เอาข่าวซึ่งแปลโดยคุณกุน แห่งเวปพันทิพย์ในอดีตมาลงอีกครั้งให้ทุกท่านจะเข้าใจความเป็นมาของวอลเล่ย์บอลทีมหญิงของไทยมากขึ้น

กระทู้สนทนา
แปลข่าวจากเว็บจีน No.3   <<< หลังจากทีมไทยชนะจีน นักข่าวจีนก็ตามหาตัวหวังเซิ่งชวนโค้ชจีนที่คุมทีมวอลเลย์บอลไทยในช่วงปี 1995 ถึง 1998 >>>

ที่มา: http://sports.sina.com.cn/o/2009-09-18/08524593687.shtml

(หมายเหตุผู้แปล: ชื่อเฉพาะต่างๆ เช่นชื่อทัวร์นาเมนท์การแข่งขันอาจมีความผิดพลาดบ้าง เพราะผู้แปลเป็นคนนอกวงการวอลเลย์บอล)
****          ***          ***          ***          ***
13 กันยายน 2009 การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชียที่เวียดนาม ทีมวอลเลย์บอลหญิงของจีนพ่ายแพ้ให้กับทีมวอลเลย์บอลไทย 1:3 เซ็ทเป็นข่าวสั่นสะเทือนทั้งประเทศจีน

การปราชัยของทีมวอลเลย์บอลหญิงของจีนในเวียดนาม ทั้งภาครัฐและประชาชนต่างล้วนกำลังคิดทบทวน วิเคราะห์ว่าทีมไทยที่เตี้ยกว่าทีมจีนหนึ่งช่วงศีรษะเอาชนะวอลเลย์บอลหญิงจีนได้อย่างไร

16 กันยายน "Sports Weekly" แจ้งประกาศคนหายตามหาหวังเซิ่งชวนโค้ชที่เคยสร้างผลงานให้แก่วอลเลย์บอลไทย หวังเซิ่งชวนก็คือโค้ชวอลเลย์บอลหญิงของมณฑลหูเป่ยนั่นเอง หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้ขอให้ผู้อ่านช่วยแจ้งที่อยู่ของหวังเซิ่งชวนเข้ามาให้ด้วย

เมื่อวานหลังจากติดตามหาผ่านหลากหลายช่องทางแล้ว ในที่สุดก็พบตัวโค้ชหวังเซิ่งชวน โค้ชหวังให้สัมภาษณ์พิเศษกับนักข่าวของหนังสือเราเพียงฉบับเดียวอย่างมีความสุข เล่าประวัติการเป็นโค้ชและการต่อสู้อย่างมุ่งมั่นของผู้เล่นทีมไทยในช่วงปี 1995 ถึง 1998 ในประเทศไทย

ในอดีตหวังเซิ่งชวนเป็นนักกีฬาของทีมวอลเลย์บอลชายทีม “ปาอี” (ทีมกองทัพ) (ปาอีแปลว่า แปดหนึ่ง หมายถึง วันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันก่อตั้งกองทัพจีน...ผู้แปล) และเป็นอดีตผู้เล่นทีมชาติวอลเลย์บอลชายจีนด้วย หลังออกจากทีมแล้วไปเป็นโค้ชทีมมณฑลหูเป่ย ในปี 1995 เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ถูกส่งตัวไปช่วยเหลือต่างประเทศ คณะกรรมการกีฬาแห่งชาติของจีนมีแผนส่งโค้ชหวังไปฝึกสอนที่ต่างประเทศ  ในตอนแรกนั้นคณะกรรมการกีฬาแห่งชาติเตรียมจะส่งเขาไปยังคูเวต แต่โค้ชหวังค่อนข้างสนในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า ดังนั้นคณะกรรมการกีฬาแห่งชาติจึงเปลี่ยนให้เขาไปพม่า โค้ชหวังจำได้อย่างชัดเจนว่าตอนนั้นโจวเสี่ยวหลัน (นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงชื่อดังในยุคของโค้ชหยวนเหว่ยหมิน) ซึ่งเป็นหัวหน้ากองวอลเลย์บอล แจ้งให้เขาไปประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เปลี่ยนชะตาชีวิตของหวังเซิ่งชวน และยังเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยอีกด้วย

