ฝรั่งเศส เป็นอีกทีม ที่เล่นบอลสไตล์สวยงาม เล่นบอลกับพื้นดี มาช้านาน จนได้รับฉายาว่า บราซิลแห่งยุโรป (ได้ยินหรืออ่านมาจากหนังสือพิมพ์กีฬานี่แหล่ะ แทนที่จะเป็น โปรตุเกส) แต่ตั้งแต่หมดยุค ของ Playmaker ตัวเก่งอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน ไปการเล่นที่สวยงามนั้น หายไปหมด แล่นบอลตะกุกตะกัก ขัดหูขัดตายังไงชอบกล จนถึงยุคปัจจุบัน สเปน กลับทำได้ดีกว่าฝรั่งเศส ไปมากในเรื่องการเล่นบอลกับพื้น ที่ต่อบอลตามช่องกันสวยงาม และจบด้วยการยิงประตู
จากหลายคนบอกว่า ฝรั่งเศส "โกง" ถึงได้เข้ารอบ เพราะลูกที่ คาริม เบนเซม่า ยิงมันล้ำหน้า
แต่หลายคน ลืมนึกไปถึง ตอนที่ เบนเซม่า ยิงประตูได้ แบบไม่ล้ำหน้า แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า
ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษกรรมการ ที่ทำผิดถึง 2 ครั้ง 2 ครา ผมสนับสนุนให้รีบนำเทคโนโลยี มาช่วยตัดสินเร็วๆเถอะครับ
แต่ก็หยวนๆ กันไป นักวิจารณ์บอกว่า การใช้เทคโนโลยี เข้าช่วย มันทำให้ สเน่ห์ของฟุตบอลหายไป แต่สิ่งที่จะได้มา ก็คือความเที่ยงตรงและแม่นยำในการตัดสิน มันจะได้ชนะกันแบบขาวสะอาดไร้ข้อกังขา
แต่ถ้าตัดประตูเจ้าปัญหาไป........รูปเกมของ ฝรั่งเศส ดีกว่ามาก เหมือนกับเป็น ฝรั่งเศส คนละทีมที่บุกไปแพ้ ยูเครน มา 2-0
ก็คือ Teamwork ดีขึ้นมาก มากต่อบอล ทำชิ่ง ทำได้สวยงาม แม่นยำ ยังกับ ฝรั่งเศส ยุคปี 2000 หรือ สเปน เลยทีเดียว (แต่อย่าเอาไปเทียบกับ สเปน ช่วงพีคๆ ยังห่างชั้นกันนัก)
ถ้า ฝรั่งเศส เล่นกันด้วยฟอร์มแบบ เมื่อคืนนี้ ชั่วโมงนี้ คิดว่าสู้ได้แทบทุกทีมนะครับ แต่อาจจะกิน สเปน ตอนพีคยากหน่อย
หมดยุค ซีเนอดีนส์ ซีดาน ไป ฝรั่งเศสก็ขาด มิดฟิลด์จอมทัพ (Playmaker) ดีๆไปเลย ผมคิดว่าสไตล์การเล่นของฝรั่งเศส มันขาด Playmaker ไม่ได้ครับ จะเปลี่ยนไปเล่นบอลโยน สไตล์อังกฤษ มันก็ไม่เข้าท่า ให้ Ribery กระชากๆ ลากไปโยน อะไรแบบนี้ เห็น Ribery ลากไปติดกองหลังยูเครน บ่อยๆแล้วเพลีย
Samir Nasri ที่อดีตก็เคยได้รับ ฉายาว่า New Zidane ฟอร์มก็ดร็อปลงไปเยอะครับ ยังไม่นิ่งแบบ ซีดาน แต่เมื่อคืนใช้ Yohan Cabaye เล่นแทนในตำแหน่งนี้กลับทำได้ดีกว่า Nasri
หมดยุค อองรี ซีดาน ไป ผู้เล่นที่จะเตะ Free Kick ดีๆ หามีไม่ ในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย ต้องการคนนิ่งๆ มาตัดสินชะตาเกม ด้วยลูกปั่น Free Kick หวังผล
ถ้าใครจำ EURO 2004 รอบแบ่งกลุ่ม ที่ฝรั่งเศส พบอังกฤษ ได้ อังกฤษ นำไปก่อน 1-0 จาก Frank Lampard นาทีที่ 38 เกมเล่นไปครบ 90 นาทีแล้ว เข้าสู่ช่วงทดเวลา ฝรั่งเศส ได้ Free Kick และก็เป็น Zidane ที่ปั่นฟรีคิก ตีเสมอ ให้ ในนาทีที่ 90+1 และลูกโทษในนาทีที่ 90+3

