กู้เงิน ซื้อคอนโด ต้องทำอย่างไรบ้าง

อยากสอบถามหน่อยค่ะ เนื่องจากไม่มีประสบการณ์การซื้อคอนโดมาก่อนค่ะ
อยากจะทราบว่า เวลาเค้าขอกู้เงินเนี่ย เค้าจะเริ่มยื่นเรื่องกับธนาคารตอนไหนค่ะ
แล้วมีขั้นตอนการขอกู้อย่างไรบ้าง จะกู้ได้เต็มจำนวนหรือไม่

คือตอนนี้เพิ่งจองห้องได้ค่ะ กำลังจะเริ่มผ่อนดาวน์ (พ่อแม่ช่วยผ่อนให้ก่อนค่ะ)
ราคาห้องประมาณ 1.8 ล้านบาท ถ้ากู้ได้ไม่เต็มจำนวน คือเราต้องหาเงินมาจ่ายส่วยที่ขาดเองอีกใช่ไหมค่ะ

ตอนนี้ทำงานมาได้ 2 ปี มีรายได้ประมาณ 28000 บาท/เดือน ไม่มีหนี้สินใดๆ มีเงินเก็บประมาณ 80,000 บาท (ที่สามารถใช้ได้)

รบกวนให้คำแนะนำด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ที่จริงควรไตร่ตรอง ให้ความคิดตกผลึก ก่อนตัดสินใจไปจองห้องค่ะ ..

ถ้าตาม step แนวอนุรักษ์นิยมแบบพี่นะคะ .. พี่จะ
1. พิจารณาความมั่นคงของอาชีพ หน้าที่การงาน รายได้ก่อน .. เช่น ไม่คิดเปลี่ยนงานเร็วๆ นี้ หรือบริษัทจะไม่เจ๊ง ไม่ไล่เราออก
หรือย้ายเราไปทำงานสาขาอื่น คนละมุมเมืองกับคอนโดเรา แบบกระทันหัน

2. มีเงินเก็บสักก้อนใหญ่ๆ เพื่อเตรียมสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการโอน , ตกแต่ง - ซื้อของเข้าบ้าน และเป็นเงินรองรัง กรณีฉุกเฉิน
ไม่ใช่ขูดกันทุกบาททุกสตางค์ หรือไปกดจากบัตรเครดิต/บัตรกดเงินสด มาใช้จ่าย  เพราะเวลาถึงกำหนดจ่ายบิล จะหน้ามืดเอา..
80,000 ที่เป็นเงินเก็บ ณ เวลานี้ ..จึงควรกันไว้สำหรับข้อนี้ ..ไม่ใช่เอาไปดาวน์ซะหมดค่ะ

3. ถ้ามีพร้อมในข้อ 1 และ 2 แล้ว ให้คำนวณหาความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งโดยส่วนหลักการแล้ว ไม่ควรให้สารพัดค่าผ่อนของต่างๆ
รวมกันแล้วเกิน 40% ของเงินเดือน เพราะไม่งั้นจะต้องอยู่อย่างอดๆ อยากๆ หรือไม่ก็ไปปูดที่หนี้บัตรเครดิตแทน
เช่น เงินเดือน 28,000 บ. คิดที่ 40% = 11,200 บ.  คือเงินส่วนที่จะต้องกันไว้สำหรับจ่ายสารพัดผ่อน ..
ถ้าไม่มีหนี้สินอื่น ก็ยึดตัวเลข 11,200 นี้ไว้ค่ะ

4. เอาตัวเลขในข้อ 3 หารด้วย 7,000 ซึ่งว่ากันว่าเป็นค่างวดต่อ 1 ล้านบาท ของระยะการผ่อนประมาณ 30 ปี
ผลลัพธ์จะเท่ากับราคาบ้าน/คอนโดที่ซื้อได้ หน่วยเป็นล้านบาท
ข้อนี้จะตอบโจทย์ว่าจะกู้ได้เต็มจำนวนมั้ยนะคะ

เช่น ตัวอย่าง 11,200 / 7,000 = 1.6 ล้านบาท
ถ้าคอนโดที่ดูไว้ราคาต่ำกว่าตัวเลขนี้ อนุมานว่าน่าจะกู้ผ่าน
ทีนี้คุณไปดูของแพงกว่า คือ 1.8 ล้าน ก็จะต้องหาส่วนต่างเป็นเงินสดมาจ่าย ..
หรือไม่ก็ต้องหาคนกู้ร่วม เพื่อดึงความสามารถในการชำระหนี้ให้ cover ยอดกู้ค่ะ
( ยอดผ่อนประมาณ 12,600 บ. คิดย้อนไปเป็นฐานเงินเดือนหลังหักภาระ ประมาณ 31,500 บ. )
เช่น case นี้ก็น่าจะต้องดาวน์ประมาณ 200,000 เพื่อให้ยอดจัดเหลือ 1.6 ล้านบาทค่ะ

