<Spoil> ยอดนักปรุงโซมะ (Shokugeki no Souma) 49 -ฝูงหมาป่า-

กระทู้สนทนา
-เปิดตอนมาโซมะก็เปิดหม้อที่ต้มไว้ตั้งแต่ตอนที่แล้วและบอกว่า ได้ที่ซะที ซึ่งพอเปิดออกปุบกลิ่นก็โชยออกไปจนฮายามะยังต้องตกใจ ในขณะที่บรรดานักเรียนตัวประกอบเห็นสิ่งที่อยู่ในหม้อแล้วก็ตกใจขึ้นมาทันที เพราะว่ามันคือ



-ข้าวที่ต้มอยู่ในน้ำพร้อมกับผักและเครื่องเทศ หรือก็คือ"รีซอสโต้"นั่นเอง!

-ฮายามะเลยเดินเข้ามาคุยกับโซมะทันทีว่า โซมะใช้แอปเปิล กล้วยแล้วก็แครอทเอามาทำเป็นเพลส ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อาหารข้นขึ้นคล่ายกับรีซอสโต้ ซึ่งโซมะก็ชมว่าฮายามะจมูกดีจริงๆ ซึ่งฮายามะเองก็ยังคิดว่าไม่หมดแค่นั้น เพราะท่ามกลางกลิ่นเหล่านี้มีกลิ่นที่หอมแปลกประหลาดอยู่ด้วย ซึ่งโซมะเองดูจากวัตถุดิบก็ไม่ได้ใช้อะไรพิศดารเลย ทำให้ฮายามะสงสัยว่าต้นตอของกลิ่นหอมที่แตะจมูกเขาเป็นอย่างแรกนั้นคืออะไรกันแน่ ซึ่งโซมะก็คุยให้ฮายามะฟังว่า กว่าเขาจะคิดได้นี้เขาต้องผสมเครื่องเทศโต้รุ้งยันเช้าเลยนะและต้องตั้งใจมากๆด้วยถึงจะทำให้กลิ่นออกมาพอใช้ได้แบบนี้ เลยทำให้ฮายามะแอบหน่ายใจขึ้นมาแล้วคิดว่าหมอนี้จะกล้าไปหน่อยแล้ว

-ซึ่งโซมะก็ท้าฮายามะว่า ให้เขารอดูได้เลย เพราะการทำอาหารของจริงของเขาจะเริ่มหลังจากนี้ ขณะเดียวกันที่บล็อกB รุ่นพี่อิชิกิที่ดูแลกรรมการอยู่ก็กำลังโดนกรรมการของบล็อกนี้ทาบทามให้ไปทำงานด้วยอยู่



-ซึ่งคนคนนั้นคือ"เซ็นดาวาระ โอริเอะ"กรรมการของบล็อกBน้องสาวของนัตสึเมะที่บล็อกAนั้นเอง เธอกำลังพยามจีบอิชิกิให้ไปทำงานด้วย แต่ก็โดนเขาตอบกลับไปว่าเขายังเป็นนักเรียนอยู่ แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้เสนอไปว่าให้ออกกลางคันก็ได้ เธอจะดูแลเขาตลอดชีวิตที่เหลือให้เอง โดยมีกรรมการคนอื่นๆนั่งฟังแล้วก็หน้าแดงกันอยู่ ซึ่งอิชิกิก็บอกไปว่า วันนี้เขาอยากให้คุณมาดูนักเรียนปีหนึ่งที่น่ารักมากกว่าตัวเขานะ แต่โอริเอะก็เอ่ยไปว่า ใครๆก็หน้าเบื่อเหมือนกันหมด อย่างเด็กคนนั้น...

-ว่าแล้วภาพก็ตัดไปที่เมงุมิ ที่กำลังตั้งใจทำแต่ไม่วายทำถ้วยผสมเครื่องเทศกหก จนโดนบรรดาตัวประกอบบนสนามดูแคลน ซึ่งโอริเอะก็ดูรายชื่อต่อ แล้วก็เห็นสองคนที่มีนามสกุลเดียวกัน ทำให้เธอสงสัยว่าเป็นฝาแฝดกันรึเปล่า และภาพก็ตัดไปที่ทาคุมิที่กำลังง่วนกับการเคี่ยวสต็อกอยู่ ซึ่งบรรดาตัวประกอบก็ชมว่าสต็อกนั้นใช้เนื้อหน้าแข็งกับกระดูกไก่ในการทำ และทาคุมิยังใส่ใจกับการย่าง*ของพวกนี้ก่อนเป็นอย่างดี ทำให้สต็อกมีกลิ่นหอมน่ากินโชยออกมา

