ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีในความคิดเลยว่าจะต้องดูดวง วันก่อนไปเจอรุ่นพี่คนนึงมาก็สอบถามกันปกติเป็นยังไงบ้าง มีแผนจะทำอะไรบ้างมั้ย ก็เลยบอกไปว่าปีหน้าจะลาออกจากที่ทำงาน ไปทำธุรกิจส่วนตัว
รุ่นพี่ : เห้ย...เอ็งจะออกไปทำไรวะ เศรษฐกิจแบบนี้ เหนื่อยว่ะ
ผม : จะออกไปเปิดร้านขายส่งเสื้อที่ แพลทตินั่ม
รุ่นพี่ : อย่าเลยเชื่อพี่มันแย่มากเลยนะ มีเพื่อนเปิดอยู่ แฟนพี่ก็ขายเสื้อผ้าอยู่ บอกตลาดเงียบลงไปมากเลย และก็บอกธุรกิจที่แกทำอยู่ก็เงียบ
ผม : (ก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนบอกมาว่ามันเงียบ มันไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน) จริงๆแล้วผมดูตลาดนี้มา 1 ปี แล้วเพราะต้องไปซื้อเสื้อผ้ากับแฟนทุกอาทิตย์ แต่ไปซื้อ ไม่ได้ไปขาย เลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเป็นไง แต่จากที่เดินดูทุกอาทิตย์ก็เห็นว่า ร้านขายดีมากๆมี แต่ร้านขายไม่ดีก็เพียบ
รุ่นพี่ : เชื่อพี่ไปดูดวงสัก 3 ที่ ถ้าทั้ง 3 ที่บอกตรงกันหมดว่า เออ ออกไปทำธุรกิจเถอะดี เอ็งค่อยเริ่มจะได้สบายใจ
ผม : ??? เห้ยพี่ มันต้องขึ้นกับหมอดูแบบนั้นเลยหรอ ถ้าผมเตรียมความพร้อมมาดี มองตลาดแล้วไปได้ แต่แค่หมอดูมาทักนี่ ผมควรหยุดหรอพี่ (คือ ผมลองบินไปจีนมาแล้ว ดูทั้งตลาดขายส่ง บน กลาง ล่าง , ตลาดผ้า ,แหล่งขายผ้าม้วน)
รุ่นพี่ : เอ็งเชื่อพี่ ........
มีต่อเยอะกว่านั้น
ผมพยายามบอกรุ่นพี่ผมว่า ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องหมอดูเท่าไหร่ ในการที่เราจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง มันน่าจะอยู่ที่ตัวเราบวกกับการประเมินตลาด และความพร้อมในการทำสิ่งนั้นมากกว่า
แต่ก่อหน้านี้หลายๆคนก็มาบอกผมว่า อย่าเข้าไปทำเลย มันแย่จริงๆ คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า (ทุกวงการ เห็นแมร่งพูดเหมือนกันหมด เช่น โห อยากเข้าทำงานบริษัทนี้จังเลย ก็จะมีบางคนมาพูดว่า เห้ยมันไม่ดีอย่างที่คิดหรอกว่ะ คนในก็อยากออกไปทำที่อื่น คนนอกก็อยากจะเข้ามาทำ)
แต่คำพูดของรุ่นพี่ผมก็ทำผมเอามาคิด ทั้งเรื่องการไปขายของในแพลทตินั่ม มันแย่จริงๆช่วงนี้ บวกกับผมต้องทิ้งงานที่มั่นคง (มีรถประจำตำแหน่ง ,มีเงินเดือน,มีโบนัส)
ผมเลยไปคุยกับแฟนว่า เอิ่มมม เราไปดูดวงกันเถอะ !!!
สุดท้ายคนที่แน่วแน่อย่างผม ต้องยอมดูดวง เพราะผมโดนดูดความมั่นใจออกไป
เลยอยากขอ ทั้งความรู้ และคำเตือนสอนใจในนี้หน่อยครับ ผมชอบเข้ามาอ่านนะ ความรู้รอบตัวเยอะดี มุมมองธุรกิจคนนห้องนี้ก็เยอะมาก
1. ถ้าคุณมีเงิน มีงาน มีความมั่นคง คุณกล้าออกไปลุยตลาดในช่วงนี้มั้ย
2. ใครพอรู้เรื่อง การขายของที่แพลทตินั่ม มาบอกผมทีว่าเป็นยังไง
3. ผมว่าเราควรดูดวง เพราะ การทำนายทายทัก อยู่กับเรามาตั้งแต่สมัยนู้นนนนนนนนนนนนนนนน ก่อนเราออกรบ !!
