สวัสดีชาว pantip ทุกคนคับ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมบนโลกออนไลน์เลยนะคับ หวังว่าทุกคนจะช่วยแสดงความคิดเห็น
หรือแนะนำอะไรเพิ่มเติมได้นะคับ เพราะข้อมูลตรงนี้จะเป็นประโยชน์ในงานช่วยเหลือคนอีกมากมายคับ
ผมเป็นนักศึกษาป.ตรีปีสุดท้ายแล้วคับ กำลังทำโครงการวิจัยเกี่ยวกับ "ความเหงา" ในกลุ่มนักเรียนมัธยมปลาย
ผมเชื่อว่าทุกคน คงรู้จักกับคำว่า "เหงา" หรือ "ว้าเหว่" (Loneliness) อยู่แล้ว
และในที่นี้หลายๆคนก็คงมีประสบการณ์กับความรู้สึกนี้มาบ้าง อาจจะแค่ระยะเวลาสั้นๆ หรือเนิ่นนาน ไม่สามารถเอาตัวเองออกจากห้วงอารมณ์ของความเหงานี้ โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้ว ต้นตอของมันเกิดจากสิ่งใด....
จิตแพทย์ที่ผมสัมภาษณ์กล่าวว่า ถ้าคุณเกิดในยุคของซิกมันต์ ฟรอยด์ (1856-1939) โรคทางจิตเวชที่ฮิตที่สุดในยุคนั้น
คือ "โรคเก็บกด" ตามชื่อโรค "เก็บ" เหตุการณ์ ความทรงจำ ประสบการณ์ต่างๆที่สร้างความวิตกกังวลให้กับเรา
และ "กด" มันเอาไว้ที่ระดับจิตใต้สำนึก จนวันนึงมันก็ปะทุขึ้นมาเป็นโรคเครียด ไมเกรน นอนไม่หลับ หรือโรคทางกายอื่นๆ
แต่ในศตวรรษที่ 21 โรคที่จะฮิตมาแรงแซงโค้งคือ "โรคเหงา" เพราะปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีมากมายเข้ามาทดแทนแรงงานคน
ทำให้คนส่วนใหญ่กลัวการ "ว่าง" จึงต้องหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลา โทรศัพท์ แชท ฯลฯ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกยังมีตัวตน มีคุณค่าอยู่บนโลกนี้
แท้จริงแล้ว ความเหงา ยังไม่ถูกจัดเป็นโรคหรอกคับ แค่เป็นภาวะทางอารมณ์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นชั่วคราว
(State loneliness) ก็ไม่เป็นไร แป๊บเดียวก็หาย แต่ถ้าปล่อยไว้จนถึงขั้นที่เรียกว่าเหงาแบบเรื้อรัง (Chronic Loneliness)
คือรู้สึกเหงาอยู่ตลอด ร้องไห้ได้ง่าย กินไม่ได้นอนไม่หลับมาอย่างน้อย 2 ปีเนี่ย น่ากลัวอยู่นะ
มันจะนำไปสู่โรคซึมเศร้า (Depressive disorder) ซึ่งเค้าบอกอีก 7 ปีจะมีคนเป็นโรคนี้เยอะมาก กลายเป็นปัญหาร้ายแรง
ในหลายๆประเทศ (WHO : องค์การอนามัยโลกว่าไว้อย่างนั้น) และสร้างความเสียหายต่อสังคม
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกเหงาได้ง่าย และปล่อยให้มันอยู่ในจิตใจมานานหลายปีแล้วเหมือนกัน
แต่เพราะปีนี้ทำวิจัยเรื่องนี้ ทำให้ต้องอ่านรีเสิชเยอะมาก และลองไปบำบัดหลายๆอย่างเพื่อรักษาอาการเหงานี้
หนึ่งในนั้นที่ไปลองคือ "การสะกดจิตบำบัด" (Hypnotherapy) ก็ได้ผลค่อนข้างดีทีเดียว
ผมอยากรู้มุมมองของเพื่อนๆแต่ละคนในเรื่องของความเหงา ผ่านประเด็นต่างๆเหล่านี้อ่ะคับ
1) สำหรับคุณแล้ว "ความเหงา" ในมุมมองของคนคืออะไร บรรยายในแบบของคุณได้เลยคับ
2) เมื่อไรที่คุณเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเหงา หรือสัญญาณอะไรเป็นตัวบอกว่าคุณกำลังมีความรู้สึกนี้อยู่ และคุณมักจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร ?