ในตอนที่หวังเซิ่งชวนเข้ารับหน้าที่โค้ชทีมชาติวอลเลย์บอลหญิงไทยนั้น สมาคมวอลเลย์บอลของประเทศไทยได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับเขา ในระหว่างงานเลี้ยงรองประธานท่านหนึ่งซึ่งมีเชื้อสายจีนได้ฝากฝังหวังเซิ่งชวนว่า "เราให้ความสำคัญกับซีเกมส์มากที่สุด แต่ทีมวอลเลย์บอลหญิงของเราเพิ่งแพ้ฟิลิปปินส์  เวลาดูวอลเลย์บอลหญิงของเราเล่นแล้ว หัวใจของพวกเราทนรับไม่ไหวจริงๆ ไม่ว่ายังไงก็ขอให้คุณช่วยยกระดับฝีมือของทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย ช่วยทำให้ตอนที่พวกเราดูเกมส์แล้ว หัวใจรู้สึกดีขึ้นบ้างสักหน่อย"

ในตอนแรกที่หวังเซิ่งชวน เริ่มฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยนั้น สมาคมวอลเลย์บอลไทยไม่มีล่ามให้ เนื่องจากไม่เข้าใจภาษาไทย โค้ชหวังจึงทำแผนการฝึกเป็นรูปภาพขนาดค่อนข้างใหญ่วางบนพื้นเพื่อให้นักกีฬาดู ใช้ภาษามือบอกวิธีการเล่นว่าจะวิ่งอย่างไร บรรดาโค้ชในประเทศไทยต่างก็ปราศจากอติ ตั้งใจคัดลอกศึกษาแผนภูมิเหล่านี้ ติดตามการฝึกสอนของโค้ชหวังโดยครบถ้วน

ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยเป็นทีมสมัครเล่นไม่ใช่ทีมอาชีพ เวลาฝึกซ้อมส่วนมากอยู่ในช่วงกลางคืน บรรดาสมาชิกทีมหลังจากเรียนหรือทำงานในตอนกลางวันเสร็จแล้วจึงกลับมาเล่นวอลเลย์บอล  แม้ว่าในแต่ละวันพวกเขาจะฝึกซ้อมได้เพียงหนึ่งหรือสองชั่วโมงเท่านั้น แต่ตั้งใจเต็มที่ ขยันมาก หวังเซิ่งชวนคิดในใจว่า "ไม่ว่าเรื่องอะไร ขอให้มีความขยันพากเพียรก็ทำได้สะดวกแล้ว”

เวลาผ่านไปนานเข้า หวังเซิ่งชวน มีความเข้าใจวอลเลย์บอลหญิงไทยมากขึ้น  พื้นฐานของนักวอลเลย์บอลในประเทศไทยค่อนข้างดี ประชาชนชอบเล่นวอลเลย์บอล ลีกวอลเลย์บอลผู้หญิงมีเพียงสี่ทีมเท่านั้น ทีมเหล่านี้ส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรขนาดใหญ่ จึงมีเงินสามารถทำทีมได้  แม้ว่าทีมวอลเลย์บอลหญิงรูปร่างเตี้ย แต่มีความอดทนต่อความยากลำบากในการฝึกซ้อมสูง การมาฝึกซ้อมในทีมชาติจะได้ค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 100 บาท กินอาหารกล่องราคา 20 บาท ในเงื่อนไขดังกล่าวผู้เล่นทีมชาติไทยยังคงถือว่าการได้ติดทีมชาติเป็นเกียรติสูงสุด ยังมีปัจจัยเรื่องสถานะทางสังคมของสตรีในประเทศไทยยังค่อนข้างต่ำ ถ้าหากพวกเธอสามารถเล่นวอลเลย์บอลได้เก่งกาจ ก็จะได้รับการยกย่อง เข้าทำงานในองค์กรขนาดใหญ่มีหลักประกันที่ดี หากสามารถติดทีมชาติได้ก็ยิ่งได้รับความยกย่องนับถือมากยิ่งขึ้น

ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยรูปร่างไม่สูงแต่เทคนิคค่อนข้างดี ควบคุมบอลได้ดี เวลาบุกน่าดูมาก เวลาป้องกันทีมวอลเลย์บอลหญิงของไทยเหนียวแน่นสู้ตายเป็นพิเศษ ทีมวอลเลย์บอลหญิงของไทยภายใต้การนำทีมของหวังเซิ่งชวน ได้ก้าวเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง

คนไทยให้ความสำคัญกับซีเกมส์มาก ในช่วงที่หวังเซิ่งชวนคุมทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยในช่วง 1995-1998 ได้แชมป์ซีเกมส์สองสมัย ในการแข่งกับฟิลิปปินที่เชียงใหม่ เจ้าของบริษัทคนหนึ่งพนันกับหวังเซิ่งชวนว่าชนะ 1 เซ็ทจะได้เงินเท่าไหร่ ชนะสามเซ็ทรวดได้เงินเท่าไหร่ ผลสุดท้าย ทีมไทยชนะสามเซ็ทต่อศูนย์เหนือคู่แข่ง เจ้าของบริษัทคนนั้นก็ไม่พนันอีกแล้ว