5. ขั้นตอนการยื่นกู้ .. ที่จริงก็ไม่มีอะไรมากนะคะ สำหรับมนุษย์เงินเดือน ค่อนข้างสะดวกสบายกว่าเจ้าของธุรกิจเยอะ..
แถมปกติ ทางโครงการบ้าน/คอนโด เค้าก็มักจะมี deal กับสถาบันการเงินอยู่แล้ว
เผลอๆ ได้โปรโมชั่น ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ ... สารพัดค่ะ เพียง...
- มีใบจอง , สัญญาซื้อขาย
- เตรียมเอกสารทางด้านที่มาของรายได้และการเงิน เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน / สลิปเงินเดือน , บัญชีย้อนหลัง 6 เดือน , ฯลฯ
จริงๆ ถึงตรงนี้ไม่มีอะไรน่ากังวลว่าจะไปต่อไม่เป็น เพราะ sales เค้าอยากขาย เค้าต้องช่วยคุณ ต้องแนะนำคุณค่ะ
แต่ถ้าคุณจะหาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ดูโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านของหลายๆ แบงค์เพื่อเปรียบเทียบกับที่โครงการเสนอ ..ก็ไม่ผิดอะไร
และก็ง่ายๆ เพียงเดินไปคุยกับฝ่ายสินเชื่อของธนาคารที่คุณสนใจจะเป็นลูกหนี้ ...ฝ่ายสินเชื่อ เค้าก็ต้อนรับอยู่แล้วล่ะค่ะ
ไม่มีอะไรน่ากลัวสักนิด ...

สิ่งที่น่ากังวลคือ การผ่อนอีกยาวนาน เป็นสิบๆ ปีนั่นต่างหากค่ะ
พี่เห็นมาบ่อยเสียจน รู้สึกว่าไม่เตือนไม่ได้ คือ เรื่องความสามารถในการผ่อนนี่แหล่ะค่ะ

ส่วนใหญ่ มักจะมีที่มาของมี sponsor ... พ่อแม่ - แฟนกันช่วยจ่ายดาวน์ให้ แบบนี้แหล่ะค่ะ
ซึ่งถ้าตัวผู้กู้เอง ไม่ได้มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ด้วยตัวเองจริงๆ ... จะหนักหนาสาหัสในระยะยาว
หรือไม่ก็งานจะไปงอกที่คุณพ่อคุณแม่อีก..

..ที่จริง มีวิธีคิดง่ายๆ ว่าจะผ่อนไหวหรือเปล่า คือดูค่าใช้จ่ายปัจจุบันของตัวเองนี่แหล่ะค่ะ มาดูว่า ถ้าเดือนๆ หนึ่งคุณต้องหักเงิน 11,200 บ.
มาจ่ายค่างวดคอนโด ( ยังไม่รวมพวกค่าน้ำ ค่าไฟ อินเตอร์เน็ต ค่าส่วนกลาง ฯลฯ ) คุณจะพอใช้จ่ายในแต่ละเดือนมั้ย
ถ้าคำตอบคือ ทุกวันนี้ จ่ายค่าเช่าห้อง เดือนละ 5-6 พัน แล้ว ยังใช้แบบเดือนชนเดือน หรือเหลือเก็บนิดหน่อย
..อันนี้คุณจะเห็นอนาคตเลยค่ะ ว่าจะรุ่งเรือง หรือรุ่งริ่ง !!

การจะซื้อบ้าน/คอนโด ต้องอาศัยมากกว่าความอยาก หรือความกลัวเสียค่าเช่าเปล่าๆ
เพราะมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะค่ะ
..ด้วยความยาวนานของระยะเวลาในการเป็นหนี้ และความรวดเร็วในการออกตัวของอสังหาริมทรัพย์ กับสังหาริมทรัพย์นั้น ห่างกันลิบลับ ...
อย่างคุณซื้อรถยนต์  เกิดจู่ๆ ตกงาน ผ่อนไม่ไหว ... คุณยังขับไปที่เต้นท์ ขายทิ้งซะเลยก็ได้ หมดปัญหา
แต่ถ้าเป็นคอนโด ... มันไม่ง่ายแบบขายรถค่ะ

แต่คุณเลยจุดของการประเมินตนก่อนซื้อไปซะแล้ว  เพราะตัดสินใจจองไปแล้ว กำลังจะเริ่มผ่อนดาวน์
ก็แนะนำว่าลองไปยื่น pre approve ดูค่ะ .. แล้วลองดูว่าธนาคารมีความคิดเห็นยังไงกับ profile ของคุณ
แล้วถ้ามีจุดไหนต้องทำ ก็รีบทำซะตั้งแต่ตอนนี้ค่ะ เพราะคุณยังมีเวลาถึงหมดช่วงผ่อนดาวน์ ตามที่โครงการแจ้งไว้

ยังไงคุณน้อง จขกท. ก็ลองนำข้อมูลที่พี่ให้ไปพิจารณาละกันนะคะ
และขอให้ตัดสินใจด้วยเหตุผลค่ะ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  คอนโดมิเนียม สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่