หลักฐานที่เชื่อได้ว่า "เอ็กซ์" ไม่ได้ชกท้องหมอนิ่มจนแท้งลูก

''เอ๊กซ์'' จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักแม่นปืนทีมชาติ เปิดใจครั้งแรกในรายการ ''บิ๊กจ๊ะเจาะกีฬา'' ทางช่องสยามสปอร์ตนิวส์ ทรูวิชั่นส์ 114
หลังได้รับการประกันตัวจากเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 เผยสุดเสียใจเสียลูกคนที่ 3
เพราะภรรยาเครียดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนแท้งไปเมื่อคืนวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ชี้ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเพราะมือที่ 3
ที่ทำให้ครอบครัวแตกแยกเข้าใจผิด แต่ตอนนี้ราบรื่น  กลับมาใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา และเข้าใจกันมากขึ้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


  
        ''เอ๊กซ์'' จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักแม่นปืนทีมชาติ ออกมาเปิดใจครั้งแรก หลังจากที่ได้รับการประกันออกจากเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11
นครชัยศรี จ.นครปฐม ในรายการ ''บิ๊กจ๊ะเจาะกีฬา'' ทางช่องสยามสปอร์ตนิวส์ ทรูวิชั่นส์ 114 ที่จะออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 21.00-22.00 น.
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ณ สตูดิโอ สยามสปอร์ตนิวส์


        ซึ่ง ''เอ๊กซ์'' เปิดเผยว่า ''ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นตนถูกกล่าวหาจากบุคคลที่ 3 ที่เข้ามาในครอบครัว เพราะข้อหาเรื่องยาเสพติด นั้นได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็น
โดยการตรวจปัสสาวะถึง 8 ครั้ง และไม่พบสารเสพติดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกาย ตนกับภรยยาที่อยู่กินกันมากว่า 6 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน
และคนที่ 3ที่อยู่ในท้อง 3 เดือน แต่ตนต้องเสียลูกคนที่ 3 ไปเมื่อคืนวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา
เพราะภรรยาแท้งเนื่องจากภาวะความเครียดจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่เกิดขึ้นกับตนและครอบครัว
ซึ่งตนและครอบครัวเสียดายกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่น้อย''


        ''ที่ผมได้ประกันตัวออกมา เพราะเราได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่าเราไม่ได้ติดยา ไม่ใช่คนวิกลจริตเหมือนกับที่ถูกกล่าวหามาก่อนหน้านี้
แต่เรืองที่เกิดขึ้นทั้งหมด เกิดขึ้นจากมือที่ 3 ที่มาพูดจาให้ภรรยาผมเข้าใจผิด แต่สุดท้ายเมื่อเราได้พิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา
ผมกับภรรยาก็กลับมาอยู่กันเหมือนเดิม และเข้าใจกันมากขึ้นกว่าเดิมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รวมถึงแม่เอง ที่เข้าใจว่าผมติดยาในตอนแรก เกิดจากความเข้าใจผิด เพราะเห็นว่าผมผอม


        แต่สาเหตุที่ผอมมากในช่วงนั้นคือ 1 เดือนก่อนเกิดเรื่อง ผมไปบวชที่ประเทศอินเดียมา เพราะเชื่อในพระพุทธศาสนาว่าผลบุญที่ผมทำครั้งนี้
จะส่งผลให้เนื้องอกในสมองของภรรยาผมไม่ลุกลามมากกว่าที่เป็นอยู่ พอสึกออกมาก็มาสานต่อธุรกิจที่ทำอยู่ทำให้พักผ่อนน้อย กินน้อย และผอมมาก
จนแม่เข้าใจผิดคิดว่าผมเสพยาเสพติด เมื่อพิสูจน์ว่าไม่มีสิ่งเสพติด แม่เสียใจมากแต่ผมไม่เคยโกรธท่านเลย
เพราะเราห่างกันมานานเพิ่งจะมาอยู่ด้วยกันประมาณ 2 ปี พอเห็นเราทะเลาะกันคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่


