เมื่อตลกทำเนียนข้ามเส้น

อำนาจหลัก 3 อำนาจย่อมมีอิสระที่จะไม่ถูกก้าวก่ายซึ่งกันและกัน
แต่ละอำนาจก็มีลักษณะการปติบัติงานต่างกัน
ฝ่ายตุลาการ รูปแบบการทำงานก็อย่างหนึ่ง แน่นอนตายตัว
ฝ่ายบริหาร รูปแบบการทำงานก็อีกอย่างหนึ่ง
ฝ่ายนิติบัญญัติ ก็มีรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย ทั้งจากที่มา และพื้นฐานการงานและความรู้
สมาชิกทุกคนในที่ประชุมได้รับเอกสิทธิคุ้มครองในการทำงานเต็มที่
ไม่มีใครจะเอาเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดๆมาจับกุมคุมขังสมาชิกได้(เพราะต้องไม่ถูกแทรกแซง จากองค์กร หรือหน่วยงานใดๆ)
ทั้งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของประธานสภาที่ปฏิบัติหน้าที่ประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติในขณะนั้น
เพื่อดำเนินการประชุมสภาบางครั้งก็สามารถเชิญหรือให้เจ้าหน้าสภาลากตัวสมาชิกออกจากห้องได้
หรือต่อนายกรัฐมนตรี หรือแม้แต่ประธานศาลฎีกา ถ้าเข้าไปในสภาก็ต้องให้ความเคารพประธานสภา
การทำหน้าที่ในสภา มีข้อบังคับ แต่มิได้ตายตัวเหมือนที่ต้องถูกต้องเป๊ะๆ มีการละเมิดกันอยู่ประจำ
ขึ้นอยู่กับประธานจะสามารถควบคุมไม่ให้เกิดความวุ่นวาย เพียงแค่ให้ดำเนินการประชุมต่อไปได้ มิได้นำมาเป็นการลงโทษ
การตัดสินของประธานถือเป็นสิ้นสุด
ส่วนในการออกญัตติหรือกฏหมายใดๆ ก็เป็นไปตามมติของที่ประชุม

เส้นที่ตลกข้าม คือ การเข้าไปตัดสินผิดถูกของการทำงานของสภา ซึ่งเป็นเรื่องของสภาเขาดำเนินการ เจอะกับปัญหาอะไรบ้างในระหว่างการ ก็หาใช่เรื่องที่ตลก ไปตัดสินการทำงานของสภาได้ หากยอมให้ทำได้ ย่อมหมายความว่า ต่อไปการทำงานของสภาหมดอิสระเพราะต้องขึ้นอยู่กับ ตลก ประเทศของเราก็จะเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยภายใต้การปกครองของตลก หรือประชาธิปไตยตลก
ส่วนประเดน ร่างแก้ไข รฐน ขัดกับ รฐน ก็มีแต่ศรีธนนชัยเท่านั้นที่จะกล้าบอกได้ว่ามันขัด ก็ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าแก้ไข
ตลก จะกินดีหมีมีพาวเวอร์อะไรมาก็หาได้มีอภิสิทธิอะไรที่เหนือกว่ารัฐธรรมนูญได้ (เว้นแต่จะคิดว่าตลก คือผู้อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่