ประชาธิปไตยมองเรื่องสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมของประชาชน โดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ การศึกษา สติ ปัญญาหรือฐานะทางเศรษฐกิจ แต่ในประเทศไทยขัดเกลานั้นฝังรากลึก ระบบราชการนั้นแข็มแข็งเกินไปจากการที่รัฐบาลหลายๆรัฐบาลต้องพึ่งระบบข้าราชการเพราะขาดความสามารถ ทั้งจากเผ็ดการทหาร นักการเมืองที่มาแสวงหาผลประโยชน์ จนระบบข้าราชการเริ่มสำคัญตนผิด กลายสภาพจากอาชีพๆหนึ่งไปเป็นชนชั้นหนึ่ง หากินหาประโยชน์จากชาวบ้านเสียเอง และกลายเป็นว่าเกิดการสร้างจิตสำนึกถึงความไม่เท่าเทียม จากการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจ หน้าที่การงาน และบทบาททางสังคม ทำให้เริ่มมองตัวเองเหนือกว่าชาวบ้าน มองชาวบ้านไม่มีคุณค่า ใช้บทบาท ใช้ความสามารถชี้นำสังคม จนทำให้หลักการเรื่องความเท่าเทียมเสียไป ซึ่งดูได้จากหลายๆอย่างทั้งแนวคิดของศาลรับธรรมนูญ นักวิชาการทั้งหลาย ความพยายามที่จะยกสาบันฯให้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความดีเลิศเหนือ ระบบรัฐบาลที่มาจากเสียงของประชาชน ซึ่งเหล่านี้นี่เองคือแนวคิดฟาสซิสต์ที่คนเป็นโดยไม่รู้ตัวและตั้งใจ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยการทำลายหลักการประชาธิปไตย
ผู้ที่กำลังอ้างประชาธิปไตยกำลังก้าวไปสู่ฟาสซิสต์โดยไม่รู้ตัว