        ซึ่งความจริงแล้วมันเป็นเรื่องปกติของชีวิตคู่ และตอนที่อยู่ที่เรือนจำทหาร มีคนมาเสนอว่าจะให้ประกันตัวผมออกมา แต่ผมต้องไปบำบัดจิตเวช
และหากผมยอมรับข้อเสนอตรงนั้นผมจะเสียทรัพย์สินของเราที่ไม่สามารถคุ้มครองได้ ดูแลลูกและครอบครัวไม่ได้ เพราะเราไปยอมรับว่าเราป่วยเป็นโรคจิตจริงๆ
ที่สำคัญโอกาสทางด้านกีฬาของผมก็จะจบไปด้วย


        ''เมื่อเป็นแบบนี้ผมยินดีที่จะอยู่ในเรือนจำต่อ ไม่รับข้อเสนอ และขอพิสูจน์ตัวเองว่าผมไม่ได้เป็นคนวิกลจริต จนกระทั่งได้รับการประกันตัวออกมาครั้งนี้
ผมมีโอกาสได้กลับมาอยู่กับลูกและภรรยาอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เราเข้าใจกันดี ผมเสียอิสระภาพไปชั่วขณะ แต่ผมได้ครอบครัวและความรักชั่วนิรันดรกลับมา
เรารักและเข้าใจกันยิ่งกว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


        เพราะภรรยาผมเค้าก็รู้แล้วว่าคนที่เข้ามาเป็นมือที่ 3 ระหว่างเรานั้นไม่ได้หวังดี หวังจะหาผลประโยชน์จากเรา เป็นข้าราชการและทนายความ
ที่เอาช่องว่างทางกฎหมายมารังแกมาทำให้ครอบครัวเราแตกแยก และเมื่อให้ครอบครัวสบายใจว่าผมปกติดี เมื่อได้ประกันตัวออกมา
ผมไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลด้วยตัวเองเพื่อทดสอบ และผลทดสอบที่ออกมา หมอบอกว่าผมปกติดี ไม่ได้ผิดปกติทางจิตแต่อย่างใด
แค่ผมมีความคิดนอกกรอบก็แค่นั้นเอง''


        ''เจ้าเอ๊กซ์'' กล่าวต่ออีกว่า ''ตอนนี้ตนได้ประกันตัวออกมาแล้ว เรื่องคดีความต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและศาลต่อไป
แต่สำหรับตนจะกลับไปยิงปืนลงแข่งขันในนามทีมชาติไทยอีกครั้ง ซึ่งก็จะลงสมัครตามระเบียบของสมาคมฯ
และคิดว่าทางสมาคมฯ คงไม่มีอะไรขัดข้องที่ผมจะไปคัดตัว


        เนื่องจากตนได้พิสูจน์ให้กระจ่างแล้วว่าไม่ได้เสพยาเสพติด ไม่ได้วิกลจริต แม้ในอดีตอาจจะเคยลองมาบ้างมาประสาวัยรุ่น แต่นั้นมันนานมามากแล้ว
ซึ่งก็รู้ว่ามันไม่ดี ก็หยุดและไม่เคยหันไปหาลองมันอีกเลย ฉะนั้นผมมีสิทธิ์ที่จะเข้าคัดตัวตามระเบียบของสมาคมฯ
ซึ่งสมาคมฯ คงจะขัดขวางไม่ให้ตนคัดตัวไม่ได้ เนื่องจากตนเป็นนักกีฬาทีมชาติที่ยังอยู่ในความดูแลของศาลปกครองจากกรณีพิพาทกับสมาคมเมื่อก่อน''


        ''ผมยังมุ่งมั่นที่จะรับใช้ชาติ และทำหน้าที่นักกีฬายิงปืนสร้างผลงานให้กับประเทศเหมือนที่ผ่านมา ฉะนั้นหากมีคัดตัวเมื่อไหร่ก็จะไปคัดตามระบบของสมาคมฯ
โดยเล็งรายการแรกไว้คือ เอเชียนเกมส์ปีหน้า และหลังจากนั้นก็คอลิฟายไปคว้าตั๋วไปแข่งโอลิมปิก 2016
ซึ่งผมตั้งเป้าที่จะคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้'' จักรกฤษณ์กล่าว
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาชีวิต จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม (เอ๊กซ์)
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่