เดิมทีรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ (ปัญหาใหญ่เลย)
จบวิทยาศาสตร์ พยายามหางานทุกวิถีทาง
เกิดไปได้งานด้านลูกค้าสัมพันธ์ก้อทำไป ได้ประมาณเกือบ 2 ปี
ลาออกมาเพราะคิดว่าจะกลับไปทำงานตามสายงานที่เรียนมาจะดีกว่า
ไปได้งานโรงงานแห่งหนึ่ง (งานด้านออดิทโรงงาน ประเด็นคือ เคยตั้งเป้าหมายว่าจะเข้า sgs
แต่ออดิทที่นั่นควรมีปสกที่รงอย่างน้อย 6-7 ปี + ใบ certificate คิดแบบนี้จริงๆนะในตอนนั้น วางแผนและได้งานก่อนลาออกจาก
ลูกค้าสัมพันธ์) และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก้อเกิดขึ้น เนื่องจากความเป็นอยู่ไม่ได้สบายนัก ครอบครัวพลอยเป็นกังวลไปด้วย
ทุกคำพูดเริ่มเข้ามาสุมรวมกันอยู่ในหัว ว่าทำไมถึงมาทำงานที่นี่ เงินมันดีนักเหรอ เราก้อโอนเอนเหลือเกิน
ตัวเองนั้นคงผิดเต็มๆ ที่ดันไปฟังคำพูดคนรอบข้าง จนลืมไปว่าวางแผนไว้ยังไง รวมกับมีพี่ใกล้ตัวแนะนำงานด้านไอที
ลองฝึกโปรแกรมดูสิ ไม่ยากหลอก เด๋วสอนให้ ให้พยายามฝึกไปทำงานรงไป
แต่เราคิดว่ามันช่างสวนทางกันนะ งานรงมันมากพออยู่แล้ว ต้องเจียดเวลาไปฝึกโปรแกรมซึ่งไม่ได้ง่ายเลย
และไม่ได้ส่งเสริมกับงานที่ทำอยู่เลย
จึงเปนเหตุให้ต้องลาออกจากที่รงทั้งๆที่ทำงานที่นั่นไปได้ไม่นานนัก
ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นคือ แล้วจะทำงานอะไรละทีนี้
งานลูกค้าสัมพันธ์ก้อมีบางอย่างที่เรารู้สึกไม่ชอบ อึดอัด และเงินน้อยเหลือเกิน เมื่อหักลบกับค่าใช้จ่าย
มีพี่ใกล้ตัวแนะนำงานด้านไอที ลองฝึกโปรแกรมดูสิ ไม่ยากหลอก เด๋วสอนให้
ปรากฏว่าพอเริ่มเรียน เขาก้อพยายามช่วยกดดันให้ทำได้ ก้อดีนะ
แต่บังเอิญว่าตัวโปรแกรมที่เรียนนั้น มันมีอะไรมากกว่านั้น ไม่ใช่แค่การจับตารางมารวมๆกัน
เรียนไป หางานไป สมัครงานไว้บ้าง นี่ก้อเลยมาเกือบจะปีนึงแล้ว
ส่วนนึงต้องโทดตัวเองที่ไม่รู้ใจตัวเอง
เพราะพอเราทำโปรแกรมที่เขาสอนไม่ได้ ด้วยจิตสำนึกที่ว่ามันยากไป จิงๆนะ
เราอาจไม่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้ เราอาจจะเรียนรู้ได้ แต่มันจะทันใช้ไหม เทคโนโลยีมันก้อไปไกลมากแล้ว
เด็กรุ่นใหม่เก่งๆก้อโตทุกวัน เก่งกันทั้งนั้น
ภายในระยะเวลาเกือบปี ก้อมีเปลี่ยนทางไปบ้าง ฝึกโปรแกรมนู่นนี่ เต็มไปหมด
คำตอบที่พบคือ มันไม่เข้ากะโปรไฟล์การทำงานหรือที่เรียนจบมาเลย
graphic design พรสวรรค์ไม่พอ
dba รู้ไม่ลึก
จะทำ admin ก้อละเหี่ยใจ
เฮ้อออ
จะเรียนต่อ ก้อติดว่าเงินพ่อแม่ ต่อโทมันใช้เงินเยอะ พี่ๆเราคนอื่นๆเขายังขวนขวายเอาเองเลย
ยังไม่มีใครได้เรียนต่อด้วยเงินพ่อแม่ เราก้อเห็นแก่ตัวไม่ได้อีก ไม่กล้าไปใช้เงินพ่อแม่
เครียดนะ ปวดหัวด้วย
เลยมาระบาย ใครเห็นก้อเข้ามาแสดงความคิดเหนได้นะคะ
ตำหนิได้นะ เผื่อเราจะคิดอะไรออกมากกว่านี้
ยิ่งเทียบตัวเองกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน เรายิ่งดูแย่ แย่มากก
เหมือนเราต้อเลือกแล้วว่า จะไฟว์กับ dba หรือ crm หรือ งานด้านวิทยาศาสตร์ อาจเป็น sale ก้อคงได้
หรือเป็นครู ก้อเคยคิดนะ
ล่าสุดไปสัมภาษณ์งานด้าน dba แต่ skill เราไม่ถึง เขาส่ง ด้าน admin มาให้ ..ทำไงล่ะทีนี้
admin ส่วน sale&marketing ก้อประสานงาน ดึง report ถ้าจะเอาใช้กับงานหรือปสกด้านcrm หรือ marketing ในอนาคตได้ไหม
เครียดอีก!!!! เฮ้ออ
ขอบคุณค่ะที่ให้ระบาย
มีปัญหาชีวิต อนาคตที่เลือกแล้วมันดันขัดกับความคิดเห็นของครอบครัว.. เครียดดๆๆๆ..