นอกจากแชมป์ซีเกมส์แล้ว หวังเซิ่งชวน ยังพาทีมไทยไปแข่งชิงแชมป์วอลเลย์บอล World Championships, World Cup, ไปญี่ปุ่นเข้าแข่งขัน Super Cup เนื่องจากการฝึกสอนที่มีประสิทธิภาพ คุมทีมทำผลงานดี สมาชิกทีมไทยมีความสนิทสนมรักใคร่หวังเซิ่งชวนมาก แม้ว่าหวังเซิ่งชวนจะฝึกซ้อมโหดมาก แต่นักกีฬาไทยก็อดทนได้ พวกเธอบอกว่า พวกเรารูปร่างไม่สูง ก็มีแต่ต้องฝึกหนัก โค้ชหวังเข้มงวดโหดกับพวกเรา เพราะรักพวกเรา

ในปี 1998 หวังเซิ่งชวนนำทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยไปแข่งกับทีมชาติหญิงจีนที่มีหลังผิงเป็นโค้ชที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน เซ็ทแรกเคยทำแต้มนำถึง 13:12  แต่ผลสุดท้ายทีมจีนชนะ   แต่ทีมวอลเลย์บอลหญิงของของไทยก็ได้พัฒนาขึ้นจนมีฝีมือสามารถต่อสู้กับวอลเลย์บอลหญิงของจีนได้แล้ว

ปลายปี 1998  ครบกำหนดเวลาที่หวังเซิ่งชวนจะคุมทีมในประเทศไทย สมาคมวอลเลย์บอลต้องการจ้างโค้ชหวังต่ออีกหลายปี แต่โค้ชหวังสุขภาพไม่ดีนัก มีความดันเลือดสูง อีกทั้งไม่คุ้นเคยกับอากาศร้อนในประเทศไทย ดังนั้นเขาจึงเดินทางกลับไปจีนพร้อมกับเกียรติยศชื่อเสียง กลับคืนสู่ทีมวอลเลย์บอลของมณฑลหูเป่ย

ปัจจุบันนี้โค้ชหวังเกษียณแล้วพักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่เขายังสนใจวอลเลย์บอลหญิงของเอเชียและระดับโลกมาก

แมทช์ชิงแชมป์จีน VS ไทยโค้ชหวังเฝ้าดูอยู่ที่บ้าน เขากล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้ทีมในเอเชียกลัวทีมวอลเลย์บอลหญิงจีนคืออะไร คำตอบคือเกมบุกที่รวดเร็ว ทีมวอลเลย์บอลหญิงของจีนแต่ไหนแต่ไรมาจะอาศัยเทคนิคการเล่นที่ดี รับบอลแรกดี มือเซ็ททำเร็ว นี่คือจุดที่ทีมในเอเชียกลัวทีมจีน น่าเสียดายที่ของดีดั้งเดิมของพวกเราสูญหายไปเสียแล้ว”

โค้ชหวังกล่าวว่า "โค้ชไช่อายุค่อนข้างน้อย  คนอายุน้อยกล้าคิดกล้าทำ ซึ่งเป็นเรื่องดี เพียงแต่การประสานเป็นหนึ่งเดียวของทีมจำเป็นต้องมีผู้เล่นสามระดับทั้งอายุมาก ปานกลาง และวัยรุ่นประสานเข้าด้วยกัน จะขาดรุ่นใดรุ่นหนึ่งไปไม่ได้ นี่เป็นแค่ตัวอย่างเปรียบเทียบเท่านั้น ในด้านนี้โค้ชไช่อาจใจร้อนไปบ้าง เพราะตัดผู้เล่นที่อายุมากออกไปมากเกินไป

"การแพ้ให้ประเทศไทยครั้งนี้ก็ไม่ควรทับถม  เพราะถึงอย่างไรก็ตามตอนนี้สภาพร่างกายทีมวอลเลย์บอลหญิงจีนดีมาก รัฐบาลให้ความสำคัญกับทีมวอลเลย์บอลหญิงมาก  ผมยังยืนยันเหมือนเดิมว่า  "ไม่ว่าเรื่องอะไร ขอให้มีความขยันพากเพียรก็ทำได้สะดวกแล้ว”  พากเพียรไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง จะทำให้ช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว ขอเพียงขยันพากเพียร สุดท้ายแล้วจะต้องพบวิธีและหนทางแก้ไข หวังเซิ่งชวนกล่าวทิ้งท้ายด้วยความจริงจัง
            
เครดิต คุณกุนจากเวปพันทิพย์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่