หานักเตะ ที่นิ่งๆทั้งการคุมเกม และเล่นลูก Set Piece ไม่ได้เลยสักคน
แวะมาชม และมาบ่น แค่นี้แหล่ะครับ
ฝรั่งเศส เมื่อคืนนี้ เล่นบอลกับพื้น ส่งทำชิ่งกับพื้น เท้าต่อเท้า กันดี (ในครึ่งแรก) ทำให้นึกถึงชุด Euro 2000
จากหลายคนบอกว่า ฝรั่งเศส "โกง" ถึงได้เข้ารอบ เพราะลูกที่ คาริม เบนเซม่า ยิงมันล้ำหน้า
แต่หลายคน ลืมนึกไปถึง ตอนที่ เบนเซม่า ยิงประตูได้ แบบไม่ล้ำหน้า แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า
ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษกรรมการ ที่ทำผิดถึง 2 ครั้ง 2 ครา ผมสนับสนุนให้รีบนำเทคโนโลยี มาช่วยตัดสินเร็วๆเถอะครับ
แต่ก็หยวนๆ กันไป นักวิจารณ์บอกว่า การใช้เทคโนโลยี เข้าช่วย มันทำให้ สเน่ห์ของฟุตบอลหายไป แต่สิ่งที่จะได้มา ก็คือความเที่ยงตรงและแม่นยำในการตัดสิน มันจะได้ชนะกันแบบขาวสะอาดไร้ข้อกังขา
แต่ถ้าตัดประตูเจ้าปัญหาไป........รูปเกมของ ฝรั่งเศส ดีกว่ามาก เหมือนกับเป็น ฝรั่งเศส คนละทีมที่บุกไปแพ้ ยูเครน มา 2-0
ก็คือ Teamwork ดีขึ้นมาก มากต่อบอล ทำชิ่ง ทำได้สวยงาม แม่นยำ ยังกับ ฝรั่งเศส ยุคปี 2000 หรือ สเปน เลยทีเดียว (แต่อย่าเอาไปเทียบกับ สเปน ช่วงพีคๆ ยังห่างชั้นกันนัก)
ถ้า ฝรั่งเศส เล่นกันด้วยฟอร์มแบบ เมื่อคืนนี้ ชั่วโมงนี้ คิดว่าสู้ได้แทบทุกทีมนะครับ แต่อาจจะกิน สเปน ตอนพีคยากหน่อย
หมดยุค ซีเนอดีนส์ ซีดาน ไป ฝรั่งเศสก็ขาด มิดฟิลด์จอมทัพ (Playmaker) ดีๆไปเลย ผมคิดว่าสไตล์การเล่นของฝรั่งเศส มันขาด Playmaker ไม่ได้ครับ จะเปลี่ยนไปเล่นบอลโยน สไตล์อังกฤษ มันก็ไม่เข้าท่า ให้ Ribery กระชากๆ ลากไปโยน อะไรแบบนี้ เห็น Ribery ลากไปติดกองหลังยูเครน บ่อยๆแล้วเพลีย
Samir Nasri ที่อดีตก็เคยได้รับ ฉายาว่า New Zidane ฟอร์มก็ดร็อปลงไปเยอะครับ ยังไม่นิ่งแบบ ซีดาน แต่เมื่อคืนใช้ Yohan Cabaye เล่นแทนในตำแหน่งนี้กลับทำได้ดีกว่า Nasri
หมดยุค อองรี ซีดาน ไป ผู้เล่นที่จะเตะ Free Kick ดีๆ หามีไม่ ในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย ต้องการคนนิ่งๆ มาตัดสินชะตาเกม ด้วยลูกปั่น Free Kick หวังผล
ถ้าใครจำ EURO 2004 รอบแบ่งกลุ่ม ที่ฝรั่งเศส พบอังกฤษ ได้ อังกฤษ นำไปก่อน 1-0 จาก Frank Lampard นาทีที่ 38 เกมเล่นไปครบ 90 นาทีแล้ว เข้าสู่ช่วงทดเวลา ฝรั่งเศส ได้ Free Kick และก็เป็น Zidane ที่ปั่นฟรีคิก ตีเสมอ ให้ ในนาทีที่ 90+1 และลูกโทษในนาทีที่ 90+3
หานักเตะ ที่นิ่งๆทั้งการคุมเกม และเล่นลูก Set Piece ไม่ได้เลยสักคน
แวะมาชม และมาบ่น แค่นี้แหล่ะครับ