เนื่องด้วยปัจจุบันสถานการณ์การเมืองยิ่งมีความรุนแรงขึ้นทุกวันจากเหตุการต่างๆ ไม่ว่าจะมาจากทั้งฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ที่เป็นชนวนให้เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เราเป็นคนนึงที่ไม่อยากเห็นความรุนแรงและอยากให้สังคมไทยสงบไม่มีการแบ่งฝ่าย อยากให้มีความสามัคคีกัน เพราะขณะที่เรามัวแต่ทะเลาะกันเองนั้น เพื่อนบ้านเราต่างพัฒนาความสามารถในการแข่งขันอยู่เสมอ จนบางประเทศที่เมื่อก่อนเราเคยนำหน้า ตอนนี้เริ่มเข้ามาใกล้เราขึ้นทุกที หากไทยเป็นแบบนี้อีก 10 ปี อาจจะกลายเป็นประเทศที่ตามหลังเพื่อนบ้านก็ได้
เราอ่านเรื่องการเมื่อแต่ไม่เคยแสดงความคิดเห็นเลย จนเรามานั่งคิดวิเคราะห์ว่าปัญหาตอนนี้มันเกิดจากระบบพรรคพวกใช่หรือไม่ ใครมีคนมากกว่าก็จะอ้างสิทธิความชอบธรรมต่างๆนานา เรามองลึกลงไปในรายละเอียดก็จะเห็นว่าระบบการเลือกตั้งนั้นจริงแล้วดีมากเพราะจะมีความเป็นประชาธิปไตยสูง แต่ระบบที่มันมีพรรคการเมืองนั้นเป็นต้นตอของปัญหาในไทยของการแบ่งฝ่าย ย้ำนะว่าการมี “พรรคการเมือง”เป็นต้นตอของปัญหาใน “ไทย” เพราะเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีการแบ่งฝ่ายไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือเลือกตั้งระดับประเทศ หรือจะให้กล่าวอีกแบบนึงคือพรรคใครก็พรรคมัน ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมายไม่ว่าจะเป็นการคอรัปชั่น การเกิดพวกพ้องทำให้ไม่มีความเป็นกลางในการปฏิบัติงาน ปกติระบบการเมืองจะเข้าไปคานอำนาจไม่ให้ข้าราชการมีอำนาจมากเกินไป แล้วส่วนการเมืองละใครคานอำนาจ??? หากคิดว่ามีเสียงข้างมากจะมีอำนาจในทุกๆเรื่อง คงจะไม่ใช่ ก็ต้องมาแก้ที่ระบบการเมือง เราคิดเล่นๆว่าหากไม่มีพรรคการเมืองระบบมันจะดีขึ้นหรือไม่ ให้ ส.ส. ทุกคนเป็นอิสระจากพรรคการเมือง ไม่ให้มีใครสังกัดพรรคใด โดยยกเลิกระบบพรรคการเมืองซะ คนที่เข้าไปเป็น ส.ส. คือ เข้าไปเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล การเลือกนายก ก็ให้ ส.ส. เป็นคนเสนอชื่อแล้วโหวตให้เหลือ 2 คน หลังจากนั้นให้ประชาชน เป็นคนเลือกตั้งอีกครั้ง โดยให้แสดงวิสัยทัศน์ นโยบาย ต่อกัน โดยทำแบบอเมริกา โดยให้มีการดีเบท 2 ครั้งเพื่อให้อีกฝ่ายแก้มือ ก่อนให้ประชาชนเป็นคนเลือกตั้งจริง ส่วนการเลือกรัฐมนตรี เป็นอำนาจนายกที่จะเลือกคนนอกหรือ ส.ส. ก็ได้ที่ตัวเองไว้ใจและมีความสามารถให้บริหารในตำแหน่งนั้นๆ ส่วนนายกก็ให้เป็นได้ไม่เกิน 2 วาระ เพื่อป้องกันการผูกขาดอำนาจ ส่วน ส.ส. ก็มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล หรือ ส.ส.กลัวเสียผลประโยชน์???
ดังนั้นหากทั้งสองฝ่ายที่ต่างอ้างว่าทำเพื่อชาติ ต้องกล้าที่จะหยุดทำร้ายประเทศเสียที คำถามที่เราอยากรู้จากทั้งสองฝ่ายคือ
1.กล้าที่จะเสียผลประโยชน์ของตัวเองหรือไม่
หากท่านไม่กล้า ท่านควรเป็น ส.ส. หรือไม่
ส่วนข้อเสนอที่อยากให้เป็นจริงมากที่สุดคือการยกเลิกการมีพรรคการเมืองมากที่สุด ไม่รู้ว่าจะมีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไรโปรดชี้แนะด้วย
ข้อเสนอข้างต้นอาจจะเป็นการแก้ปัญหาในทางความคิดของเราเองจึงอยากแชร์ความคิดเห็นในการแก้ปัญหาของท่านอื่นดูหากท่านใดมีข้อเสนอแนะวิธีการที่ดีและเป็นกลางโปรดนำเสนอในกระทู้นี้ได้เลย จะติการการปัญหาที่เสนอนี้ก็ได้ว่ามีข้อเสียอะไรบ้างจะได้เป็นความรู้ต่อไป
ขอบคุณค่ะ
กระทู้นี้ขอข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นกลางค่ะ ใครมีฝ่ายใดในใจโปรดอ่านอย่างเดียว
เราอ่านเรื่องการเมื่อแต่ไม่เคยแสดงความคิดเห็นเลย จนเรามานั่งคิดวิเคราะห์ว่าปัญหาตอนนี้มันเกิดจากระบบพรรคพวกใช่หรือไม่ ใครมีคนมากกว่าก็จะอ้างสิทธิความชอบธรรมต่างๆนานา เรามองลึกลงไปในรายละเอียดก็จะเห็นว่าระบบการเลือกตั้งนั้นจริงแล้วดีมากเพราะจะมีความเป็นประชาธิปไตยสูง แต่ระบบที่มันมีพรรคการเมืองนั้นเป็นต้นตอของปัญหาในไทยของการแบ่งฝ่าย ย้ำนะว่าการมี “พรรคการเมือง”เป็นต้นตอของปัญหาใน “ไทย” เพราะเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีการแบ่งฝ่ายไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือเลือกตั้งระดับประเทศ หรือจะให้กล่าวอีกแบบนึงคือพรรคใครก็พรรคมัน ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมายไม่ว่าจะเป็นการคอรัปชั่น การเกิดพวกพ้องทำให้ไม่มีความเป็นกลางในการปฏิบัติงาน ปกติระบบการเมืองจะเข้าไปคานอำนาจไม่ให้ข้าราชการมีอำนาจมากเกินไป แล้วส่วนการเมืองละใครคานอำนาจ??? หากคิดว่ามีเสียงข้างมากจะมีอำนาจในทุกๆเรื่อง คงจะไม่ใช่ ก็ต้องมาแก้ที่ระบบการเมือง เราคิดเล่นๆว่าหากไม่มีพรรคการเมืองระบบมันจะดีขึ้นหรือไม่ ให้ ส.ส. ทุกคนเป็นอิสระจากพรรคการเมือง ไม่ให้มีใครสังกัดพรรคใด โดยยกเลิกระบบพรรคการเมืองซะ คนที่เข้าไปเป็น ส.ส. คือ เข้าไปเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล การเลือกนายก ก็ให้ ส.ส. เป็นคนเสนอชื่อแล้วโหวตให้เหลือ 2 คน หลังจากนั้นให้ประชาชน เป็นคนเลือกตั้งอีกครั้ง โดยให้แสดงวิสัยทัศน์ นโยบาย ต่อกัน โดยทำแบบอเมริกา โดยให้มีการดีเบท 2 ครั้งเพื่อให้อีกฝ่ายแก้มือ ก่อนให้ประชาชนเป็นคนเลือกตั้งจริง ส่วนการเลือกรัฐมนตรี เป็นอำนาจนายกที่จะเลือกคนนอกหรือ ส.ส. ก็ได้ที่ตัวเองไว้ใจและมีความสามารถให้บริหารในตำแหน่งนั้นๆ ส่วนนายกก็ให้เป็นได้ไม่เกิน 2 วาระ เพื่อป้องกันการผูกขาดอำนาจ ส่วน ส.ส. ก็มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล หรือ ส.ส.กลัวเสียผลประโยชน์???
ดังนั้นหากทั้งสองฝ่ายที่ต่างอ้างว่าทำเพื่อชาติ ต้องกล้าที่จะหยุดทำร้ายประเทศเสียที คำถามที่เราอยากรู้จากทั้งสองฝ่ายคือ
1.กล้าที่จะเสียผลประโยชน์ของตัวเองหรือไม่
หากท่านไม่กล้า ท่านควรเป็น ส.ส. หรือไม่
ส่วนข้อเสนอที่อยากให้เป็นจริงมากที่สุดคือการยกเลิกการมีพรรคการเมืองมากที่สุด ไม่รู้ว่าจะมีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไรโปรดชี้แนะด้วย
ข้อเสนอข้างต้นอาจจะเป็นการแก้ปัญหาในทางความคิดของเราเองจึงอยากแชร์ความคิดเห็นในการแก้ปัญหาของท่านอื่นดูหากท่านใดมีข้อเสนอแนะวิธีการที่ดีและเป็นกลางโปรดนำเสนอในกระทู้นี้ได้เลย จะติการการปัญหาที่เสนอนี้ก็ได้ว่ามีข้อเสียอะไรบ้างจะได้เป็นความรู้ต่อไป
ขอบคุณค่ะ