สล่าปู่หายหน้าไปเกือบอาทิตย์ เพราะตั้งแต่วันที่ 13 เป็นต้นมา สล่าปู่ออกแนวธรรมสัญจร
สืบเนื่องมาจากนัดหมายกับเพื่อนที่อยู่ กทม. ไว้ตั้งแต่เดือนมิ.ย. ว่าวันที่ 16 พ.ย. จะไปกราบ
แสดงมุทิตาจิต เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 80 ปี ของหลวงปู่เราที่เคารพนับถือท่านหนึ่ง
ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
นัดเจอกันที่สนามบินเชียงใหม่ สาย ๆ วันที่ 14 จึงต้องไปนอนตั้งหลักตั้งแต่วันที่ 13
และตลอด 4 วันที่อยู่เชียงใหม่สล่าปู่จะชวนแวะเที่ยวชมและกินตามถนนข้างทาง
เป็นการเรียกน้ำย่อย ระหว่างฟังสล่าปู่โม้ไปพลาง ๆ
ออกจากบ้านมาประมาณ 17 ก.ม. เจอเลย บัวตองบานที่แม่เหาะ
ถึงอ.จอมทอง ก่อนเที่ยง วันนี้ฟรีทั้งวัน น่าจะแวะไปเที่ยวบนดอยอินทนนท์สักหน่อย
ก็เลยหาทางจัดการเรื่องปากเรื่องท้อง ง่าย ข้างทาง กรอบเป็ดมหาโหด
เกาเหลาหมูนำร่องมาก่อน
ตามด้วยข้าวหน้าหมูกรอบ เป็ดย่าง
ท้องอิ่ม มีพลังขับรถขึ้นดอย ตอนจ่ายเงินมีตกใจเล็กน้อยต้องถามย้ำแล้วย้ำอีก เขายืนยัน
ราคาตามนั้น ก็ต้องจ่ายไม่มีปัญหาใด
ขับรถอย่างสบาย ๆ รถไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่เทศกาล
ถึงลานจอดรถยอดดอยแล้ว ก็เป็นขากลับละครับ
ข้างทาง มีจุดจำหน่ายของที่ระลึก และผักไม้ไส้เครือเผื่อซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน
แวะดูของกินของใช้ เพลินตา เพลินใจ แล้วก็ลงดอยโลด สล่าปู่ลืมบอกไปว่าไปครั้งนี้
สล่าไปกับญาติธรรม เพื่อนกิน ที่เคยส่งกับข้าวให้สล่าปู่กินบ่อย ๆ
ลงดอยมาชักหิว เพื่อนบอกว่าทนเอานิดเดี๋ยวจะจัดให้ที่สันป่าตอง เขาบอกว่าเขาแวะบ่อย
นี่เลยครับ 4 โมงกว่า ๆ เวลากำลังเหมาะ ร้านกับข้าวเมือง
กล่องข้าวน้อย สานด้วยใบตาล สล่าปู่ไม่เคยเห็นมานานน่าจะเกิน 40 ปี ดูได้บรรยากาศมาก
สล่าปล่อยให้เพื่อจัดการสั่งอาหาร แบบผู้ชำนาญการได้ดังนี้ครับ
แกงอ่อมเนื้อ
ลาบขม ที่เห็นในถ้วยเล็ก ๆ เป็นน้ำดี
ลาบหมู
ย่าง
1ชุด สำหรับมื้อนี้
อิ่มแล้ว เข้าเชียงใหม่ ถึงที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย รอมื้อเช้าวันรุ่งขึ้นต่อไป
เช้าแล้ว ง่าย ๆ เกาเหลาเลือดหมู เจ้าประจำใกล้ ๆ ที่พัก
ซื้อใส่ถุงมากินที่บ้าน
ชุดนี้สงสัยข้างในน่าจะบูด มาเมื่อไหร่ กี่หน ๆ ก็เห็นเป็นอย่างนี้ จับมาวางถ่ายรูปเสียเลย
กินอย่างง่าย เพราะเป็นความตั้งใจว่าจะไปทำบุญเรื่องกินให้เป็นเรื่องรอง แค่พออิ่มท้องก็พอ
กินข้าวเสร็จออกไปรับเพื่อนที่สนามบิน ตอนนี้ทั้งคณะจะกลายเป็น 3 คน
