รสนา โตสิตระกูล เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) มีใจความว่า :
การขยายพ.ร.บ ความมั่นคงอย่างกว้างขวางครอบคลุม 50 เขตของกรุงเทพ และปริมณฑลตามคำแถลงของนายกฯยิ่งลักษณ์ ในคืนวันที่ 25 พ.ย 2556 นั้น นอกจากจะไม่สามารถยุติการชุมนุมของประชาชนที่มีความไม่พอใจรัฐบาลที่ปฏิเสธอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังจะเพิ่มความไม่พอใจ และขยายจำนวนผู้เข้าชุมนุมมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการชุมนุมของประชาชนจำนวนมหาศาลในวันที่ 24 พ.ยที่ผ่านมา
การที่รัฐบาลเพิกเฉยต่อความรู้สึกไม่พอใจของประชาชนจากการที่รัฐบาลประกาศไม่รับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังสนับสนุนแกนนำมวลชนของรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรี และ ส.ส เข้าร่วมในการประกาศต่อต้านไม่รับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเลยเถิดไปถึงขั้นกล่าวหาว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นตัวการประหารรัฐ โดยการใช้หัวข้อเวทีการชุมนุมว่า "รัฐถูกประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ" เป็นการส่อเจตนาว่ารัฐบาลไม่รักษาความเป็นประชาธิปไตยภายใต้หลักนิติรัฐ (Legal State) ที่ทุกภาคส่วนต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเฉพาะรัฐบาล และรัฐสภา
หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ประชาชนก็จะมีความชอบธรรมที่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งของรัฐบาลที่ทำผิดกฎหมาย ด้วยเช่นกัน (Civil Disobedience) เพื่อไม่ให้สถานการณ์ทางการเมืองลุกลามไปจนเกินแก้ไข จึงขอให้นายกฯยิ่งลักษณ์โปรดพิจารณาข้อเสนอดังนี้
1) ขอให้นายกฯ ยุติการเมืองของครอบครัวเพื่อรักษาระบอบเสรีประชาธิปไตยของประเทศไทยไว้
2) ขอให้รัฐบาลยุติการแบ่งแยกและปกครอง ด้วยการเลิกสนับสนุนมวลชนฝ่ายรัฐบาลมาบิดเบือนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และยกเลิกคำสั่งการขยายพื้นที่ความมั่นคง
หากรัฐบาลไม่พิจารณาตามข้อเรียกร้องนี้โดยเร่งด่วน เหตุการณ์ความรุนแรงก็จะขยายตัวอย่างรวดเร็วเหมือนเอาน้ำมันไปราดกองไฟ ซึ่งจะเกินความสามารถของรัฐบาลจะระงับยับยั้งได้ และจะก่อความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรง
รสนา โตสิตระกูล
สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพฯ
26 พฤศจิกายน 2556
…………………………………………………………………..
(1. นายกฯยิ่งลักษณ์แถลงในคืนวันที่ 25
สว.รสนาบอกว่าเพิ่มความไม่พอใจ และขยายจำนวนผู้เข้าชุมนุมมากขึ้น
ดังจะเห็นได้จากการชุมนุมของประชาชนจำนวนมหาศาลในวันที่ 24 พ.ย.
ทำไมเอาวันที่ผ่านมาแล้วมาอ้างจำนวนการเพิ่มหลังการแถลงของนายกฯ!)
(2. สว.รสนา ยังข่มขู่ว่า ประชาชนก็จะมีความชอบธรรมที่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งของรัฐบาลที่ทำผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน
เธอมองไม่เห็นว่า ศาล รธน. ไม่มีอำนาจ แต่กระทำเกินกว่าอำนาจที่มี รัฐบาลจึงไม่ต้องฟังคำสั่งศาล รธน.
เธอมองไม่เห็นว่า ประชาชนไม่มีสิทธิ์กระทำผิดกฎหมาย จะถูกจับดำเนินคดีได้)
(3. สว.รสนา ข่มขู่อีกว่า เหตุการณ์ความรุนแรงก็จะขยายตัวอย่างรวดเร็วเหมือนเอาน้ำมันไปราดกองไฟ
ซึ่งจะเกินความสามารถของรัฐบาลจะระงับยับยั้งได้ และจะก่อความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรง
ข้อความนี้ ราวกับว่า บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป ใครอยากจะเกเรยังไงก็ทำได้ จะป่วนบ้านป่วนเมืองแค่ไหนก็ทำได้
เธอคงอยากให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ เหมือนอียิปต์ เหมือนซีเรีย
คนอย่างนี้เป็นอันตรายต่อประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง)
จดหมายเปิดผนึก (ข่มขู่) จาก รสนา โตสิตระกูล ถึงนายกรัฐมนตรี
การขยายพ.ร.บ ความมั่นคงอย่างกว้างขวางครอบคลุม 50 เขตของกรุงเทพ และปริมณฑลตามคำแถลงของนายกฯยิ่งลักษณ์ ในคืนวันที่ 25 พ.ย 2556 นั้น นอกจากจะไม่สามารถยุติการชุมนุมของประชาชนที่มีความไม่พอใจรัฐบาลที่ปฏิเสธอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังจะเพิ่มความไม่พอใจ และขยายจำนวนผู้เข้าชุมนุมมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการชุมนุมของประชาชนจำนวนมหาศาลในวันที่ 24 พ.ยที่ผ่านมา
การที่รัฐบาลเพิกเฉยต่อความรู้สึกไม่พอใจของประชาชนจากการที่รัฐบาลประกาศไม่รับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังสนับสนุนแกนนำมวลชนของรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรี และ ส.ส เข้าร่วมในการประกาศต่อต้านไม่รับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเลยเถิดไปถึงขั้นกล่าวหาว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นตัวการประหารรัฐ โดยการใช้หัวข้อเวทีการชุมนุมว่า "รัฐถูกประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ" เป็นการส่อเจตนาว่ารัฐบาลไม่รักษาความเป็นประชาธิปไตยภายใต้หลักนิติรัฐ (Legal State) ที่ทุกภาคส่วนต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเฉพาะรัฐบาล และรัฐสภา
หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ประชาชนก็จะมีความชอบธรรมที่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งของรัฐบาลที่ทำผิดกฎหมาย ด้วยเช่นกัน (Civil Disobedience) เพื่อไม่ให้สถานการณ์ทางการเมืองลุกลามไปจนเกินแก้ไข จึงขอให้นายกฯยิ่งลักษณ์โปรดพิจารณาข้อเสนอดังนี้
1) ขอให้นายกฯ ยุติการเมืองของครอบครัวเพื่อรักษาระบอบเสรีประชาธิปไตยของประเทศไทยไว้
2) ขอให้รัฐบาลยุติการแบ่งแยกและปกครอง ด้วยการเลิกสนับสนุนมวลชนฝ่ายรัฐบาลมาบิดเบือนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และยกเลิกคำสั่งการขยายพื้นที่ความมั่นคง
หากรัฐบาลไม่พิจารณาตามข้อเรียกร้องนี้โดยเร่งด่วน เหตุการณ์ความรุนแรงก็จะขยายตัวอย่างรวดเร็วเหมือนเอาน้ำมันไปราดกองไฟ ซึ่งจะเกินความสามารถของรัฐบาลจะระงับยับยั้งได้ และจะก่อความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรง
รสนา โตสิตระกูล
สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพฯ
26 พฤศจิกายน 2556
…………………………………………………………………..
(1. นายกฯยิ่งลักษณ์แถลงในคืนวันที่ 25
สว.รสนาบอกว่าเพิ่มความไม่พอใจ และขยายจำนวนผู้เข้าชุมนุมมากขึ้น
ดังจะเห็นได้จากการชุมนุมของประชาชนจำนวนมหาศาลในวันที่ 24 พ.ย.
ทำไมเอาวันที่ผ่านมาแล้วมาอ้างจำนวนการเพิ่มหลังการแถลงของนายกฯ!)
(2. สว.รสนา ยังข่มขู่ว่า ประชาชนก็จะมีความชอบธรรมที่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งของรัฐบาลที่ทำผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน
เธอมองไม่เห็นว่า ศาล รธน. ไม่มีอำนาจ แต่กระทำเกินกว่าอำนาจที่มี รัฐบาลจึงไม่ต้องฟังคำสั่งศาล รธน.
เธอมองไม่เห็นว่า ประชาชนไม่มีสิทธิ์กระทำผิดกฎหมาย จะถูกจับดำเนินคดีได้)
(3. สว.รสนา ข่มขู่อีกว่า เหตุการณ์ความรุนแรงก็จะขยายตัวอย่างรวดเร็วเหมือนเอาน้ำมันไปราดกองไฟ
ซึ่งจะเกินความสามารถของรัฐบาลจะระงับยับยั้งได้ และจะก่อความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรง
ข้อความนี้ ราวกับว่า บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป ใครอยากจะเกเรยังไงก็ทำได้ จะป่วนบ้านป่วนเมืองแค่ไหนก็ทำได้
เธอคงอยากให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ เหมือนอียิปต์ เหมือนซีเรีย
คนอย่างนี้เป็นอันตรายต่อประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง)