สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้งกับเรา สาวกบิโอเร ที่ใช้มาตั้งแต่รุ่นคุณแม่ยังสาว จนป่านนี้อายุก็ปาเข้าไปจะ 30 แล้ว - -“
แต่วัยไม่ใช่ปัญหาค่ะ เพราะบิโอเรเค้าไม่ได้จำกัดอายุคนใช้ซะหน่อย จริงมะๆ ^^
ด้วยความที่เป็นทั้งสาวกบิโอเร และสาวกคุณกุ้ง ก็เลยเจริญรอยตามคุณกุ้งที่นางรีวิวบิโอเรตัวใหม่นี่ไว้

ขอลองหน่อยสิ๊ ว่าจะได้ผลเหมือนกันไหม เอ้าเป็นเรามาทดสอบประสิทธิภาพของครีมกันแดดปริศนา 2 แบรนด์กัน
แบรนด์ B หลังบีบที่หลังมือทันที จะมีลักษณะใสกว่าแบรนด์ A ซึ่งมีลักษณะเป็นเนื้อครีมข้นกว่า มาลองทาครีมกัน แบรนด์ Bเกลี่ยง่าย และซึมไว รู้สึกบางเบา ในขณะที่แบรนด์ A ข้นหนืด และต้องทาวนๆหลายรอบมากกว่าจะซึม
ภาพต่อไป เป็นสภาพผิวหลังเนื้อผลิตภัณฑ์ซึมสู่ผิวแล้ว
แบรนด์ A ผิวจะดูเงาๆ มันๆ เหมือนผิวมันขึ้น และสีผิวจะขาวขึ้นเล็กน้อย
แบรนด์ B ผิวไม่โกลว์ และไม่มัน ซึ่งหากทาก่อนแต่งหน้าและทาทับเมคอัพแล้วหน้าจะไม่วอกหรือลอยแน่นอน ในขณะที่
เพื่อให้เห็นความมันชัดเจน เราจะทดสอบด้วยกระดาษซับมันค่ะ
แบรนด์ B จะพบว่า ไม่ทิ้งความมันไว้บนกระดาษซับมันเลย ในขณะที่แบรนด์ A ยังทิ้งความมันเอาไว้บนกระดาษซับมัน และบริเวณข้อมือ ยังหลงเหลือคราบความมันเงาๆไว้อยู่
ถ้ายังเห็นไม่ชัด ต้องลองวิธีพิสูจน์แบบคุณกุ้งค่ะ คือบีบผลิตภัณฑ์บนกระดาษซับมัน แล้วมาดูกันซิว่า มีคราบมันซึมติดกระดาษซับมันไว้มากน้อยแค่ไหน
สองภาพล่างเป็นภาพด้านหลังของกระดาศซับมันนะคะ แบรนด์ B มีคราบมันนิดหน่อย เมื่อเทียบกับแบรนด์ A ซึ่งความมันซึมผ่านกระดาษซับมันมาถึงด้านหลังเลยทีเดียว
คราวนี้ มาถึงการทดสอบประสิทธิภาพกันดูบ้างดีกว่า
อย่าสงสัย ว่าทำไมทาท้องแขน เพราะเดี๋ยวเราจะตะแคงแขนออกแดดค่ะ 5555 ล้อเล่นน้า :p (จริงๆแล้วเพราะเนื้อผิวตรงนี้ มันบาง จะเห็นปฏิกิริยาที่แดดทำกับผิวได้ชัดดีต่างหากล่ะ)
ออกเดินทางไปสู้แดดกันเลยดีกว่า วันที่ถ่ายรีวิว แดดแรงหลังฝนตก กำลังอบอ้าวเลย
45 นาทีผ่านไป….กลับมาดูผลกัน
บริเวณที่ใช้แบรนด์ B ผิวยังปกติดีอยู่ แต่บริเวณที่ใช้แบรนด์ A มีจ้ำแดงที่ผิวเกิดขึ้นเล็กน้อย
สรุปข้อดีข้อเสียของแบรนด์ A
1. เนื้อข้น ค่อนข้างหนืด