4. ผมว่าธุรกิจต่างๆ ยังดีอยู่แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ การเข้ามาของผู้เล่นหน้าใหม่เยอะขึ้น , ช่องทางในการซื้อของเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนเยอะะะะะะะ , ตลาดยังเท่าเดิมและโตขึ้นกว่าเดิมในทุกๆปี สังเกตุว่า ร้านไหนขายดี ธุรกิจไหนขายดี ก็จะรวยขึ้นไปเรื่อยๆ แต่กลับกัน บางคนอยู่ในระดับขายกลางๆ ก็จะแค่ประคองตัว ส่วน คนไหนขายไม่ดีเตรียมตัวปิดได้เลยจ้าาาา
ผมเลยขอมาฟันธง เป็น 1 ฝนคนไทยว่า ธุรกิจ ควบคู่กับการดูดวง แน่นอน ไม่ว่าจะอีกกี่สิบปีก็ยังเป็นแบบนี้
ปล.ผมยังไม่แต่งงาน และผมคิดว่าถ้าผมไม่เริ่มออกไปทำส่วนตัวตอนนี้ในตอนที่มีโอกาส จะไปตอนไหน พออายุมากขึ้นผมไม่กล้าออกจาก Comfort Zone แน่นอน เพราะที่ผมอยู่มันโครตระ มั่นคง อยู่อย่างสบาย แค่ไม่อ้วน เท่านั้น
โอกาสที่ผมได้มาคือ มีเงินมาลงทุนให้ คืนเมื่อไหร่ก็ได้ ในวงเงินหลักล้าน เลยเห็นว่าเป็นโอกาสดีจะออกมาลุย !!
เป็นธรรมดาของพนักงานประจำที่อยากจะมีอะไรเป็นของตัวเอง มี 2 อย่าง ไม่ร่วงก็รุ่ง ....
การเริ่มธุรกิจ ควรดูดวง ??
รุ่นพี่ : เห้ย...เอ็งจะออกไปทำไรวะ เศรษฐกิจแบบนี้ เหนื่อยว่ะ
ผม : จะออกไปเปิดร้านขายส่งเสื้อที่ แพลทตินั่ม
รุ่นพี่ : อย่าเลยเชื่อพี่มันแย่มากเลยนะ มีเพื่อนเปิดอยู่ แฟนพี่ก็ขายเสื้อผ้าอยู่ บอกตลาดเงียบลงไปมากเลย และก็บอกธุรกิจที่แกทำอยู่ก็เงียบ
ผม : (ก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนบอกมาว่ามันเงียบ มันไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน) จริงๆแล้วผมดูตลาดนี้มา 1 ปี แล้วเพราะต้องไปซื้อเสื้อผ้ากับแฟนทุกอาทิตย์ แต่ไปซื้อ ไม่ได้ไปขาย เลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเป็นไง แต่จากที่เดินดูทุกอาทิตย์ก็เห็นว่า ร้านขายดีมากๆมี แต่ร้านขายไม่ดีก็เพียบ
รุ่นพี่ : เชื่อพี่ไปดูดวงสัก 3 ที่ ถ้าทั้ง 3 ที่บอกตรงกันหมดว่า เออ ออกไปทำธุรกิจเถอะดี เอ็งค่อยเริ่มจะได้สบายใจ
ผม : ??? เห้ยพี่ มันต้องขึ้นกับหมอดูแบบนั้นเลยหรอ ถ้าผมเตรียมความพร้อมมาดี มองตลาดแล้วไปได้ แต่แค่หมอดูมาทักนี่ ผมควรหยุดหรอพี่ (คือ ผมลองบินไปจีนมาแล้ว ดูทั้งตลาดขายส่ง บน กลาง ล่าง , ตลาดผ้า ,แหล่งขายผ้าม้วน)
รุ่นพี่ : เอ็งเชื่อพี่ ........
