เกมการเมืองวันนี้

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเล่นๆของผม เพื่อผ่อนคลายความตรึงเครียดจากสถานการณ์บ้านเมือง ณ ขณะนี้นะครับ

ฝั่งรัฐบาล

รัฐบาลปัจจุบันนั้นเป็นรัฐบาลที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เสมือนหนึ่งว่ารัฐบาลชุดนี้นั้นมีตราประทับขององค์ฮ่องเต้ถ้าเทียบไปกับยุคสมัยก่อน นั่นหมายถึงอำนาจความชอบธรรมต่างๆนั้นรัฐบาลสามารถกระทำได้โดยบริสุทธิ์ใจ ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่ารัฐบาลนั้นถือเสบียงซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในการรบพุ่ง
เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร หากคุณเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตสิ่งที่คุณต้องการคืออาหารเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตอย่างเลี่ยงไม่ได้

กลยุทธ์

รัฐมองว่าได้เปรียบเรื่องของเสบียง และอำนาจอันชอบธรรม จึงทำการปิดเมืองรบ ซึ่งเป็นกลยุทธที่สมัยกรุงศรีอยุธยานั้นใช่ต้านข้าศึกมาตลอด พอพม่ามาบุกก็ปล่อยให้ปิดล้อมกรุงไป พอถึงฤดูน้ำหลากพม่าก็จำต้องถอยทัพกลับอย่างเลี่ยงมิได้  อีกประการหนึ่งรัฐบาลก็อาศัยการรบแบบกองโจรเพื่อบั่นทอนเสบียงของฝั่งตรงข้ามด้วยการปลุกระดมชนกลุ่มกลุ่มน้อยต่างๆที่ยังอยู่ข้างตนเองขึ้นมาเพื่อตัดกำลังคู่ต่อสู้ ตรงจุดนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องของจิตวิทยาการรบ เพราะในการเลือกฝ่ายนั้นจะต้องมีกลุ่มที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดอยู่ไม่มากก็น้อย ถ้าปล่อยให้ฝั่งตรงข้ามกระจายอำนาจไปเรื่อยๆนั่นหมายถึงที่คนในกลุ่มนี้อาจจะ ผมใช้คำว่า "อาจจะ" หรือมีโอกาสแปลเปลี่ยนจากไม่เลือกกลายเป็นอยู่ฝั่งตรงข้ามเพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีทางเลือกแค่ ฝั่งตรงข้าม กับเป็นกลาง ดังนั้นจึงต้องมีการใช้สงครามกองโจรออกไปสู้ยังนอกฐานที่มั่นเพื่อลดทอนโอกาส และเป็นการข่มขวัญฝั่งตรงข้ามไปในตัว รอจนเวลาสุกงอม ถ้าฝั่งตรงข้ามไม่เสบียงหมดและถอยไปเอง ก็สามารถเข้าเผด็จศึกได้ในช่วงเวลาที่ระส่ำระส่าย หรือเกิดความขัดแย้งกันเอง

เงื่อนไขความสำเร็จ
-การข่มขวัญ เพื่อตัดกำลังคู่ต่อสู้ (คนชุมนุมจะมาน้อยลง และพวกที่อยู่จะใจฝ่อหนีไปเอง ด้วยการใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือ)
-การข่าว (ยุยงให้เกิดความแตกแยก และสร้างทางเลือกในกลุ่มคนหมู่มากซึ่งทำได้ง่ายมาก เพราะกลุ่มคนที่มาชุมนุมนั้นมีจำนวนมากเกิดควบคุม)
-เสบียง (ความอดทนมีมากแค่ไหน ชัยชนะก็ยิ่งใกล้เท่านั้น)