(เป็นเทคนิคการทำอาหารอย่างหนึ่ง คือพวกกระดูกหรือเนื้อติดกระดูดถ้าจะเอามาทำสต็อกมักจะเอาไปย่างหรือเซีย(ทำให้ผิวนอกสุก)จนเกือบไหม้เพื่อให้มีกลิ่นติดมาในน้ำสต็อก เพิ่มความน่าทานมากขึ้นและช่วยให้ออกสีน้ำตาลขึ้นอีกด้วย)

-ซึ่งบรรดาตัวประกอบก็เห็นทาคุมินวดเส้นพาสต้าต่อ แต่ก็เห็นอีกว่ามันเหลืองผิดปกติ ไม่แน่ว่าทาคุมิอาจจะนวดผงขมิ้นใส่เข้าไปด้วยรึเปล่าเลยออกเหลืองมากกว่าปกติ ว่าแล้วทาคุมิก็หยิบมีดเมซเซอร์ลูน่าประจำตัวออกมา(เอาไว้ใช้สับสมุนไพร)ซึ่งเขาก็นำมาใช้ตัดแบ่งเป็นเส้นพาสต้าทันที ทำให้บรรดานักเรียนตัวประกอบถึงกับอึ้ง เพราะใบมีดไม่เรียบจึงไม่เหมาะเอามาใช้หั่นของพวกนี้ แต่ทาคุมิกับสามารถใช้หั่นได้อย่างง่ายดายแสดงให้เห็นถึงความชำนาญในการใช้งานมีดเป็นอย่างมาก

-ด้านอิซามิเองก็กำลังเรียงมะเขือเทศไว้ที่ก้นหม้อต้ม ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรเว้นแต่รุ่นพี่อิชิกิที่มองอย่างสนใจและล่วงรู้ว่าอิซามิคิดจะทำอะไร ซึ่งโอริเอะก็บอกว่ามะเขือเทศเป็นของพื้นฐานในอาหารอิตาเลี่ยน การที่เขานำเอามาใช้แสดงว่ารู้จุดเด่นของอาหารตัวเองเป็นอย่างดี ซึ่งอิซามิเองก็ดูเหมือนจะเริ่มนวดพาสต้าบ้าง แต่ก้อนโดนั้นแตกต่างจากทาคุมิแบบสิ้นเชิงเลย คือเป็นก้อนแป้งกลมๆ ซึ่งทาคุมิก็บอกอิซามิว่า ให้อิซามิจริงจังหน่อยและคิดที่จะเอาชนะเขาให้ได้ ซึ่งอิซามิก็สัญญาว่าจะพยามให้ดีที่สุด แต่ถ้าเขาเกิดชนะพี่อย่าร้องไห้ขึ้นมานะ เพราะเวลาเล่นเกมแพ้พี่ชอบร้องไห้ ทำให้โดนทาคุมิตัดมุขไปว่า นั้นมันตั้งกะสมัยประถมไม่ใช่เรอะ!?

-ขณะเดียวกัน ยูกิเองก็จุดกระทะแล้วโรยอะไรสักอย่างลงไป ซึ่งกลิ่นนั้นก็ลอยมาหาโอริเอะและกระตุ้นให้เธอรู้สึกได้ทันที มันคือ"มันเป็ด"นั้นเอง ยูกิทอดมันเป็ดเพื่อเอาน้ำมันออกมาจากนั้นจึงใส่น้ำมันลงไปในหม้อที่กำลังตุ๋นเป็ดไว้อยู่ ซึ่งกลิ่นนั้นก็บาดใจเหล่าตัวประกอบเป็นอย่างมากแม้กระทั้งโอริเอะยังคิดว่าน่าสนใจเพราะนั้นคงเป็น"แกงที่ได้จากเนื้อป่า"แน่ๆ ซึ่งพอยูกิเหลือบไปเห็นกองเชียร์ที่มีคนจากโพลาห์สตาร์มาด้วยก็ชูนิ้วให้อย่างอารมณ์ดี