มุ่งหน้าไป อ.แม่แตง เพื่อจะไปที่วัดก่อน ไหน ๆ ก็ผ่านแม่ริม แวะเยี่ยมเพื่อนอีกคน เขาทำไร่
อยู่ที่โป่งแยง อ.แม่ริม
และก็เลยได้ซื้อไอ้นี่ติดมือกลับบ้านในราคาส่ง แบบถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ให้ทายว่าคืออะไร
แล้วก็ชักจะหิวที่แม่แตง มื้อกลางวันข้างทาง
จากนั้นก็ไปที่วัด มื้อเย็นมีโรงทานมากมายให้เลือกตามสะดวก สล่าปู่เลือกที่จะชิม
ข้าวยำของปักษ์ใต้
ค่ำแล้วเดินทางกลับที่พัก ระยะทางประมาณ 70 ก.ม. นอนสลบไสลเลย
มื้อเช้าอีกวัน ตลาดแม่เหียะใกล้ที่พักที่สุด ตกลงกันว่ากับข้าวเมืองเพราะเพื่อนที่มาจาก กทม. ขอ
ไส้อั่วต้นมะขามเจ้าเก่าย้ายเข้ามาในตลาด
แอ๊บออกออ
ซื้อมาอย่างละนิดละหน่อย กินกับข้าวเหนียวเพื่ออิ่มเพื่อเตรียมตัวธรรมสัญจรต่อไป
ซึ่งกิจกรรมการทำบุญ สล่าปู่จะหาโอกาสไปเล่าในที่เหมาะสมต่อไป ขอบอกว่ามัน
ยิ่งใหญ่จริง ๆ
ตอนนี้ขอเรื่องกินอย่างเดียวก่อน
อิ่มท้องแล้วก็ออกไป แวะกราบหลวงปู่ ครูบา ที่เคารพนับถือตามที่ตั้งใจไว้
มื้อกลางวันง่าย ๆ ตามถนัด สล่าอยากชิมนี่เลย เห็นแล้วอยากกิน อยากก๊อป
มีภาพสถานที่น่าเข้าไปชมอยู่ที่หนึ่ง อยากแนะนำ นั่นคือวัดต้นเกว๋น เข้าไปในวัดแล้ว
มันให้ความรู้สึกความเป็นโบราณ ๆ มาก
อยู่จนได้ร่วมกิจกรรมตามจุดประสงค์แล้ว ก็เดินทางกลับ เพราะเพื่อนที่มาจากกรุงเทพฯ
จะเข้าไปเที่ยวแม่สะเรียงด้วย
พวกเราออกเดินทางแต่เช้า กลางเดือนพ.ย. ต้องขับรถฝ่าดงหมอกที่หมู่บ้านวังน้ำหยาด
อ.จอมทอง เป็นภาพที่น่าตื่นเต้นพอสมควร
จากนั้นก็ยาว ไปจนถึงสวนสน อ.ฮอด เจอขบวนซูซูกิมากันมากมายหลายคัน
แวะเสียหน่อย
จากสวนสน ขับมาเรื่อย ๆ ก็มาเจอป้ายข้างทาง เพื่อนบอกขอลงทะเบียนหน่อย ได้มาอย่างนี้ครับ
แล้วก็มาถึงที่เดิมเหมือนขาไป นั่นคือ บัวตองบานที่แม่เหาะ
เพื่อนที่มาจากกทม. บอกว่าที่จะเข้าไปแม่สะเรียง 3 วันนั้นความตั้งใจคืออยากไปพิสูจน์ฝีมือกับข้าวเมือง
ของสล่าปู่โดยตรงว่าจะเจ๋งจริงตามราคาคุยหรือเปล่า โดยเฉพาะลาบเลือดกับปลาสาละวิน และมีการบอกว่า
เจ้มือหนึ่งของเพื่อน ฝากปลาสลิดแกะก้างทอดมากล่องเบ้อเริ่ม และของฝากอื่น ๆ อีกเยอะแยะประสา สว.ใจดี
ที่รักน้องรักนุ่ง แต่มีข้อแม้นิดเดียวว่าขากลับ กล่องปลาทอดนั้นจะต้องมีแกงฮังเลบรรจุในกล่องอย่างเต็มเลย
ไม่มีปัญหาจัดให้ เมนูฮังเลสล่าปู่โกอินเตอร์ ขึ้นเครื่องเข้า กทม.ไปแล้วเมื่อเย็นนี้เอง และเมนูเด็ด ๆ ระหว่างที่
เพื่อนมาพัก สล่าปู่จะหาโอกาสนำเสนอโดยเร็วที่สุด
ตัวอย่างแค่เบาะ ๆ
ปลาคม ทอดกระทียม
ขอบคุณที่ติดตาม ร่วมชิม ร่วมเที่ยวด้วยกันอย่างยาวนานมาก
