เห็นหลายๆคนบอกว่า รายการชื่อ "The Voice" เสียงต้องมาก่อนดิ แข่งกันคนเสียงดีกว่าต้องชนะ เสียงดีน้อยกว่าควรจะเป็นผู้แพ้
ยิ่งหลายครั้งหลายคราที่คนเสียง "ด้อยกว่า" เป็นผู้เข้ารอบ มักจะมีกระทู้ตั้งข้อครหา อยู่เสมอ ไม่พอใจบ้าง จะโห่บ้าง นินทาโค้ชบ้าง ต่างๆนาๆ
สุดท้ายกลายเป็นโทษ The Voice หลุดคอนเซ็ปต์ไปซะงั้น
ผมอยากจะบอกทุกท่านว่า รายการ "The Voice" มันก็แทบไม่ต่างอะไรจากรายการอื่นหรอกครับ
แต่ที่มันเป็น " The Voice " ก็เพราะ จุดเด่นของรายการอยู่ที่รอบ "Blind Audition" ซึ่งในการคัดผู้เข้าแข่งขันนั้นคือการที่เหล่าโค้ชนั่งหันหลัง "ฟังเสียงอย่างเดียว" แล้วคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันเพื่อมาไฟต์กันในรอบถัดไป ซึ่งรอบ Blind Audition นี้ ทำให้เรามั่นใจได้แน่ๆว่า ผู้ที่เข้าไปสู่รอบ battle การันตีคุณภาพแน่ๆจากบรรดาโค้ชทั้งสี่
ไอ้รอบ " Blind Audition" เนี่ยแหล่ะ ที่ทำให้รายการนี้ชื่อ "The Voice"
เพราะฉะนั้น รอบถัดๆไป นอกจากผู้เข้าแข่งขันจะมี " Voice " ที่ดีแล้ว โค้ชจะดูส่วนอื่นประกอบด้วย เช่น โน๊ต จังหวะ อารมณ์ ความรู้สึก ความเอ็นเตอร์เทรน ปัจจัยต่างๆนานาๆที่โค้ชเห็นสมควรว่าโดยรวมแล้วใครจะได้เป็นผู้เข้ารอบต่อไป ไม่ได้แปลว่า คนที่ " Voice " ดีกว่าเท่านั้นถึงเป็นผู้ชนะ
ฉะนั้นแล้ว คนที่คิดว่า คนเสียงดีกว่า จะต้องชนะ ในทุกๆรอบ เพราะรายการนี้คือ " The Voice " ท่านเข้าใจผิดอย่างมหันต์ครับ
แต่ถ้าท่านอยากจะดู " The Voice " ในอุดมคติของท่าน คงต้องบอกให้โค้ช หันหลังฟังแมร่งทุกรอบไปเลยครับ เนี่ย..ถึงจะเป็น The Voice ในอุดมคติของพวกท่าน แต่รายการนี้ไม่ใช่แบบนั้น รอบถัดๆไปเค้ามององค์ประกอบอื่นด้วย ถึงต้องให้โค้ชหันหน้ามาดูยังไงหล่ะ ไม่งั้นจะหันมาทำมะเขือพวงอะไร
แล้วพอท่านเข้าใจว่ารายการ " The Voice " มันต่างกับรายการอื่นแค่รอบ Blind ทีนี้ท่านก็จะไม่ต้องมาเครียดกับรอบถัดๆไปแล้วครับ ว่าทำไมคนเสียงดีกว่า ถึงตกรอบ เพราะทุกอย่างอยู่ที่การมององค์ประกอบต่างๆในมุมมองของโค้ช
ปล. ลูกพีชเสียงดีกว่าจริง แต่องค์รวมในรอบนี้ แนนดีกว่า สมควรผ่านครับ
คำว่า The Voice ในความเข้าใจของผม ไม่ใช่ว่าเสียงดีที่สุดต้องเป็นที่ 1 เสมอ
ยิ่งหลายครั้งหลายคราที่คนเสียง "ด้อยกว่า" เป็นผู้เข้ารอบ มักจะมีกระทู้ตั้งข้อครหา อยู่เสมอ ไม่พอใจบ้าง จะโห่บ้าง นินทาโค้ชบ้าง ต่างๆนาๆ
สุดท้ายกลายเป็นโทษ The Voice หลุดคอนเซ็ปต์ไปซะงั้น
ผมอยากจะบอกทุกท่านว่า รายการ "The Voice" มันก็แทบไม่ต่างอะไรจากรายการอื่นหรอกครับ
แต่ที่มันเป็น " The Voice " ก็เพราะ จุดเด่นของรายการอยู่ที่รอบ "Blind Audition" ซึ่งในการคัดผู้เข้าแข่งขันนั้นคือการที่เหล่าโค้ชนั่งหันหลัง "ฟังเสียงอย่างเดียว" แล้วคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันเพื่อมาไฟต์กันในรอบถัดไป ซึ่งรอบ Blind Audition นี้ ทำให้เรามั่นใจได้แน่ๆว่า ผู้ที่เข้าไปสู่รอบ battle การันตีคุณภาพแน่ๆจากบรรดาโค้ชทั้งสี่
ไอ้รอบ " Blind Audition" เนี่ยแหล่ะ ที่ทำให้รายการนี้ชื่อ "The Voice"
เพราะฉะนั้น รอบถัดๆไป นอกจากผู้เข้าแข่งขันจะมี " Voice " ที่ดีแล้ว โค้ชจะดูส่วนอื่นประกอบด้วย เช่น โน๊ต จังหวะ อารมณ์ ความรู้สึก ความเอ็นเตอร์เทรน ปัจจัยต่างๆนานาๆที่โค้ชเห็นสมควรว่าโดยรวมแล้วใครจะได้เป็นผู้เข้ารอบต่อไป ไม่ได้แปลว่า คนที่ " Voice " ดีกว่าเท่านั้นถึงเป็นผู้ชนะ
ฉะนั้นแล้ว คนที่คิดว่า คนเสียงดีกว่า จะต้องชนะ ในทุกๆรอบ เพราะรายการนี้คือ " The Voice " ท่านเข้าใจผิดอย่างมหันต์ครับ
แต่ถ้าท่านอยากจะดู " The Voice " ในอุดมคติของท่าน คงต้องบอกให้โค้ช หันหลังฟังแมร่งทุกรอบไปเลยครับ เนี่ย..ถึงจะเป็น The Voice ในอุดมคติของพวกท่าน แต่รายการนี้ไม่ใช่แบบนั้น รอบถัดๆไปเค้ามององค์ประกอบอื่นด้วย ถึงต้องให้โค้ชหันหน้ามาดูยังไงหล่ะ ไม่งั้นจะหันมาทำมะเขือพวงอะไร
แล้วพอท่านเข้าใจว่ารายการ " The Voice " มันต่างกับรายการอื่นแค่รอบ Blind ทีนี้ท่านก็จะไม่ต้องมาเครียดกับรอบถัดๆไปแล้วครับ ว่าทำไมคนเสียงดีกว่า ถึงตกรอบ เพราะทุกอย่างอยู่ที่การมององค์ประกอบต่างๆในมุมมองของโค้ช
ปล. ลูกพีชเสียงดีกว่าจริง แต่องค์รวมในรอบนี้ แนนดีกว่า สมควรผ่านครับ