2. เกลี่ยยาก และทำให้ผิวขาวลอย
3. ไม่สามารถทาทับแมคอัพได้ เพราะเนื้อแน่นหนืด
4. ทิ้งความมัน
5. ไม่เหมาะกับผู้มีผิวมัน
6. หลังออกแดด ผิวเป็นจ้ำแดงจากแดดเล็กน้อย
7. มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
สรุปข้อดีและเสียของแบรนด์ B
1. บางเกลี่ยง่าย ซึมไว
2. ไม่มัน ไม่เหนอะ
3. ทาทับเมคอัพได้ เพราะเนื้อบางเบาและไม่ทำให้หน้าลอย
4. เหมาะกับทุกสภาพผิว
5. หลังออกแดด ผิวยังคงสภาพเดิม ไม่ไหม้ และไม่มันเยิ้ม
6. กันแดดได้ดีเพราะว่ามี SPF สูงถึง SPF50+/PA+++
7. มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
เรามาเฉลยกันดีกว่าว่า ครีมกันแดดที่ชนะเลิศนั้นคืออะไร แต่นแต้นนนน....
Biore UV Aqua Rich Watery Essence นี่เองจ้า ยกผลประโยชน์ให้บิโอเรเค้านะคะ กันแดดคุณภาพเยี่ยมจริงๆ จากประสบการณ์ส่วนตัวคือใช้ทุกวันเลย ชอบมากๆมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย หลังจากใช้ติดต่อกันทุกวันมาระยะหนึ่งและโดนแดดแรงๆทุกวันผิวเราก็ไม่คล้ำขึ้นเลย อันนี้ประทับใจจริงบอกเลย!!
รีวิวของเราขอเป็นอันจบเพียงเท่านี้ เชิญติชมได้เลย โลด !!!
[CR] [รีวิวตามคุณกุ้ง] Biore UV Aqua Rich Watery Essence สุดยอดกันแดดในดวงใจ
แต่วัยไม่ใช่ปัญหาค่ะ เพราะบิโอเรเค้าไม่ได้จำกัดอายุคนใช้ซะหน่อย จริงมะๆ ^^
ด้วยความที่เป็นทั้งสาวกบิโอเร และสาวกคุณกุ้ง ก็เลยเจริญรอยตามคุณกุ้งที่นางรีวิวบิโอเรตัวใหม่นี่ไว้
ขอลองหน่อยสิ๊ ว่าจะได้ผลเหมือนกันไหม เอ้าเป็นเรามาทดสอบประสิทธิภาพของครีมกันแดดปริศนา 2 แบรนด์กัน
แบรนด์ B หลังบีบที่หลังมือทันที จะมีลักษณะใสกว่าแบรนด์ A ซึ่งมีลักษณะเป็นเนื้อครีมข้นกว่า มาลองทาครีมกัน แบรนด์ Bเกลี่ยง่าย และซึมไว รู้สึกบางเบา ในขณะที่แบรนด์ A ข้นหนืด และต้องทาวนๆหลายรอบมากกว่าจะซึม
ภาพต่อไป เป็นสภาพผิวหลังเนื้อผลิตภัณฑ์ซึมสู่ผิวแล้ว
แบรนด์ A ผิวจะดูเงาๆ มันๆ เหมือนผิวมันขึ้น และสีผิวจะขาวขึ้นเล็กน้อย
แบรนด์ B ผิวไม่โกลว์ และไม่มัน ซึ่งหากทาก่อนแต่งหน้าและทาทับเมคอัพแล้วหน้าจะไม่วอกหรือลอยแน่นอน ในขณะที่
เพื่อให้เห็นความมันชัดเจน เราจะทดสอบด้วยกระดาษซับมันค่ะ
แบรนด์ B จะพบว่า ไม่ทิ้งความมันไว้บนกระดาษซับมันเลย ในขณะที่แบรนด์ A ยังทิ้งความมันเอาไว้บนกระดาษซับมัน และบริเวณข้อมือ ยังหลงเหลือคราบความมันเงาๆไว้อยู่
ถ้ายังเห็นไม่ชัด ต้องลองวิธีพิสูจน์แบบคุณกุ้งค่ะ คือบีบผลิตภัณฑ์บนกระดาษซับมัน แล้วมาดูกันซิว่า มีคราบมันซึมติดกระดาษซับมันไว้มากน้อยแค่ไหน
สองภาพล่างเป็นภาพด้านหลังของกระดาศซับมันนะคะ แบรนด์ B มีคราบมันนิดหน่อย เมื่อเทียบกับแบรนด์ A ซึ่งความมันซึมผ่านกระดาษซับมันมาถึงด้านหลังเลยทีเดียว
คราวนี้ มาถึงการทดสอบประสิทธิภาพกันดูบ้างดีกว่า
อย่าสงสัย ว่าทำไมทาท้องแขน เพราะเดี๋ยวเราจะตะแคงแขนออกแดดค่ะ 5555 ล้อเล่นน้า :p (จริงๆแล้วเพราะเนื้อผิวตรงนี้ มันบาง จะเห็นปฏิกิริยาที่แดดทำกับผิวได้ชัดดีต่างหากล่ะ)
ออกเดินทางไปสู้แดดกันเลยดีกว่า วันที่ถ่ายรีวิว แดดแรงหลังฝนตก กำลังอบอ้าวเลย
45 นาทีผ่านไป….กลับมาดูผลกัน
บริเวณที่ใช้แบรนด์ B ผิวยังปกติดีอยู่ แต่บริเวณที่ใช้แบรนด์ A มีจ้ำแดงที่ผิวเกิดขึ้นเล็กน้อย
สรุปข้อดีข้อเสียของแบรนด์ A
1. เนื้อข้น ค่อนข้างหนืด
2. เกลี่ยยาก และทำให้ผิวขาวลอย
3. ไม่สามารถทาทับแมคอัพได้ เพราะเนื้อแน่นหนืด
4. ทิ้งความมัน
5. ไม่เหมาะกับผู้มีผิวมัน
6. หลังออกแดด ผิวเป็นจ้ำแดงจากแดดเล็กน้อย
7. มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
สรุปข้อดีและเสียของแบรนด์ B
1. บางเกลี่ยง่าย ซึมไว
2. ไม่มัน ไม่เหนอะ
3. ทาทับเมคอัพได้ เพราะเนื้อบางเบาและไม่ทำให้หน้าลอย
4. เหมาะกับทุกสภาพผิว
5. หลังออกแดด ผิวยังคงสภาพเดิม ไม่ไหม้ และไม่มันเยิ้ม
6. กันแดดได้ดีเพราะว่ามี SPF สูงถึง SPF50+/PA+++
7. มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
เรามาเฉลยกันดีกว่าว่า ครีมกันแดดที่ชนะเลิศนั้นคืออะไร แต่นแต้นนนน....
Biore UV Aqua Rich Watery Essence นี่เองจ้า ยกผลประโยชน์ให้บิโอเรเค้านะคะ กันแดดคุณภาพเยี่ยมจริงๆ จากประสบการณ์ส่วนตัวคือใช้ทุกวันเลย ชอบมากๆมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย หลังจากใช้ติดต่อกันทุกวันมาระยะหนึ่งและโดนแดดแรงๆทุกวันผิวเราก็ไม่คล้ำขึ้นเลย อันนี้ประทับใจจริงบอกเลย!!
รีวิวของเราขอเป็นอันจบเพียงเท่านี้ เชิญติชมได้เลย โลด !!!