สวัสดีครับ
สล่าปู่ชวนดูและชวนชิม "4 วันในเชียงใหม่"
สืบเนื่องมาจากนัดหมายกับเพื่อนที่อยู่ กทม. ไว้ตั้งแต่เดือนมิ.ย. ว่าวันที่ 16 พ.ย. จะไปกราบ
แสดงมุทิตาจิต เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 80 ปี ของหลวงปู่เราที่เคารพนับถือท่านหนึ่ง
ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
นัดเจอกันที่สนามบินเชียงใหม่ สาย ๆ วันที่ 14 จึงต้องไปนอนตั้งหลักตั้งแต่วันที่ 13
และตลอด 4 วันที่อยู่เชียงใหม่สล่าปู่จะชวนแวะเที่ยวชมและกินตามถนนข้างทาง
เป็นการเรียกน้ำย่อย ระหว่างฟังสล่าปู่โม้ไปพลาง ๆ
ออกจากบ้านมาประมาณ 17 ก.ม. เจอเลย บัวตองบานที่แม่เหาะ
ถึงอ.จอมทอง ก่อนเที่ยง วันนี้ฟรีทั้งวัน น่าจะแวะไปเที่ยวบนดอยอินทนนท์สักหน่อย
ก็เลยหาทางจัดการเรื่องปากเรื่องท้อง ง่าย ข้างทาง กรอบเป็ดมหาโหด
เกาเหลาหมูนำร่องมาก่อน
ตามด้วยข้าวหน้าหมูกรอบ เป็ดย่าง
ท้องอิ่ม มีพลังขับรถขึ้นดอย ตอนจ่ายเงินมีตกใจเล็กน้อยต้องถามย้ำแล้วย้ำอีก เขายืนยัน
ราคาตามนั้น ก็ต้องจ่ายไม่มีปัญหาใด
ขับรถอย่างสบาย ๆ รถไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่เทศกาล
ถึงลานจอดรถยอดดอยแล้ว ก็เป็นขากลับละครับ
ข้างทาง มีจุดจำหน่ายของที่ระลึก และผักไม้ไส้เครือเผื่อซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน
แวะดูของกินของใช้ เพลินตา เพลินใจ แล้วก็ลงดอยโลด สล่าปู่ลืมบอกไปว่าไปครั้งนี้
สล่าไปกับญาติธรรม เพื่อนกิน ที่เคยส่งกับข้าวให้สล่าปู่กินบ่อย ๆ
ลงดอยมาชักหิว เพื่อนบอกว่าทนเอานิดเดี๋ยวจะจัดให้ที่สันป่าตอง เขาบอกว่าเขาแวะบ่อย
นี่เลยครับ 4 โมงกว่า ๆ เวลากำลังเหมาะ ร้านกับข้าวเมือง
กล่องข้าวน้อย สานด้วยใบตาล สล่าปู่ไม่เคยเห็นมานานน่าจะเกิน 40 ปี ดูได้บรรยากาศมาก
สล่าปล่อยให้เพื่อจัดการสั่งอาหาร แบบผู้ชำนาญการได้ดังนี้ครับ
แกงอ่อมเนื้อ
ลาบขม ที่เห็นในถ้วยเล็ก ๆ เป็นน้ำดี
ลาบหมู
ย่าง
1ชุด สำหรับมื้อนี้
อิ่มแล้ว เข้าเชียงใหม่ ถึงที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย รอมื้อเช้าวันรุ่งขึ้นต่อไป
เช้าแล้ว ง่าย ๆ เกาเหลาเลือดหมู เจ้าประจำใกล้ ๆ ที่พัก
ซื้อใส่ถุงมากินที่บ้าน
ชุดนี้สงสัยข้างในน่าจะบูด มาเมื่อไหร่ กี่หน ๆ ก็เห็นเป็นอย่างนี้ จับมาวางถ่ายรูปเสียเลย
กินอย่างง่าย เพราะเป็นความตั้งใจว่าจะไปทำบุญเรื่องกินให้เป็นเรื่องรอง แค่พออิ่มท้องก็พอ
กินข้าวเสร็จออกไปรับเพื่อนที่สนามบิน ตอนนี้ทั้งคณะจะกลายเป็น 3 คน
