เรื่องที่เราจะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ ประมาณช่วง1-2เดือนที่ผ่านมา เรื่องมีอยู่ว่า เราไปทำงานแล้วเราไม่สบาย เลยขอลานายไปหาหมอ และได้รบกวนน้องที่ออฟฟิศ ที่สนิทกันพอสมควร ให้ช่วยไปส่งที่ ร.พ. เพราะว่าตอนนั้นฝนเริ่มตก แต่โชคร้ายที่ระหว่างทางเข้า ร.พ. (ทางเข้าแคบพอสมควร) น้องเค้าขับรถครูดกับรถอีกคันนึงที่วิ่งสวนมา เราตอนนั้นไม่ทันคิดอะไรเพราะไม่สบายกะว่าถ้าน้องเอารถไปซ่อมจะช่วยออกค่าซ่อมให้เพราะน้องเค้ามีน้ำใจมาส่ง พอถึงโรงพยาบาลก็รีบเข้าไปหาหมอ และน้องเค้าก็กลับไปทำงาน วันต่อมาเราลาหยุด พอค่ำๆน้องเค้าก็โทรมาหาเราประโยคสนทนาดังนี้
น้อง พี่เป็นไงมั่งคะ อาการดีขึ้นยัง
เรา อ่อ ดีขึ้นนิดหน่อย แต่พรุ่งนี้คงไปไหวแหละ ขอบใจนะ
น้อง เออ คือว่าพี่ รถหนูชนอ่ะ เอาไปซ่อม 4000 พี่พอมีน้ำใจจะช่วยบ้างมั้ย (น้องพูดแบบนี้จริงๆ ทำเอาเราสะดุ้งไปเลย)
เรา พี่ช่วย 1000 ละกันนะ
น้อง (หันไปหาแม่) พี่เค้าจะช่วย 1000 นึง
แม่น้อง พันนึงได้ไง ต้องคนละครึ่งสิ ไปด้วยกัน แถมไปส่งให้ด้วย (แกคงหมายความว่าถ้าไม่ไปส่งเรารถสูกสาวแกคงไม่โดนชน)
น้อง พี่คนละครึ่งได้มั้ย
เรา พี่ไปหาหมอมาก็เยอะอยู่นะ ถ้าจะคนละครึ่งพี่ให้ก่อนได้มั้ย 1000 แล้วสิ้นเดือนเงินออกพี่ให้ที่เหลือ
น้อง (ตะโกนบอกแม่ตามที่เราบอก)
แม่น้อง ไม่ได้หรอก ไปยืมคนอื่นมาให้สิ เอามาเลยๆ ไม่มีอะไร เราก็ไม่มีเหมือนกัน
เรา (ไม่อยากคุยแล้วไม่เกรนขึ้น ยิ่งป่วยๆอยู่) เอาเป็นว่ายังไงพรุ่งนี้ไปทำงานพี่ให้คำตอบอีกทีนะ
สรุปเหตุการณ์นี้เราตัดปัญหาโดยการช่วยน้องเค้าจ่าย 2000 บาท และ ประหยัดค่าใช้จ่ายเราเองอีกเล็กน้อย เพื่อความสบายใจในการทำงาน แต่ความรู้สึกเราก็เปลี่ยนไปแล้ว ทำใจให้รู้สึกเอ็นดูน้องเค้าหรือพูดคุยกับเค้าไม่ได้เหมือนเดิม
ต่ออีกนิดค่ะ ก่อนน้องเค้าจะโทรหาเรา เค้าเอาไปถามนายเราและพี่ที่อยู่แผนกเดียวกับเราเรื่องนี้ และแน่นอน นายเราบอกว่าเรื่องส่วนตัวเค้าไม่ยุ่ง ส่วนเพื่อนเราบอกว่า ถ้าเป็นเพื่อนเรา เพื่อนเราจะไม่จ่าย เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเราที่รถโดนชน ซึ่งเราเพิ่งทราบในภายหลังว่าเค้าไปพูดกับคนอื่นๆหมดแล้วก่อนที่จะคุยกับเรา