-ขณะเดียวกัน อีกคู่ที่สร้างความแตกต่างออกจากคนอื่นๆเลยก็คือคู่ของอลิสกับเลขาของเอรินะ อลิสนั้นทำมันบดและเหมือนกำลังจะนวดแป้งพายอยู่แต่ที่สำคัญก็คือเครื่องมือที่เธอใช้ ไม่ว่าจะเป็นเตาอบ ตู้แช่หรือแม้แต่เครื่องวัคคัม(เครื่องซีลแบบสูญกาศ)ก็เป็นเครื่องมือไหม่เอี่ยมทำให้บรรดาตัวประกอบจินตนาการหน้าตาอาหารของเธอไม่ออก แต่ที่ไม่หย่อนไปกว่ากันก็คือเลขาของเอรินะ ที่ฉีกวิธีการใช้เครื่องเทศแบบปกติที่ต้องใช้ความร้อนหรือน้ำมันเพื่อสกัดให้เกิดกลิ่นหอม มาเป็นการเทผงที่บดแล้วลงไปในน้ำทั้งดุ้นซะงั้น ซึ่งอลิสก็แขวะเธอไปว่าเป็นวิธีที่แปลกประหลาดดีเหลือเกินนะ แต่การที่เห็นเธองัดเอาเทคนิคเฉพาะตัวออกมาแบบนี้แสดงว่าเธอคงร้อนรนจริงๆที่อยู่บล็อกเดียวกับฉัน ซึ่งเลขาของเอรินะก็บอกไปว่า ที่เธอใช้เพราะตอนนี้เธอถอยไม่ได้แล้วต่าหาก เพราะเธอต้องไปเป็นส่วนหนึ่งในสิบสุดยอด เคียงคู่กับท่านเอรินะให้จงได้



-ขณะเดียวกันนาโอะเองก็จ้องมองเลขาเอรินะแล้วเอ่ยว่า เธอจะทำตัวเก่งแบบนี้ต่อไปได้ไม่นานหรอก ว่าแล้วก็หัวเราะอย่างน่ากลัว ซึ่งบรรดาตัวประกอบก็เห็นว่านาโอะเอง ต้มอะไรสักอย่างที่เป็นสีดำในหม้อด้วย หรือนั้นจะเป็นแกงของเธอกัน? ซึ่งท่าทางการทำอาหารของเธอเนี่ยดูๆแล้วเหมือนพวกแม่มดกำลังปรุงยาอยู่มากกว่าเลยนะ



-ขณะเดียวกัน ภาพก็ตัดไปที่แม่ครัวสาวผู้สืบทอดร้านอาหารจีนในโยโกฮาม่ามามากกว่า50ปี เธอก็คือโฮโจ มิยาโกะและมาพร้อมกับชุดกี่เผ้าโชว์ต้นขาอ่อน ทำให้บรรดานักเรียนชายตัวประกอบทั้งหลายเฮโลดีใจไปตามๆกัน แม้กระทั้งอุราร่า(พิธีกรประจำโทสึกิ)ที่เตรียมพร้อมอยู่ยังรู้สึกได้ถึงความนิยมที่กำลังจะหายไป ซึ่งหนึ่งในกรรมการ(ที่เลือดกำเดาออก)ก็ลงความเห็นว่า มิยาโกะใช้กระทะจีนที่ทำมาจากเหล็ก นอกจากจะมีน้ำหนักมาก การจะผัดของด้วยกระทะแบบนี้จำต้องมีพลังสูงมากๆอีกด้วย แต่ค่าตอบแทนของมันก็คือ คนที่ดูการกระทำอาหารอยู่จะรู้สึกถึงพลังอันมหาศาลของมันที่เกิดจากวิธีการทำแบบนี้ นอกจากนี้กระทะของเธอยังมีกลิ่นจากเครื่องเทศนาๆชนิดอยู่อีกด้วย

-ว่าแล้วโอริเอะก็ตัดสินใจบอกกับอิชิกิว่า เธอจะเอาเด็กทุกคนที่พูดถึงเมื่อครู่มาเข้าบริษัทนะ ซึ่งกรรมการคนอื่นก็ตกใจที่ใช้คำว่า"เอา"แกมบังคับเลยทีเดียว แต่โอริเอะก็เอ่ยยกเว้นเอาไว้คน ซึ่งก็คือเมงุมิ เพราะดูท่าทางเธอจะมีความสามารถไม่ถึงพอสำหรับเธอ แต่อิชิกิก็แอบอมยิ้มพร้อมกับจ้องไปที่เมงุมิราวกับรู้ถึงความลึกที่แท้จริงของฝีมือเธออยู่ แน่นอนว่าอีกคนหนึ่งที่รู้สึกถึงนอกจากอิชิกิ ก็คือโฮโจ มิยาโกะนั้นเอง...

จบตอน




สำหรับตอนนี้ก็มาโชว์ของทางบล็อกB(ซึ่งเต็มไปด้วยสาวๆ) บอกตามตรงว่าคาดเดาอาหารของแต่ละคนแทบไม่ออกเลย คงต้อรอลุ้นต่อไปในอาทิตย์หน้า ซึ่งโซมะก็ได้หน้าสี(อีกแล้ว) ตอกย้ำถึงความขยันของอาจารย์ซาเอกิและความนิยมของเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

แล้วเจอกันอาทิตย์หน้านะครับผม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่