ช่วยหน่อยค่ะ คิดหาทางออกไม่เจอ ไม่รู้ว่าจะฎีกาต่อดีมั้ย (คดีขับรถโดยประมาท)

คุณพ่อโดนคดีขับรถโดยประมาท ศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 2 ปี กว่า ไม่รอลงอาญา
ตอนนี้ติดมาเกือบเดือนแล้ว สงสารคุณพ่อมาก ท่านอายุ 60 กว่าแล้ว ต้องลำบากไปอยู่ในนั้นแบบไม่ได้ตั้งตัว
คือตอนแรกทนายบอกว่า น่าจะได้รอลงอาญา แล้วประกันตัวได้เลย ไม่มีอะไรต้องห่วง
พอฟังผลตัดสินแบบนี้ ช็อคกันหมดทั้งบ้าน ทุกข์ใจกันมากๆๆ
สุขภาพท่านก็ไม่ค่อยดีด้วย อายุมากแล้ว ตัวผอมนิดเดียว

ตอนนี้ยื่นเรื่องไปที่ศาลฎีกาแล้ว เพราะมีคนแนะนำว่าศาลอาจพิจารณาให้รอลงอาญา แต่ศาลยังไม่รับเรื่อง
แต่ทีนี้ มาคิดกันในครอบครัว และคุณพ่อเองกลัวว่าเรื่องจะคาราคาซัง เกิดข้อสงสัย ทำให้ยิ่งกลุ้มใจว่า จะถอนฎีกาดีมั้ย
คือทนายของเรา เขาเป็นคนของผู้มีพระคุณกับครอบครัวเรามากจริงๆ ซึ่งออกค่าใช้จ่ายให้เยอะด้วย
เราไม่สามารถติดต่อทนายได้โดยตรง ต้องผ่านทางผู้มีพระคุณตลอด เลยทำให้เราตัดสินใจไม่ถูก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เลยหาทางถามท่านที่รู้เรื่องกฏหมายในนี้

คำถามนะคะ...

1. ไม่แน่ใจว่า ช่วงที่รอศาลฎีกาตัดสิน (ถ้าศาลรับเรื่อง) มันใช้เวลานานเท่าไหร่ 1-3 เดือน หรือเป็นปี คะ ?
2. แล้วจะทำให้เสียโอกาสดำเนินการขออภัยโทษในวันที่ 12 สค. หรือ 5 ธันวา หรือไม่ เพราะคดีค้างอยู่ที่ศาลฎีกาเป็นเดือน หรือปี
3. หากตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ แล้วกลับไปติดเหมือนเดิม ก็ทำให้เวลาที่รอการตัดสิน "เสียไปเปล่าๆเป็นปี" โดยที่ หากไม่ได้ฎีกา ก็เท่ากับว่าได้ติดมาแล้วเป็นปี เหลือเวลาติดอีกแค่ครึ่งทางเท่านั้น (ไม่แน่ใจว่า ทางกฏหมาย ได้นับเวลาประกันตัวออกมารอฟังคำตัดสิน รวมเป็นเวลารับโทษด้วยรึเปล่า ?? ถ้าไม่ ก็เสียเวลายาวเลยใช่มั้ยคะ ถ้าตัดสินนาน)

ขอบคุณทุกท่านที่เมตตาช่วยเหลือค่ะ
ขอบคุณจริงๆ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
จำเลยพลาดที่พบกับทนายที่แย่

สิ่งที่ทนายแนะนำไม่ให้ทำนั้น เป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด  ถึงแม้เราจะเป็นฝ่ายถูกก็ตาม
เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมีมนุษยธรรม ความสำนึกผิด การพยายามเยียวยา บรรเทาความเสียหาย ฯลฯ
หากปรากฎว่า เราผิด  สิ่งนั้นจะเป็นเหตุที่ศาลจะพิจารณารอการลงโทษ

ชั้นแรกสุดเป็นเรื่องที่ต้องแสดงความรับผิดชอบ  มีมนุษยธรรม  ความเห็นอกเห็นใจเพื่อมนุษย์
ใครผิด ใครถูก เป็นสิ่งที่ต้องไปว่ากันในชั้นพิจารณา  ซึ่งขึ้นกับพยานหลักฐานของแต่ละฝ่าย ที่เป็นคนละขั้นตอนกัน  พอทนายนำไปรวมกันแล้วพลาดท่าแพ้คดีขึ้นมา ถ้าทนายติดคุกแทน ก็ไม่มีปัญหาอะไร  แต่คนที่ต้องติดคุกเพราะทนายพลาด คือลูกความ ทั้งที่ควรจะเป้นการรอลงอาญา

ในชั้นฎีกา(กรณี ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย) หากมีคำร้องของฝ่ายผู้เสียหายว่า ผู้กระทำผิด/ญาติ ได้เยียวยา แสดงความสำนึกผิด และไม่ติดใจเอาความแล้ว แนบไปด้วย  แม้ตามกฎหมาย จะเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ว่ากล่าวมาแล้วโดยชอบในศาลล่าง  แต่เมื่อประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าผู้กระทำผิดอายุมากแล้ว ก็อาจมีผลให้ศาลปราณีรอการกำหนดโทษได้.. ลองดูนะครับไม่มีอะไรจะเสีย
.......................................
1.ตอบไม่ได้ว่านานเท่าไร
ตามกฎหมาย ถ้าศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและลงโทษไม่เกิน 5 ปี จะต้องห้ามฎีกา  เว้นแต่จะมีผุ้พิพากษารับรองให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงจะรับไว้พิจารณาได้  กรณีที่ศาลฎีกาไม่รับฎีกา คดีจะถึงที่สุดเมื่อศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษา
2.คดีที่จะได้รับพระราชทาอภัยโทษ ต้องเป็นคดีที่ถึงที่สุดแล้ว  
กรณีศาลฎีการับฎีกาไว้พิจารณา คดีจะยังไม่ถึงที่สุด จึงไม่เข้ากรณีที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ
3.การถูกจำคุกระหว่างรอคำพิพากษาศาลฎีกา ระยะเวลาที่จำคุกมาแล้ว  ต้องนำมาหักออกจากโทษตามคำพิพากษา
แต่หากประกันตัวออกมา ระยะเวลาที่ออกมาไม่ใช่ระยะเวลาที่รับโทษจำคุก จึงนำระยะเวลานั้นมาหักออกไม่ได้

สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  กฎหมายชาวบ้าน การจราจร อุบัติเหตุบนท้องถนน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่