3) คุณว่าคนโสด กับ คนที่มีแฟนแล้ว จะมองความเหงาต่างกันยังไง ?
4) หากจะมี..."อะไรสักอย่าง" เพื่อช่วยบรรเทาความเหงาให้กับคุณโดยเฉพาะ คุณจะรับมันผ่านช่องทางไหน (TV, ป้ายโฆษณา, วิทยุ, on-line, อุปกรณ์ส่วนตัว, บริการ หรืออื่นๆ)
5) ที่ผมเคยอ่านมา เค้าบอกว่าสาเหตุของคนที่มีแนวโน้มจะเป็นเหงาเรื้อรังได้ เพราะการไม่ได้รับสัมพันธภาพที่ดีในวัยเด็ก เช่น ถูกพ่อแม่ดุด่าว่าด้วยเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถูกทำร้าย ถูกทอดทิ้ง ฯลฯ ทำให้กลายเป็น "ปม" ที่ฝังใจ และเกิดเป็นบุคลิกภาพไม่ดีในปัจจุบัน เช่น มองโลกในแง่ร้าย ขี้วิตกกังวล ขี้อาย เข้าสังคมยาก มองผู้อื่นแย่ไปหมด เป็นต้น ผมก็เลยอยากรู้ว่า หากให้เพื่อนๆระลึกชาติว่า ตอนเด็กๆ เรามีประสบการณ์ที่ไม่ดีอะไรบ้าง อาจจะจากพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ญาติ ครู ฯลฯ แล้วทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นปมในใจในปัจจุบัน เป็นอุปสรรคต่อชีวิตของเราในตอนนี้ ช่วยเล่าให้ฟังคร่าวๆได้ไหมครับ ผมแค่อยากรู้ว่า เพราะเหตุใด อายุเท่าไร ข้อความหรือการกระทำแบบไหนที่มีผลแล้วสำหรับเด็ก
6) คุณว่าจริงไหมที่ผู้ปกครองมักจะ "ฮึ่ม" หรือทะเลาะกันกับลูกเพศเดียวกัน เช่น แม่ชอบทะเลาะกับลูกสาว พ่อชอบทะเลาะกับลูกชาย การทะเลาะแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ หรือสร้างปมให้เกิดได้เหมือนกัน มันต่างจากการทะเลาะ "ข้ามเพศ" กันหรือเปล่า
7) สุดท้ายนี้ผมอยากรู้ การสัมผัสที่แสดงถึงความรัก (Physical touch) สำหรับคุณมีความหมายแค่ไหน การสัมผัสแบบไหนที่คุณรู้สึกว่า นี่แหละ ใช่เลย ถ้าฉันได้รับสิ่งนี้ ข้อความแบบนี้ ปมที่ฉันมีอยู่จะไม่มีผลกับชีวิตฉันแล้วเมื่อได้รับสิ่งนี้
คำตอบของเพื่อนๆจะเป็นประโยชน์ต่อการทำวิจัยของผมมากนะครับ รบกวนตอบตามความเป็นจริงด้วย
หากใครมีลูกหลาน อยากจะเล่าพฤติกรรมที่ตัวเองรู้สึกว่าเป็นห่วง อยากได้รับการแก้ไข เล่าได้เลยนะครับ
ขอบคุณมากครับ
เหตุเกิดจากความเหงา...ความเหงา คือ อะไรกันนะ ?
