สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ส่วนตัวเชื่อว่า รัฐไม่สามารถปรับลดราคาจำนำข้าวได้ฮะ ยิ่งเป็นช่วงใกล้เลือกตั้งในปีสองปีนี้ (ในกรณีไม่มีการยุบสภา) ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะปรับลดราคาจำนำข้าวฮะ..... 
ยังกังวลอยู่ว่าเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อจะชนะเลือกตั้ง ทั้งสองพรรคจะแข่งกันเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ กับราคาจำนำ(ประกัน)ข้าว แข่งกันไปถึงตัวเลขที่เท่าไหร่....
เหมือนกับประมูลกิเลสคนไทยว่าจะไปได้สูงขนาดไหน.... ดูแล้วเป็นห่วงมากฮะ....
ความจริงการทำให้ชาวนาอยู่ได้มีวิธีมากมายเช่น
1.สนับสนุนการวิจัยการเพิ่มคุณภาพข้าว การเพิ่มผลผลิตต่อไร่
2.ลดจำนวนการปลูกข้าว สนับสนุนให้ชาวนาทำการเกษตรให้หลากหลาย จัดโซนนิ่งการทำการเกษตร โดยทั้งกระทรวงพาณิชย์, กระทรวงเกษตร, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงวิทยาศาสตร์ และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ต้องมาร่วมกันจัดทำแผนการเกษตรแห่งชาติและต้องช่วยเหลือทำให้ผลผลิตเหล่านั้นขายได้ หรือนำไปแปรรูปทำอุตสาหกรรต่อเนื่องได้ทั้งหมด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเป็นกระทรวงที่สำคัญมากที่จะเป็นคนขายและโปรโมทผลิตภัณฑ์เหล่านั้นสู่ตลาดโลก (กระทรวงพาณิชย์ของไทยถือว่าทำงานยังไม่เต็มที่ สังเกตุได้ว่าผลไม้ไทยซึ่งมีคุณภาพดียังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ เห็นสินค้าผลไม้ล้นตลาดทุกปี แต่เมื่อไปต่างประเทศพบว่าผลไม้ไทยราคาสูงเป็นที่นิยมของต่างประเทศ หากกระทรวงพาณิชย์ทำงานได้ดีรับรองผลไม้ไทยไม่พอขายหรอกฮะ)
3.ลดส่วนของพ่อค้าคนกลางเช่นโรงสี จัดตั้งสหกรณ์ให้ชาวนาสามารถขายสินค้าตรงกับผู้ซื้อได้ ซึ่งนี่จะเป็นส่วนสำคัญให้เงินตกถึงมือชาวนาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย (แต่โรงสีก็คือฐานเสียงของนักการเมือง หรือก็คือญาตินักการเมือง หรือตัวนักการเมืองเองนั่นแหละฮะ)
ยังมีอีกมากที่สามารถช่วยให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้อย่างยั่งยืน ไม่มีสภาพเหมือนผู้พึ่งพารัฐตลอดเวลาอยู่อย่างนี้....
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับรัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายการเมืองว่าจะเห็นประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ส่วนรวม....
แต่เท่าที่ผ่านมานักการเมืองไทยไม่เคยเห็นผลประโยชน์คนอื่นนอกจากตนเองเลยฮะ.....

ยังกังวลอยู่ว่าเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อจะชนะเลือกตั้ง ทั้งสองพรรคจะแข่งกันเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ กับราคาจำนำ(ประกัน)ข้าว แข่งกันไปถึงตัวเลขที่เท่าไหร่....
เหมือนกับประมูลกิเลสคนไทยว่าจะไปได้สูงขนาดไหน.... ดูแล้วเป็นห่วงมากฮะ....
ความจริงการทำให้ชาวนาอยู่ได้มีวิธีมากมายเช่น
1.สนับสนุนการวิจัยการเพิ่มคุณภาพข้าว การเพิ่มผลผลิตต่อไร่
2.ลดจำนวนการปลูกข้าว สนับสนุนให้ชาวนาทำการเกษตรให้หลากหลาย จัดโซนนิ่งการทำการเกษตร โดยทั้งกระทรวงพาณิชย์, กระทรวงเกษตร, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงวิทยาศาสตร์ และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ต้องมาร่วมกันจัดทำแผนการเกษตรแห่งชาติและต้องช่วยเหลือทำให้ผลผลิตเหล่านั้นขายได้ หรือนำไปแปรรูปทำอุตสาหกรรต่อเนื่องได้ทั้งหมด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเป็นกระทรวงที่สำคัญมากที่จะเป็นคนขายและโปรโมทผลิตภัณฑ์เหล่านั้นสู่ตลาดโลก (กระทรวงพาณิชย์ของไทยถือว่าทำงานยังไม่เต็มที่ สังเกตุได้ว่าผลไม้ไทยซึ่งมีคุณภาพดียังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ เห็นสินค้าผลไม้ล้นตลาดทุกปี แต่เมื่อไปต่างประเทศพบว่าผลไม้ไทยราคาสูงเป็นที่นิยมของต่างประเทศ หากกระทรวงพาณิชย์ทำงานได้ดีรับรองผลไม้ไทยไม่พอขายหรอกฮะ)
3.ลดส่วนของพ่อค้าคนกลางเช่นโรงสี จัดตั้งสหกรณ์ให้ชาวนาสามารถขายสินค้าตรงกับผู้ซื้อได้ ซึ่งนี่จะเป็นส่วนสำคัญให้เงินตกถึงมือชาวนาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย (แต่โรงสีก็คือฐานเสียงของนักการเมือง หรือก็คือญาตินักการเมือง หรือตัวนักการเมืองเองนั่นแหละฮะ)
ยังมีอีกมากที่สามารถช่วยให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้อย่างยั่งยืน ไม่มีสภาพเหมือนผู้พึ่งพารัฐตลอดเวลาอยู่อย่างนี้....
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับรัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายการเมืองว่าจะเห็นประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ส่วนรวม....
แต่เท่าที่ผ่านมานักการเมืองไทยไม่เคยเห็นผลประโยชน์คนอื่นนอกจากตนเองเลยฮะ.....