จบวิทยาศาสตร์ พยายามหางานทุกวิถีทาง
เกิดไปได้งานด้านลูกค้าสัมพันธ์ก้อทำไป ได้ประมาณเกือบ 2 ปี
ลาออกมาเพราะคิดว่าจะกลับไปทำงานตามสายงานที่เรียนมาจะดีกว่า
ไปได้งานโรงงานแห่งหนึ่ง (งานด้านออดิทโรงงาน ประเด็นคือ เคยตั้งเป้าหมายว่าจะเข้า sgs
แต่ออดิทที่นั่นควรมีปสกที่รงอย่างน้อย 6-7 ปี + ใบ certificate คิดแบบนี้จริงๆนะในตอนนั้น วางแผนและได้งานก่อนลาออกจาก
ลูกค้าสัมพันธ์) และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก้อเกิดขึ้น เนื่องจากความเป็นอยู่ไม่ได้สบายนัก ครอบครัวพลอยเป็นกังวลไปด้วย
ทุกคำพูดเริ่มเข้ามาสุมรวมกันอยู่ในหัว ว่าทำไมถึงมาทำงานที่นี่ เงินมันดีนักเหรอ เราก้อโอนเอนเหลือเกิน
ตัวเองนั้นคงผิดเต็มๆ ที่ดันไปฟังคำพูดคนรอบข้าง จนลืมไปว่าวางแผนไว้ยังไง รวมกับมีพี่ใกล้ตัวแนะนำงานด้านไอที
ลองฝึกโปรแกรมดูสิ ไม่ยากหลอก เด๋วสอนให้ ให้พยายามฝึกไปทำงานรงไป
แต่เราคิดว่ามันช่างสวนทางกันนะ งานรงมันมากพออยู่แล้ว ต้องเจียดเวลาไปฝึกโปรแกรมซึ่งไม่ได้ง่ายเลย
และไม่ได้ส่งเสริมกับงานที่ทำอยู่เลย
จึงเปนเหตุให้ต้องลาออกจากที่รงทั้งๆที่ทำงานที่นั่นไปได้ไม่นานนัก
ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นคือ แล้วจะทำงานอะไรละทีนี้
งานลูกค้าสัมพันธ์ก้อมีบางอย่างที่เรารู้สึกไม่ชอบ อึดอัด และเงินน้อยเหลือเกิน เมื่อหักลบกับค่าใช้จ่าย
มีพี่ใกล้ตัวแนะนำงานด้านไอที ลองฝึกโปรแกรมดูสิ ไม่ยากหลอก เด๋วสอนให้
ปรากฏว่าพอเริ่มเรียน เขาก้อพยายามช่วยกดดันให้ทำได้ ก้อดีนะ
แต่บังเอิญว่าตัวโปรแกรมที่เรียนนั้น มันมีอะไรมากกว่านั้น ไม่ใช่แค่การจับตารางมารวมๆกัน
เรียนไป หางานไป สมัครงานไว้บ้าง นี่ก้อเลยมาเกือบจะปีนึงแล้ว
ส่วนนึงต้องโทดตัวเองที่ไม่รู้ใจตัวเอง
เพราะพอเราทำโปรแกรมที่เขาสอนไม่ได้ ด้วยจิตสำนึกที่ว่ามันยากไป จิงๆนะ
เราอาจไม่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้ เราอาจจะเรียนรู้ได้ แต่มันจะทันใช้ไหม เทคโนโลยีมันก้อไปไกลมากแล้ว
เด็กรุ่นใหม่เก่งๆก้อโตทุกวัน เก่งกันทั้งนั้น
ภายในระยะเวลาเกือบปี ก้อมีเปลี่ยนทางไปบ้าง ฝึกโปรแกรมนู่นนี่ เต็มไปหมด
คำตอบที่พบคือ มันไม่เข้ากะโปรไฟล์การทำงานหรือที่เรียนจบมาเลย
graphic design พรสวรรค์ไม่พอ
dba รู้ไม่ลึก
จะทำ admin ก้อละเหี่ยใจ
เฮ้อออ
จะเรียนต่อ ก้อติดว่าเงินพ่อแม่ ต่อโทมันใช้เงินเยอะ พี่ๆเราคนอื่นๆเขายังขวนขวายเอาเองเลย
ยังไม่มีใครได้เรียนต่อด้วยเงินพ่อแม่ เราก้อเห็นแก่ตัวไม่ได้อีก ไม่กล้าไปใช้เงินพ่อแม่
เครียดนะ ปวดหัวด้วย
เลยมาระบาย ใครเห็นก้อเข้ามาแสดงความคิดเหนได้นะคะ
ตำหนิได้นะ เผื่อเราจะคิดอะไรออกมากกว่านี้
ยิ่งเทียบตัวเองกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน เรายิ่งดูแย่ แย่มากก
เหมือนเราต้อเลือกแล้วว่า จะไฟว์กับ dba หรือ crm หรือ งานด้านวิทยาศาสตร์ อาจเป็น sale ก้อคงได้
หรือเป็นครู ก้อเคยคิดนะ
ล่าสุดไปสัมภาษณ์งานด้าน dba แต่ skill เราไม่ถึง เขาส่ง ด้าน admin มาให้ ..ทำไงล่ะทีนี้
admin ส่วน sale&marketing ก้อประสานงาน ดึง report ถ้าจะเอาใช้กับงานหรือปสกด้านcrm หรือ marketing ในอนาคตได้ไหม
เครียดอีก!!!! เฮ้ออ
ขอบคุณค่ะที่ให้ระบาย