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมบนโลกออนไลน์เลยนะคับ หวังว่าทุกคนจะช่วยแสดงความคิดเห็น
หรือแนะนำอะไรเพิ่มเติมได้นะคับ เพราะข้อมูลตรงนี้จะเป็นประโยชน์ในงานช่วยเหลือคนอีกมากมายคับ
ผมเป็นนักศึกษาป.ตรีปีสุดท้ายแล้วคับ กำลังทำโครงการวิจัยเกี่ยวกับ "ความเหงา" ในกลุ่มนักเรียนมัธยมปลาย
ผมเชื่อว่าทุกคน คงรู้จักกับคำว่า "เหงา" หรือ "ว้าเหว่" (Loneliness) อยู่แล้ว
และในที่นี้หลายๆคนก็คงมีประสบการณ์กับความรู้สึกนี้มาบ้าง อาจจะแค่ระยะเวลาสั้นๆ หรือเนิ่นนาน ไม่สามารถเอาตัวเองออกจากห้วงอารมณ์ของความเหงานี้ โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้ว ต้นตอของมันเกิดจากสิ่งใด....
จิตแพทย์ที่ผมสัมภาษณ์กล่าวว่า ถ้าคุณเกิดในยุคของซิกมันต์ ฟรอยด์ (1856-1939) โรคทางจิตเวชที่ฮิตที่สุดในยุคนั้น
คือ "โรคเก็บกด" ตามชื่อโรค "เก็บ" เหตุการณ์ ความทรงจำ ประสบการณ์ต่างๆที่สร้างความวิตกกังวลให้กับเรา
และ "กด" มันเอาไว้ที่ระดับจิตใต้สำนึก จนวันนึงมันก็ปะทุขึ้นมาเป็นโรคเครียด ไมเกรน นอนไม่หลับ หรือโรคทางกายอื่นๆ
แต่ในศตวรรษที่ 21 โรคที่จะฮิตมาแรงแซงโค้งคือ "โรคเหงา" เพราะปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีมากมายเข้ามาทดแทนแรงงานคน
ทำให้คนส่วนใหญ่กลัวการ "ว่าง" จึงต้องหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลา โทรศัพท์ แชท ฯลฯ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกยังมีตัวตน มีคุณค่าอยู่บนโลกนี้
แท้จริงแล้ว ความเหงา ยังไม่ถูกจัดเป็นโรคหรอกคับ แค่เป็นภาวะทางอารมณ์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นชั่วคราว
(State loneliness) ก็ไม่เป็นไร แป๊บเดียวก็หาย แต่ถ้าปล่อยไว้จนถึงขั้นที่เรียกว่าเหงาแบบเรื้อรัง (Chronic Loneliness)
คือรู้สึกเหงาอยู่ตลอด ร้องไห้ได้ง่าย กินไม่ได้นอนไม่หลับมาอย่างน้อย 2 ปีเนี่ย น่ากลัวอยู่นะ
มันจะนำไปสู่โรคซึมเศร้า (Depressive disorder) ซึ่งเค้าบอกอีก 7 ปีจะมีคนเป็นโรคนี้เยอะมาก กลายเป็นปัญหาร้ายแรง
ในหลายๆประเทศ (WHO : องค์การอนามัยโลกว่าไว้อย่างนั้น) และสร้างความเสียหายต่อสังคม
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกเหงาได้ง่าย และปล่อยให้มันอยู่ในจิตใจมานานหลายปีแล้วเหมือนกัน
แต่เพราะปีนี้ทำวิจัยเรื่องนี้ ทำให้ต้องอ่านรีเสิชเยอะมาก และลองไปบำบัดหลายๆอย่างเพื่อรักษาอาการเหงานี้
หนึ่งในนั้นที่ไปลองคือ "การสะกดจิตบำบัด" (Hypnotherapy) ก็ได้ผลค่อนข้างดีทีเดียว
ผมอยากรู้มุมมองของเพื่อนๆแต่ละคนในเรื่องของความเหงา ผ่านประเด็นต่างๆเหล่านี้อ่ะคับ
1) สำหรับคุณแล้ว "ความเหงา" ในมุมมองของคนคืออะไร บรรยายในแบบของคุณได้เลยคับ
2) เมื่อไรที่คุณเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเหงา หรือสัญญาณอะไรเป็นตัวบอกว่าคุณกำลังมีความรู้สึกนี้อยู่ และคุณมักจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร ?