ฝั่ง ปชป

ผมมองว่า เค้าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้แนบเนียนมากๆ ถึงเรื่องราวมันเริ่มต้นจาก พรบ.นิรโทษเล็กๆ และมันก็จบไปแล้ว แต่เค้ามองว่าคนที่มาร่วมในช่วงต่อต้าน พรบ. ไม่ชอบทักษิณ ผมกำลังหมายถึงให้เราแยกเรื่อง พรบ. กับ การขับไล่รัฐบาลออกจากกันนะครับ ดังนั้นคนที่มาชุมนุมต่อต้าน พรบ.จะถูกแบ่งเป็น 2กลุ่มด้วยกัน คือ 1.ไม่ชอบ พรบ. และรัฐบาล  2.ไม่ชอบ พรบ. และเฉยๆกับรัฐบาล และนั่นแปลว่าคนกลุ่มที่ ไม่ชอบทั้งสองอย่างนั้นอยู่ต่ออย่างแน่นอนครับ อย่างน้อยก็ขอแค่ 5ใน10 จากคนที่มาร่วมชุมนุมก็เพียงพอ นั่นแปลว่าเหลืออีก 5ใน10 ที่พร้อมจะถูกชักจูงจากคนหมู่มากที่มาร่วมชุมนุมต่อต้าน พรบ. ในครั้งนั้น สมมุติว่าได้มาแค่ 1ใน5 ก็พอ ทางปชป จะได้ผู้ร่วมชุมนุมใหม่อีก 6ใน10ของผู้ที่มาร่วมชุมนุมในการต่อต้าน พรบ อาจจะดูธรรมดานะครับ แต่ครับแต่ การชุมนุมแต่ละรอบที่ ปชป จัดขึ้นมาเนี่ยเมื่อก่อนส่วนมากผมมองว่าจะมีแต่คน ตจว ที่มาเข้าร่วมซะส่วนมาก แต่การชุมนุมต่อต้าน พรบ.นิรโทษ มันดันมีคน กทม. มาเข้าร่วมซธส่วนใหญ่นี่ซิที่น่าคิด เพราะปกติคน กทม. จะอยู่เฉยๆทำมาหากิน รอมองเกมการเมืองไปอย่างเรื่อยเปื่อย นั่นหมายความว่า ปชป นั้นได้กำลังรบหน้าใหม่มามากโขเลย แยบยลจริงๆสำหรับ ปชป มาเนียนๆแล้วก็กว้านเรียบ ถึงขนาดรัฐบาลต้องทำสงครามกองโจรตามที่ผมกล่าวมาข้างต้นสู้ด้วย

กลยุทธ

ปชป เลือกใช้กลยุทธป่าล้อมเมือง ครับค่อยๆโอบตีเข้ามาเรื่อยๆ แล้วยกเรื่องสิทธิทางประชาธิปไตยมาเป็นข้ออ้าง พอเห็นภาพใช่ไหมครับ การที่ค่อยๆขยาย และยกระดับการชุมนุมเพื่อกดดันรัฐบาลที่ปิดเมืองตั้งรับรอคอยโอกาส เริ่มสนุกแล้วใช่ไหมครับ

เงื่อนไขความสำเร็จ
-เวลา (สำคัญมากครับ การที่คนมาชุมนุมกันมากมาย ร้อยพ่อพันแม่ มาด้วยใจบ้างไม่ใช่บ้าง ไม่ต่างอะไรกับทหารอาสาหรือคนที่โดนบังคับเกณฑ์ทหารหรือวัยรุ่นที่กำลังห้าว สุดท้ายถ้าไม่รีบเผด็จศึกแปปเดียวหายเรียบครับ เปรียบเสมือนกองทัพที่ไม่มีเสบียง อยู่ไม่ได้แน่นอนครับ)
-การข่าว (เหมือนกันกับข้างรัฐบาลครับ เหตุผลเดยวกันด้วยคือการหาทหารเพิ่มให้ตัวเองนั่นเอง และมันก็หมายถึงการบั่นทอนจำนวนทหารฝ่ายตรงข้ามด้วย