เราอยากทราบเหมือนกันว่า กรณีแบบนี้ โดยปรกติ (ไม่เอาเรื่องน้ำใจหรือมารยาทนะคะ) ตามหลัก เราต้องช่วยหารค่าใช้จ่ายไหมคะ รถน้องเค้าเป็นประกันชั้น 3 และน้องเค้าบอกว่าน้องเค้าไม่ค่อยมีเงิน ซึ่งเหตุการณ์นี้เราโดนมัดมือชกเพราะน้องเค้าเอารถเข้าอู่ไปเรียบร้อย และจะต้องไปเอารถในอีก 3-4 วัน
เสียเงินไม่เท่าไหร่ เสียความรู้สึกมากกว่า ตอนนี้พอทำใจได้แล้วเลยเอามาสอบถามความเห็นค่ะ
เรื่องของน้ำใจ
น้อง พี่เป็นไงมั่งคะ อาการดีขึ้นยัง
เรา อ่อ ดีขึ้นนิดหน่อย แต่พรุ่งนี้คงไปไหวแหละ ขอบใจนะ
น้อง เออ คือว่าพี่ รถหนูชนอ่ะ เอาไปซ่อม 4000 พี่พอมีน้ำใจจะช่วยบ้างมั้ย (น้องพูดแบบนี้จริงๆ ทำเอาเราสะดุ้งไปเลย)
เรา พี่ช่วย 1000 ละกันนะ
น้อง (หันไปหาแม่) พี่เค้าจะช่วย 1000 นึง
แม่น้อง พันนึงได้ไง ต้องคนละครึ่งสิ ไปด้วยกัน แถมไปส่งให้ด้วย (แกคงหมายความว่าถ้าไม่ไปส่งเรารถสูกสาวแกคงไม่โดนชน)
น้อง พี่คนละครึ่งได้มั้ย
เรา พี่ไปหาหมอมาก็เยอะอยู่นะ ถ้าจะคนละครึ่งพี่ให้ก่อนได้มั้ย 1000 แล้วสิ้นเดือนเงินออกพี่ให้ที่เหลือ
น้อง (ตะโกนบอกแม่ตามที่เราบอก)
แม่น้อง ไม่ได้หรอก ไปยืมคนอื่นมาให้สิ เอามาเลยๆ ไม่มีอะไร เราก็ไม่มีเหมือนกัน
เรา (ไม่อยากคุยแล้วไม่เกรนขึ้น ยิ่งป่วยๆอยู่) เอาเป็นว่ายังไงพรุ่งนี้ไปทำงานพี่ให้คำตอบอีกทีนะ
สรุปเหตุการณ์นี้เราตัดปัญหาโดยการช่วยน้องเค้าจ่าย 2000 บาท และ ประหยัดค่าใช้จ่ายเราเองอีกเล็กน้อย เพื่อความสบายใจในการทำงาน แต่ความรู้สึกเราก็เปลี่ยนไปแล้ว ทำใจให้รู้สึกเอ็นดูน้องเค้าหรือพูดคุยกับเค้าไม่ได้เหมือนเดิม
ต่ออีกนิดค่ะ ก่อนน้องเค้าจะโทรหาเรา เค้าเอาไปถามนายเราและพี่ที่อยู่แผนกเดียวกับเราเรื่องนี้ และแน่นอน นายเราบอกว่าเรื่องส่วนตัวเค้าไม่ยุ่ง ส่วนเพื่อนเราบอกว่า ถ้าเป็นเพื่อนเรา เพื่อนเราจะไม่จ่าย เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเราที่รถโดนชน ซึ่งเราเพิ่งทราบในภายหลังว่าเค้าไปพูดกับคนอื่นๆหมดแล้วก่อนที่จะคุยกับเรา
เราอยากทราบเหมือนกันว่า กรณีแบบนี้ โดยปรกติ (ไม่เอาเรื่องน้ำใจหรือมารยาทนะคะ) ตามหลัก เราต้องช่วยหารค่าใช้จ่ายไหมคะ รถน้องเค้าเป็นประกันชั้น 3 และน้องเค้าบอกว่าน้องเค้าไม่ค่อยมีเงิน ซึ่งเหตุการณ์นี้เราโดนมัดมือชกเพราะน้องเค้าเอารถเข้าอู่ไปเรียบร้อย และจะต้องไปเอารถในอีก 3-4 วัน
เสียเงินไม่เท่าไหร่ เสียความรู้สึกมากกว่า ตอนนี้พอทำใจได้แล้วเลยเอามาสอบถามความเห็นค่ะ