3) คุณว่าคนโสด กับ คนที่มีแฟนแล้ว จะมองความเหงาต่างกันยังไง ?
4) หากจะมี..."อะไรสักอย่าง" เพื่อช่วยบรรเทาความเหงาให้กับคุณโดยเฉพาะ คุณจะรับมันผ่านช่องทางไหน (TV, ป้ายโฆษณา, วิทยุ, on-line, อุปกรณ์ส่วนตัว, บริการ หรืออื่นๆ)
5) ที่ผมเคยอ่านมา เค้าบอกว่าสาเหตุของคนที่มีแนวโน้มจะเป็นเหงาเรื้อรังได้ เพราะการไม่ได้รับสัมพันธภาพที่ดีในวัยเด็ก เช่น ถูกพ่อแม่ดุด่าว่าด้วยเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถูกทำร้าย ถูกทอดทิ้ง ฯลฯ ทำให้กลายเป็น "ปม" ที่ฝังใจ และเกิดเป็นบุคลิกภาพไม่ดีในปัจจุบัน เช่น มองโลกในแง่ร้าย ขี้วิตกกังวล ขี้อาย เข้าสังคมยาก มองผู้อื่นแย่ไปหมด เป็นต้น ผมก็เลยอยากรู้ว่า หากให้เพื่อนๆระลึกชาติว่า ตอนเด็กๆ เรามีประสบการณ์ที่ไม่ดีอะไรบ้าง อาจจะจากพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ญาติ ครู ฯลฯ แล้วทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นปมในใจในปัจจุบัน เป็นอุปสรรคต่อชีวิตของเราในตอนนี้ ช่วยเล่าให้ฟังคร่าวๆได้ไหมครับ ผมแค่อยากรู้ว่า เพราะเหตุใด อายุเท่าไร ข้อความหรือการกระทำแบบไหนที่มีผลแล้วสำหรับเด็ก
6) คุณว่าจริงไหมที่ผู้ปกครองมักจะ "ฮึ่ม" หรือทะเลาะกันกับลูกเพศเดียวกัน เช่น แม่ชอบทะเลาะกับลูกสาว พ่อชอบทะเลาะกับลูกชาย การทะเลาะแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ หรือสร้างปมให้เกิดได้เหมือนกัน มันต่างจากการทะเลาะ "ข้ามเพศ" กันหรือเปล่า
7) สุดท้ายนี้ผมอยากรู้ การสัมผัสที่แสดงถึงความรัก (Physical touch) สำหรับคุณมีความหมายแค่ไหน การสัมผัสแบบไหนที่คุณรู้สึกว่า นี่แหละ ใช่เลย ถ้าฉันได้รับสิ่งนี้ ข้อความแบบนี้ ปมที่ฉันมีอยู่จะไม่มีผลกับชีวิตฉันแล้วเมื่อได้รับสิ่งนี้
คำตอบของเพื่อนๆจะเป็นประโยชน์ต่อการทำวิจัยของผมมากนะครับ รบกวนตอบตามความเป็นจริงด้วย
หากใครมีลูกหลาน อยากจะเล่าพฤติกรรมที่ตัวเองรู้สึกว่าเป็นห่วง อยากได้รับการแก้ไข เล่าได้เลยนะครับ
ขอบคุณมากครับ