วิเคราะห์ความสำเร็จ

ช่วงเวลานี้ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สุกงอมที่สุดแล้วที่ฝั่ง ปชป จะเผด็จศึก ปชป ค่อยๆตีโอบล้อมมาจนประชิดกำแพงเมืองของรัฐบาลแล้ว อีกไม่กี่วันนี้รู้ผลแน่นอนครับ เพราะ ปชป ต้องบุก ย้ำเลยนะครับว่าต้องบุก ด้วยเงื่อนไขเรื่องของเวลา ซึ่งรวมถึงวันที่ 5 ธันวาคม ด้วย ทำไมนะหรอครับ  วันหยุดทั้งทีใครไม่อยากอยู่กับครอบครัวครับ ใครไม่รักครอบครัว คนที่หยุดการชุมนุมกับไปหาครอบครัว คุณคิดว่าจะมีกี่คนครับที่จะกลับมา คนชุมนุมนะครับ ไม่ได้ทหารประจำการ ผมฟันธงว่า ปชป บุกแน่
กลับกันครับ ทางฝั่งรัฐบาลที่ตั้งรับอย่างแข็งขัน และเล่นสงครามกองโจรกับทาง ปชป ถ้าสามารถรักษาฐานที่มั่นได้อย่างมั่นคง ปัญหาก็จบเช่นเดียวกัน แต่ปัญหาคือจะต้านทานกำลังทหารที่ฮึกเฮิม และมีข้อความติดไว้ที่หน้าอกว่า "ห้ามฆ่า" เพราะถ้าฆ่าปุ้ปรัฐบาลงานงอกทันทีแน่นอนครับ แน่นอนครับลำบากชัวร์ ความรู้สึกน่าจะเหมือนเราไปนอนดูภรรยาเราเล่นชู้ต่อหน้าต่อตาเรา โดยที่เราทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรบกวนด้วยการส่งเสียง หรือสร้างความรำคาญให้หมดอารมณ์ไป แต่ถ้าผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้ รัฐบาลอยู่รอดแน่นอน และที่สำคัญจบสวยด้วย คิดง่ายๆครับ เราลงทุนมากเท่าไรผลลัพธ์ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุนยิ่งมากเท่านั้น ถ้าล้มรัฐบาลสำเร็จ ฝั่งทักษิณก็ตายยกขบวน
ถ้าล้มไม่สำเร็จ คนก็จะคิดว่า ขนาดนี้ยังตีไม่แตกเลย แล้วครั้งหน้ามันจะต้องเท่าไรถึงจะแตก

ปล.ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้ารัฐบาลนิ่งกว่าและเตรียมแผนมาดีเล่นตั้งรับรอสวนกลับ ผมว่ารอด แต่ถ้าโดน ปชป ยิงนำก่อน(ประมาณว่ายึดจุดยุทธศาสตร์ได้) เสร็จ ปชป แน่นอนครับ และสุดท้ายประชาชนเจ้าของอำนาจประชาธิปไตยอย่างเราก็เป็นแค่ตัวเบี้ยครับ

จบละครับ ขอบพระคุณที่ติดตามอ่าน

เนื่องจากมีผู้ที่พูดถึงมือที่มองไม่เห็นขึ้นมา

ผมคิดดังนี้ครับว่ามันเป็นแผนการขั้นต่อไป ถ้า ปชป รุก รัฐบาลรับอย่างอดทน มันมีแน่นอนครับ และมาจาก ปชป แน่นอนครับ เพราะต้องการโยนความผิดให้รัฐบาล สังเหตไหมครับช่วงนี้รัฐบาลเงียบมาก ไม่เปิดช่องให้โจมตี ปชป ก็ปราศัยไปซิครับ เรื่องเดิมๆ นายกคนต่อไปก็หายไปจากสือละทั้งที่เคยเป็นคนที่พูดจาดีมีหลักการ เพราะอะไรนะเหรอครับ คุณเคยเห็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเป็นผู้นำม็อบไหมหละครับ ?
ผมฟันธงว่ารัฐบาลไม่ทำร้ายตัวเองแน่นอน ยังไงก็ได้เปรียบเห็นๆ คนถือปืนกับคนถือไม้ ภาพมันชัดเจนครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่