ความคิดเห็นที่ 4
การจำนำข้าวเป็นการพนันกับตลาดข้าวโลก....
คุณทักษิณคิดว่าไทยเป็นจ้าวตลาดส่งออกข้าว สามารถกำหนดราคาข้าวโลกได้....
ประกอบกับปีก่อนๆ อินเดีย และเวียดนามมีปัญหาเรื่องผลผลิตข้าวไม่พอเพียงสามารถส่งออกข้าวได้น้อย หากเป็นอย่างนี้ต่อไปก็จะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น.....
คุณทักษิณจึงคิดว่าราคาจำนำข้าวสามารถสูงถึง 15,000 บาทได้ (ประชาธิปัตย์ให้ราคาประกันข้าวที่ 12,000 บาท) และจะไปขยับราคาขายในตลาดโลก....
ดังนั้นชาวนาเมื่อเห็นตัวเลข 15,000 ก็ย่อมต้องเลือกเพื่อไทยที่ให้ราคาสูงกว่าประชาธิปัตย์ที่ให้ 12,000 ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เพื่อไทยชนะเลือกตั้ง....
แต่ 2 ปีที่ผ่าน มันไม่ได้เป็นอย่างที่คาด เวียดนามกับอินเดียสามารถผลิตข้าวได้มาก ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกไม่เพิ่มขึ้น...
เมื่อต้นทุนข้าวเราสูง เลยทำให้ขายไม่ได้ เพราะหากขายขาดทุนก็จะเป็นประเด็นทางการเมือง.....
แต่ข้าวก็มีอายุในการเก็บ จึงเป็นปัญหาที่ใหญ่มากของรัฐบาลนี้ เราจึงไม่ได้เห็นตัวเลขอะไรเลยเกี่ยวกับการจำนำข้าว เพราะถ้าเปิดตัวเลขมาจะทำให้เกิดปัญหาประท้วงกันมากมายแน่นอนฮะ....
การจำนำข้าวเป็นนโยบายเหมือนเล่นพนันเก็งกำไร.... เมื่อแพ้พนัน ก็ต้องรับผลของการพนันนั้นไปฮะ....

คุณทักษิณคิดว่าไทยเป็นจ้าวตลาดส่งออกข้าว สามารถกำหนดราคาข้าวโลกได้....
ประกอบกับปีก่อนๆ อินเดีย และเวียดนามมีปัญหาเรื่องผลผลิตข้าวไม่พอเพียงสามารถส่งออกข้าวได้น้อย หากเป็นอย่างนี้ต่อไปก็จะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น.....
คุณทักษิณจึงคิดว่าราคาจำนำข้าวสามารถสูงถึง 15,000 บาทได้ (ประชาธิปัตย์ให้ราคาประกันข้าวที่ 12,000 บาท) และจะไปขยับราคาขายในตลาดโลก....
ดังนั้นชาวนาเมื่อเห็นตัวเลข 15,000 ก็ย่อมต้องเลือกเพื่อไทยที่ให้ราคาสูงกว่าประชาธิปัตย์ที่ให้ 12,000 ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เพื่อไทยชนะเลือกตั้ง....
แต่ 2 ปีที่ผ่าน มันไม่ได้เป็นอย่างที่คาด เวียดนามกับอินเดียสามารถผลิตข้าวได้มาก ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกไม่เพิ่มขึ้น...
เมื่อต้นทุนข้าวเราสูง เลยทำให้ขายไม่ได้ เพราะหากขายขาดทุนก็จะเป็นประเด็นทางการเมือง.....
แต่ข้าวก็มีอายุในการเก็บ จึงเป็นปัญหาที่ใหญ่มากของรัฐบาลนี้ เราจึงไม่ได้เห็นตัวเลขอะไรเลยเกี่ยวกับการจำนำข้าว เพราะถ้าเปิดตัวเลขมาจะทำให้เกิดปัญหาประท้วงกันมากมายแน่นอนฮะ....
การจำนำข้าวเป็นนโยบายเหมือนเล่นพนันเก็งกำไร.... เมื่อแพ้พนัน ก็ต้องรับผลของการพนันนั้นไปฮะ....

แสดงความคิดเห็น
สาเหตุของการเสียแชมป์โลกส่งออกข้าว คืออะไรคะ ? แล้วมันตั้งแต่ตอนไหน ?
ใครมีความรู้เรื่องนี้รบกวนอธิบายหน่อยได้ไหมค่ะ
ถ้าแท็กผิดห้องต้องขอโทษด้วยนะค่ะ...