปจากความทรงจำของผู้คนที่พบเจอมาด้วยตนเอง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่เรื่องที่คนเอามาสร้าง ใส่สี ใส่เรื่องราวปลอมปนเข้าไป แล้วมาหลอกคนอื่น ไม่ใช่เรื่องการจินตนาการหรือเอาอารมณ์ตนเองผสมลงไปเพื่ออินกับเรื่องราวที่ตนเองไม่เคยได้พบเจอ แล้วบอกว่าฉันก็เป็นคนดีคนหนึ่งเหมือนกัน ถ้าฉัน..............
น่าเสียดายว่า สิ่งดีดีในบ้านเราได้เลือนหายไปเกือบไปหมดแล้ว โดยไม่มีวันย้อนคืนมา ผ่านไปด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันเหยียบย่ำ ทำลาย ด้วยความ(คิดว่า)รักชาติของพวกเราเอง ความรักชาติที่ขาดสติและปัญญา นำพาด้วยโทสะและอคติ
วันนี้พวกเราบางคนรู้สึกว่าเรารวยแล้ว เราเก่งกว่า เราฉลาดกว่าเพื่อน กว่าพี่น้องที่อยู่ด้วยกันมา บ้านเราต้องพัฒนาซะที แต่ต้องรีบหน่อย เพราะปลวกมันขึ้นบ้านแล้ว
จากบ้านที่สุขสบายพอสมควร อยู่ดีๆ มีหมอกควันบางๆที่ลอยขึ้นมา ไม่ช้านานก็ กลายเป็นเพลิงที่กำลังลุกโพลง ท่ามกลางสายตาของเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ที่สงสัยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับบ้านของเรา กับประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรา
เพื่อน พี่น้องของเราหลายคนกำลังฝันไปว่าไฟที่กำลังไหม้ลามอยู่นี้จะช่วยทำให้บ้านเราออกมาสวยงามตามใจคิด เราจะสร้างบ้านใหม่ที่ดี มีแต่ความสะอาด น่าอยู่ และเราก็ไม่ต้องถามคนอื่นๆว่าเขาคิดเหมือนกับเราหรือเปล่า เราคิดว่าดี มันก็ต้องดี
ถึงไฟจะไหม้บ้านไปบ้างหรือไหม้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากบ้าน มด หนู แมลงสาบ ปลวก สัตว์ร้ายพยันตรายทั้งหลายจะไม่มีในบ้านเราแล้ว
แต่ความจริงก็คือ ไฟไม่ได้สร้างอะไรให้เราขึ้นมาใหม่ นอกจากกองเถ้าถ่านที่เอาไปทำอะไรไม่ได้ พี่น้องของเราอาจบาดเจ็บล้มตายในกองเพลิงนั้น
ไฟไม่ได้ขับไล่สิ่งชั่วร้ายอะไรออกไปเลย ตราบเท่าที่ความชั่วร้ายยังฝังแน่นอยู่กับอคติและความเกลียดชังที่คุกรุ่นในตัวเรา ผสมกับจินตนาการเรื่องความรักชาติจนเกินพอดี และการยุยงปลุกปั่นโดยคน(บ้า)ที่รักตัวเองมากกว่ารักใครๆ
ปลวกที่มากัดแทะบ้านเรา ยังหายามาฉีดมาหยุดมันได้ แต่ปลวกที่เกาะกินจิตใจ กัดกร่อนจนทำให้ คนดีเป็นคนเลว คนปกติเป็นคนบ้า อาจารย์ปัญญาชนกลายเป็นอันธพาล พร้อมด่าว่าย่ำยีหรือทำร้ายคนอื่น ถึงจะเผาบ้านหลังนี้ไปอีกกี่ครั้ง ก็กำจัดมันไปไม่ได้ เพราะความชั่วร้ายอยู่ที่ตัวเองไม่ใช่คนอื่น
ได้ยินเสียงของเพื่อนพี่น้องบางคน ร้องกันอื้ออึง ดีใจที่บ้านกำลังพังพินาศไปต่อหน้า ณ วันนี้ ก็อดคิดไม่ได้ว่า ในยามที่ไม่มีบ้าน เราจะมีอะไรมาสร้างบ้านหลังใหม่ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างของเรา พ่อแม่พี่น้องของเรา ความทรงจำดีดีของเรา...อยู่ในบ้านหลังนี้ ประเทศไทย......บ้านอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราทุกคน
ประเทศไทย....บ้านอันเป็นที่รักของพวกเราทุกคน
บ้านของเราไม่ได้เจริญอะไร ด้อยพัฒนาในสายตาคนอื่น แต่จิตใจผู้คนเจริญ คนโกงมี คนชั่วมี แต่คนดีในบ้านนี้มีมากเหลือเกิน คนดีที่ไม่เห็นแก่ตัว เอาตนเองเป็นใหญ่ เห็นอกเห็นใจพี่น้องที่ต่ำต้อยกว่า คนดีที่ยอมรับในความแตกต่างทางความคิดด้วยความเข้าใจ
ไม่แปลกใจว่าทำไมเมื่อก่อนคนไทยเป็นแบบนั้น......... มีโอกาสดีได้ดูภาพวีดีโอเก่าๆสมัยสามสิบกว่าปีก่อน ทำให้ย้อนคิดถึงประสบการณ์ของตนเองในสมัยนั้น ทุกวันจะมีข่าวในหลวงเสด็จไปที่ต่างๆ ประชาชนทั้งยากดีมีจน เด็กน้อยจนถึงผู้เฒ่าผู้แก่มาร่วมรับเสด็จด้วยความปิติเป็นหนึ่งเดียว ในหลวงทรงพบปะประชาชนของพระองค์ได้ใกล้ชิดเหลือเกิน ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะพบเจอแต่สถานที่ที่ทรงเสด็จไปเยี่ยมเยือน
ความรักความสามัคคีของทุกคนเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องมีใครมาบอกกล่าว เพราะทุกวัน พวกเราได้พบเจอแต่เรื่องดี เชื่อมั่นในคนดี และความดีว่ามีอยู่จริง อยากจะมุ่งมั่นทำดีเช่นเดียวกับพระองค์ท่านความดีที่มีแต่ให้....และการเสียสละอย่างแท้จริง ในฐานะที่เราเป็นพสกนิกรชาวไทยคนหนึ่ง
ในเวลานั้นมีความรู้สึกร่วมกันว่าเราได้อยู่ในบ้านที่มีความสุขพอประมาณ เราไม่คิดว่าประเทศไทยเราดีที่สุดในโลก ประเทศเราไม่เจริญ แต่เราก็รักที่นี่ เรารู้ว่าประเทศอันเป็นที่รักของเรานี้เป็นที่ที่พวกเราอยู่ร่วมกันได้อย่างอบอุ่นใจ
ภาพที่ประทับใจและความรู้สึกดีดีในอดีตทั้งหลาย ไม่มีวันหายไปจากความทรงจำของผู้คนที่พบเจอมาด้วยตนเอง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่เรื่องที่คนเอามาสร้าง ใส่สี ใส่เรื่องราวปลอมปนเข้าไป แล้วมาหลอกคนอื่น ไม่ใช่เรื่องการจินตนาการหรือเอาอารมณ์ตนเองผสมลงไปเพื่ออินกับเรื่องราวที่ตนเองไม่เคยได้พบเจอ แล้วบอกว่าฉันก็เป็นคนดีคนหนึ่งเหมือนกัน ถ้าฉัน..............
น่าเสียดายว่า สิ่งดีดีในบ้านเราได้เลือนหายไปเกือบไปหมดแล้ว โดยไม่มีวันย้อนคืนมา ผ่านไปด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันเหยียบย่ำ ทำลาย ด้วยความ(คิดว่า)รักชาติของพวกเราเอง ความรักชาติที่ขาดสติและปัญญา นำพาด้วยโทสะและอคติ
วันนี้พวกเราบางคนรู้สึกว่าเรารวยแล้ว เราเก่งกว่า เราฉลาดกว่าเพื่อน กว่าพี่น้องที่อยู่ด้วยกันมา บ้านเราต้องพัฒนาซะที แต่ต้องรีบหน่อย เพราะปลวกมันขึ้นบ้านแล้ว
จากบ้านที่สุขสบายพอสมควร อยู่ดีๆ มีหมอกควันบางๆที่ลอยขึ้นมา ไม่ช้านานก็ กลายเป็นเพลิงที่กำลังลุกโพลง ท่ามกลางสายตาของเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ที่สงสัยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับบ้านของเรา กับประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรา
เพื่อน พี่น้องของเราหลายคนกำลังฝันไปว่าไฟที่กำลังไหม้ลามอยู่นี้จะช่วยทำให้บ้านเราออกมาสวยงามตามใจคิด เราจะสร้างบ้านใหม่ที่ดี มีแต่ความสะอาด น่าอยู่ และเราก็ไม่ต้องถามคนอื่นๆว่าเขาคิดเหมือนกับเราหรือเปล่า เราคิดว่าดี มันก็ต้องดี
ถึงไฟจะไหม้บ้านไปบ้างหรือไหม้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากบ้าน มด หนู แมลงสาบ ปลวก สัตว์ร้ายพยันตรายทั้งหลายจะไม่มีในบ้านเราแล้ว
แต่ความจริงก็คือ ไฟไม่ได้สร้างอะไรให้เราขึ้นมาใหม่ นอกจากกองเถ้าถ่านที่เอาไปทำอะไรไม่ได้ พี่น้องของเราอาจบาดเจ็บล้มตายในกองเพลิงนั้น
ไฟไม่ได้ขับไล่สิ่งชั่วร้ายอะไรออกไปเลย ตราบเท่าที่ความชั่วร้ายยังฝังแน่นอยู่กับอคติและความเกลียดชังที่คุกรุ่นในตัวเรา ผสมกับจินตนาการเรื่องความรักชาติจนเกินพอดี และการยุยงปลุกปั่นโดยคน(บ้า)ที่รักตัวเองมากกว่ารักใครๆ
ปลวกที่มากัดแทะบ้านเรา ยังหายามาฉีดมาหยุดมันได้ แต่ปลวกที่เกาะกินจิตใจ กัดกร่อนจนทำให้ คนดีเป็นคนเลว คนปกติเป็นคนบ้า อาจารย์ปัญญาชนกลายเป็นอันธพาล พร้อมด่าว่าย่ำยีหรือทำร้ายคนอื่น ถึงจะเผาบ้านหลังนี้ไปอีกกี่ครั้ง ก็กำจัดมันไปไม่ได้ เพราะความชั่วร้ายอยู่ที่ตัวเองไม่ใช่คนอื่น
ได้ยินเสียงของเพื่อนพี่น้องบางคน ร้องกันอื้ออึง ดีใจที่บ้านกำลังพังพินาศไปต่อหน้า ณ วันนี้ ก็อดคิดไม่ได้ว่า ในยามที่ไม่มีบ้าน เราจะมีอะไรมาสร้างบ้านหลังใหม่ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างของเรา พ่อแม่พี่น้องของเรา ความทรงจำดีดีของเรา...อยู่ในบ้านหลังนี้ ประเทศไทย......บ้านอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราทุกคน