บอกลารัก 7 ปี (บอกเลิกในวันที่บอกรัก)

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของเราคะ ถึงแม้ว่ามันจะจบและผ่านไปนานแล้ว แต่มันก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องในชีวิตที่เราจะไม่มีวันลืมลงได้
เลยอยากเล่าและแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ได้ฟัง แต่บอกก่อนนะคะว่าเรื่องของเราค่อนข้างยาวเหมือนกัน ไม่รู้จะเล่าย่อๆ ให้ฟังยังไง เริ่มเลยหละกัน

เราคบกับแฟนเราตั้งแต่เรียน ปวส ด้วยกัน เลยจะขอท้าวความไปสมัยคบกันให้รู้จักนิสัยของแฟนเราคร่าวๆ ก่อนนะคะ

เราเป็นรุ่นน้องแฟน 1 ปีคะ เข้าไปปีแรกที่มหาลัยเลยก็รู้จักกัน และคบกัน 1 ปีแรกปกติดีคะ เค้านิสัยดี เอาใจใส่ เสมอต้น เสมอปลาย ไม่เคยทะเลากัน  พอเราจะขึ้นปี 2 นั่นหมายความว่าเค้าก็จบระดับ ปวส พี่เค้าก็มาเรียนต่อปริญญาตรี ที่กรุงเทพคะ ทำให้เราห่างกัน เจอกันปีละ 3-4ครั้งเอง ในระหว่างที่เค้าเรียนอยู่กรุงเทพก็มีแค่การติดต่อกันทางโทรศัพท์  โทรคุยอย่างเดียวคะ ไม่มีไลน์ มีเฟซบุก อะไรทั้งนั้น สมัยนั้นยังยุค 2G อยู่เลยคะ พี่เค้าก็โทรมาหาเราอย่างสม่ำเสมอคะ ทำให้1 ปีที่ห่างกันไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็มีเรื่องเบาๆ มากวนใจอยู่เรื่องนึงเหมือนกัน
มีครั้งหนึงที่เรามาเจอเค้าตอนปิดเทอม มีสายโทรเข้า แล้วเค้าไม่รับต่อหน้าเราคะ เราเลยถามเค้าตอนนั้นเลยว่าใครโทรมา ทำไมไม่รับ ตามประสาแฟนน่ะคะ แต่ตอนนั้นแกล้งถามหยอกๆนะคะ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรด้วยซ้ำ แต่พี่เค้าเหมือนแคร์เรามาก เห็นเราสงสัยปุ๊บ ก็รีบยอมรับมาเลยคะว่า เป็นเพื่อนของเพื่อน เพิ่งรู้จักกันเอง คิดแบบน้อง น้องเค้าก็รู้ว่าพี่มีแฟนแล้วนะ ถ้าไม่เชื่อนะ จะให้พาไปรู้จักก็ได้ อะไรทำนองนี้แหละคะ การพูดจาของเค้าทำให้เราเชื่อใจคะว่าไม่น่าจะมีอะไร เพราะถามไปนิดเดียว ตอบหมดเลย แถมยังโทรหาน้องเค้าแล้วพูดว่า เมื่อกี้โทรมา มีอะไรไหม ….. แล้วตามด้วย พอดีอยู่กับแฟน เลยไม่ได้ดูโทรศัพท์ ( แหม ทำเป็นอ้างเรา) ซักพักก็วางสาย แต่พอเราได้ยินเค้าพูดอย่างงั้น ก็โล่งใจนะซิคะ คิดว่าคงไม่มีอะไรจริงๆ มั้ง อีกอย่างคือเรามาถามวันที่เราจะกลับต่างจังหวัดแล้ว อารมณ์ไม่อยากทะเลาะกัน เพราะแค่ห่างกันก็มากพอแล้ว ต้องมาทะเลาะกันอีก และท่าทางที่เค้าทำให้เราไว้ใจ ก็ไม่ติดใจอะไร (แต่ความจริงเป็นยังไง เราไม่รู้นะคะ ) หลังจากนั้นพี่เค้าก็ยังปฏิบัติกับเราสม่ำเสมอ โทรมาเป็นประจำ รับสายทุกครั้ง ไม่มีอะไรให้น่ากังวลใจเลย ก็ผ่านไปคะ 1 ปี

พอเราเรียนจบ ปวส เหมือนกัน ก็คิดจะมาเรียนกรุงเทพ ส่วนนึงเพราะแฟน และอีกส่วนก็เพราะเราได้ทุนมาเรียนที่มหาลัยแห่งหนึงด้วย แต่ก็คนละมหาลัยกันนะคะ ก็ไม่ใกล้กันด้วย แต่อย่างน้อยก็ยังน่าจะได้เจอกันบ่อยขึ้น แล้วเราก็ได้มาเรียนกรุงเทพคะ
ความรักของเราราบรื่นดี เพื่อนๆ ต่างชื่นชม ว่าเหมาะสมกัน คบกันนานดี ต่างๆ นาๆ  พี่เค้าพาเราไปเจอที่บ้านบ่อยครั้ง และพี่เค้าเองก็เจอกับที่บ้านเราบ่อยเหมือนกัน ทุกอย่างดูดีมากใช่ไหมหละคะ????

พอเราขึ้นปี 4 ปีสุดท้าย แฟนเราก็ทั้งทำโปรเจคจบแล้วก็มีฝึกงานด้วย (แฟนเราเค้าเรียนคณะที่ต้องเรียน 5 ปี ดังนั้นเราจึงจบพร้อมกัน) เรียนปีสุดท้ายของทั้งคู่ ก็ต่างคนต่างยุ่ง ก็เลยเจอกันน้อยลงกว่าตอนเราย้ายมากรุงเทพใหม่ๆ อีกอย่างพอไม่มีเรื่องทะเลาะกัน เชื่อใจกันมาก การเจอกันบ่อยๆ เลยมองว่าไม่จำเป็น สำหรับคู่เรา  

พี่เค้าบอกว่าเค้าต้องไปฝึกงานที่โรงงาน ห้ามพกโทรศัพท์ ต้องเก็บไว้ล็อคเกอร์ โรงงานมีเข้ากะอีก บางทีวันหยุดบอกว่าเข้าไปช่วยงานหัวหน้า ประมาณว่าเค้าก็เป็นคนเก่ง พี่ที่ทำงานอยากให้มาทำด้วยไรงี้ บางทีทำกะเช้าต่อกะบ่าย ทำกำบ่ายต่อกะกลางคืนอีก เราก็ไม่ค่อยสันทัด และยังเชื่อใจเค้ามากๆอยู่  แรกๆ ก็ยังไม่เท่าไหร่คะเพราะเชื่อที่เค้าบอก แต่หลังๆ มันดูแปลกๆ มากขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ทำไมติดต่อตัวมันยากจังนะ  แต่ก็ไม่เคยถาม เก็บความสงสัยไว้ จนกระทั่งวันนึงเค้ามาหาเรา ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน เราสังเกตว่าเค้าปิดโทรศัพท์ ตอนเค้าเข้าห้องน้ำ ด้วยสัญชาตญาณ เราแอบเปิดโทรศัพท์เค้าคะ (บอกเลยนะคะ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเช็ค) ครั้งนี้ทนไม่ไหวจริงๆ ขออนุญาตเปิดดูเลยคะ เราไล่เบอร์โทรออก เบอร์รับสาย เราเห็นเบอร์ที่โทรออกและรับบ่อยอยู่เบอร์นึงคะ แต่พี่เค้าไม่เม็มเบอร์คะ เราก็แอบเม็มในโทรศัพท์ตัวเองไว้ แล้วปิดเครื่องวางที่เดิมคะ เนียนนิ่งๆ ไป ทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นเดินไปส่งเค้าขึ้นรถกลับ

พอเค้ากลับไปแล้ว เราโทรหาเบอร์นั้นเลยคะ ใช้โทรศัพท์ตู้หยอดเหรียญไป “สวัสดีค่ะ” ผญ รับสาย ตกใจ แต่นิ่งไว้ก่อนคะ ไม่รู้ปลายทางเป็นใคร เราเลยแกล้งทำเป็นขอสายแฟนเราคะ “ขอสายพี่..คะ” ผญ คนนั้นพูดว่า “ อ้อ พี่เค้าไม่อยู่คะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”  เราก็เนียนต่อคะ “พอดีเป็นเพื่อนที่ฝึกงานโทรหาเค้าไม่ติด เพื่อนเค้าให้โทรมาเบอร์นี้คะ” (55 เราก็ไม่เบา) ผญ คนนั้นก็ตอบว่า “เดี๋ยวถ้าพี่เค้ามาจะบอกให้นะคะ” เราเลยถามต่อว่า “โทษนะคะ แล้วนี่เบอร์ใครคะ”  เค้าตอบว่า “ อ่อ ก็เป็นแฟนพี่เค้าคะ”
อึ้ง!!!!  และขอวางโทรศัพท์ไปคะ แล้วเราก็ร้องไห้อยู่ในตู้โทรศัพท์เลยคะ ดีที่ไม่มีคนมายืนต่อ แล้วก็เดินร้องไห้กลับไปจนถึงหอพักเราคะ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ความรักวัยรุ่น Hurt Room ความรักวัยทำงาน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่