มีต่อเยอะกว่านั้น
ผมพยายามบอกรุ่นพี่ผมว่า ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องหมอดูเท่าไหร่ ในการที่เราจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง มันน่าจะอยู่ที่ตัวเราบวกกับการประเมินตลาด และความพร้อมในการทำสิ่งนั้นมากกว่า
แต่ก่อหน้านี้หลายๆคนก็มาบอกผมว่า อย่าเข้าไปทำเลย มันแย่จริงๆ คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า (ทุกวงการ เห็นแมร่งพูดเหมือนกันหมด เช่น โห อยากเข้าทำงานบริษัทนี้จังเลย ก็จะมีบางคนมาพูดว่า เห้ยมันไม่ดีอย่างที่คิดหรอกว่ะ คนในก็อยากออกไปทำที่อื่น คนนอกก็อยากจะเข้ามาทำ)
แต่คำพูดของรุ่นพี่ผมก็ทำผมเอามาคิด ทั้งเรื่องการไปขายของในแพลทตินั่ม มันแย่จริงๆช่วงนี้ บวกกับผมต้องทิ้งงานที่มั่นคง (มีรถประจำตำแหน่ง ,มีเงินเดือน,มีโบนัส) ผมเลยไปคุยกับแฟนว่า เอิ่มมม เราไปดูดวงกันเถอะ !!!
สุดท้ายคนที่แน่วแน่อย่างผม ต้องยอมดูดวง เพราะผมโดนดูดความมั่นใจออกไป
เลยอยากขอ ทั้งความรู้ และคำเตือนสอนใจในนี้หน่อยครับ ผมชอบเข้ามาอ่านนะ ความรู้รอบตัวเยอะดี มุมมองธุรกิจคนนห้องนี้ก็เยอะมาก
1. ถ้าคุณมีเงิน มีงาน มีความมั่นคง คุณกล้าออกไปลุยตลาดในช่วงนี้มั้ย
2. ใครพอรู้เรื่อง การขายของที่แพลทตินั่ม มาบอกผมทีว่าเป็นยังไง
3. ผมว่าเราควรดูดวง เพราะ การทำนายทายทัก อยู่กับเรามาตั้งแต่สมัยนู้นนนนนนนนนนนนนนนน ก่อนเราออกรบ !!
4. ผมว่าธุรกิจต่างๆ ยังดีอยู่แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ การเข้ามาของผู้เล่นหน้าใหม่เยอะขึ้น , ช่องทางในการซื้อของเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนเยอะะะะะะะ , ตลาดยังเท่าเดิมและโตขึ้นกว่าเดิมในทุกๆปี สังเกตุว่า ร้านไหนขายดี ธุรกิจไหนขายดี ก็จะรวยขึ้นไปเรื่อยๆ แต่กลับกัน บางคนอยู่ในระดับขายกลางๆ ก็จะแค่ประคองตัว ส่วน คนไหนขายไม่ดีเตรียมตัวปิดได้เลยจ้าาาา
ผมเลยขอมาฟันธง เป็น 1 ฝนคนไทยว่า ธุรกิจ ควบคู่กับการดูดวง แน่นอน ไม่ว่าจะอีกกี่สิบปีก็ยังเป็นแบบนี้
ปล.ผมยังไม่แต่งงาน และผมคิดว่าถ้าผมไม่เริ่มออกไปทำส่วนตัวตอนนี้ในตอนที่มีโอกาส จะไปตอนไหน พออายุมากขึ้นผมไม่กล้าออกจาก Comfort Zone แน่นอน เพราะที่ผมอยู่มันโครตระ มั่นคง อยู่อย่างสบาย แค่ไม่อ้วน เท่านั้น
โอกาสที่ผมได้มาคือ มีเงินมาลงทุนให้ คืนเมื่อไหร่ก็ได้ ในวงเงินหลักล้าน เลยเห็นว่าเป็นโอกาสดีจะออกมาลุย !!
เป็นธรรมดาของพนักงานประจำที่อยากจะมีอะไรเป็นของตัวเอง มี 2 อย่าง ไม่ร่วงก็รุ่ง ....