มุ่งหน้าไป อ.แม่แตง เพื่อจะไปที่วัดก่อน ไหน ๆ ก็ผ่านแม่ริม แวะเยี่ยมเพื่อนอีกคน เขาทำไร่
อยู่ที่โป่งแยง อ.แม่ริม
และก็เลยได้ซื้อไอ้นี่ติดมือกลับบ้านในราคาส่ง แบบถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ให้ทายว่าคืออะไร
แล้วก็ชักจะหิวที่แม่แตง มื้อกลางวันข้างทาง
จากนั้นก็ไปที่วัด มื้อเย็นมีโรงทานมากมายให้เลือกตามสะดวก สล่าปู่เลือกที่จะชิม
ข้าวยำของปักษ์ใต้
ค่ำแล้วเดินทางกลับที่พัก ระยะทางประมาณ 70 ก.ม. นอนสลบไสลเลย
มื้อเช้าอีกวัน ตลาดแม่เหียะใกล้ที่พักที่สุด ตกลงกันว่ากับข้าวเมืองเพราะเพื่อนที่มาจาก กทม. ขอ
ไส้อั่วต้นมะขามเจ้าเก่าย้ายเข้ามาในตลาด
แอ๊บออกออ
ซื้อมาอย่างละนิดละหน่อย กินกับข้าวเหนียวเพื่ออิ่มเพื่อเตรียมตัวธรรมสัญจรต่อไป
ซึ่งกิจกรรมการทำบุญ สล่าปู่จะหาโอกาสไปเล่าในที่เหมาะสมต่อไป ขอบอกว่ามัน
ยิ่งใหญ่จริง ๆ
ตอนนี้ขอเรื่องกินอย่างเดียวก่อน
อิ่มท้องแล้วก็ออกไป แวะกราบหลวงปู่ ครูบา ที่เคารพนับถือตามที่ตั้งใจไว้
มื้อกลางวันง่าย ๆ ตามถนัด สล่าอยากชิมนี่เลย เห็นแล้วอยากกิน อยากก๊อป
มีภาพสถานที่น่าเข้าไปชมอยู่ที่หนึ่ง อยากแนะนำ นั่นคือวัดต้นเกว๋น เข้าไปในวัดแล้ว
มันให้ความรู้สึกความเป็นโบราณ ๆ มาก
อยู่จนได้ร่วมกิจกรรมตามจุดประสงค์แล้ว ก็เดินทางกลับ เพราะเพื่อนที่มาจากกรุงเทพฯ
จะเข้าไปเที่ยวแม่สะเรียงด้วย
พวกเราออกเดินทางแต่เช้า กลางเดือนพ.ย. ต้องขับรถฝ่าดงหมอกที่หมู่บ้านวังน้ำหยาด
อ.จอมทอง เป็นภาพที่น่าตื่นเต้นพอสมควร
จากนั้นก็ยาว ไปจนถึงสวนสน อ.ฮอด เจอขบวนซูซูกิมากันมากมายหลายคัน
แวะเสียหน่อย
จากสวนสน ขับมาเรื่อย ๆ ก็มาเจอป้ายข้างทาง เพื่อนบอกขอลงทะเบียนหน่อย ได้มาอย่างนี้ครับ
แล้วก็มาถึงที่เดิมเหมือนขาไป นั่นคือ บัวตองบานที่แม่เหาะ
เพื่อนที่มาจากกทม. บอกว่าที่จะเข้าไปแม่สะเรียง 3 วันนั้นความตั้งใจคืออยากไปพิสูจน์ฝีมือกับข้าวเมือง
ของสล่าปู่โดยตรงว่าจะเจ๋งจริงตามราคาคุยหรือเปล่า โดยเฉพาะลาบเลือดกับปลาสาละวิน และมีการบอกว่า
เจ้มือหนึ่งของเพื่อน ฝากปลาสลิดแกะก้างทอดมากล่องเบ้อเริ่ม และของฝากอื่น ๆ อีกเยอะแยะประสา สว.ใจดี
ที่รักน้องรักนุ่ง แต่มีข้อแม้นิดเดียวว่าขากลับ กล่องปลาทอดนั้นจะต้องมีแกงฮังเลบรรจุในกล่องอย่างเต็มเลย
ไม่มีปัญหาจัดให้ เมนูฮังเลสล่าปู่โกอินเตอร์ ขึ้นเครื่องเข้า กทม.ไปแล้วเมื่อเย็นนี้เอง และเมนูเด็ด ๆ ระหว่างที่
เพื่อนมาพัก สล่าปู่จะหาโอกาสนำเสนอโดยเร็วที่สุด
ตัวอย่างแค่เบาะ ๆ
ปลาคม ทอดกระทียม
ขอบคุณที่ติดตาม ร่วมชิม ร่วมเที่ยวด้วยกันอย่างยาวนานมาก
สวัสดีครับ